วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ชวน‘พระมหาวุฒิชัย’สึก? / โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย

On December 29, 2016

คอลัมน์ : โลกอสังหาฯ
ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย

ผมเห็น “พระมหาวุฒิชัย” กระทำและแสดงความเห็นต่างๆแล้วไม่แน่ใจว่าควรเชิญมหาสึกออกมาหรือไม่ มหาก็ทำดีพอสมควร ไม่มีใครที่จะมีแต่ด้านเสีย แต่สิ่งที่มหาทำเป็นการทำร้ายศาสนาไหมลองมาตรองกันดู

โดยเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ผมโพสต์เฟซบุ๊คว่า “ควรตำหนิมหาวุฒิชัยที่บวชให้คุณ… ตำรวจก็เคยติงไปว่าเขามีคดีติดตัวยังบวชไม่ได้ แต่เลขาฯของมหาอ้างว่าเขาไม่หลบหนีและจะให้สึกในวันที่ 6 ธันวาคม ก่อนที่จะไปพบตำรวจในวันรุ่งขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่สึก มหาบวชให้แบบนี้ยิ่งทำให้เขาถูกมองไม่ดี…” (https://goo.gl/tmn3pu)

มหาวุฒิชัยกลับโพสต์เฟซบุ๊คว่า “อย่าด่วนลดทอนความเป็นมนุษย์ของคนที่เคยผิดพลาด พระพุทธเจ้าไม่ทรงด่วนตัดสินองคุลิมาล” (https://goo.gl/ez0VnD)

คนเป็นถึงมหากลับไม่ดูพระไตรปิฎกฉบับประชาชน หน้า 173 ซึ่งระบุชัดว่า “ห้ามบวชให้โจรที่มีชื่อเสียง” เช่น องคุลิมาล เพราะคนเห็นก็ตกใจกลัว วิ่งหนีแล้ว (https://goo.gl/LBLRJX) คือหลังจากพระองค์บวชให้องคุลิมาลเป็นการเฉพาะแล้วก็ห้ามบวชคนแบบนี้อีก ส่วนคนที่มหาบวชให้ เขาบวชเพราะอะไรกันแน่มหาก็คงรู้อยู่แก่ใจ มหากล้านำคุณ…มาเทียบกับอรหันต์เยี่ยงองคุลิมาลกลับใจได้อย่างไร

การที่พระพุทธเจ้าไม่บวชให้กะเทย คนพิการ คนต้องหาในคดีอาญา ฯลฯ ไม่ได้ลดทอนความเป็นมนุษย์คนใด เพียงแต่พวกเขาไม่เหมาะที่จะบวช ขืนบวชให้ก็จะทำลายพระศาสนา เป็นที่ติฉินเช่นที่ปรากฏในพระไตรปิฎก พระสงฆ์ทั้งหลายจึงตระหนักในข้อนี้ พระพุทธเจ้ามีแต่เพิ่มพูนความเป็นมนุษย์โดยเท่าเทียมกัน โดยไม่ยอมรับระบบชนชั้นวรรณะด้วยซ้ำ

มหาไม่นำพาพระไตรปิฎก เล่มที่ 4 พระวินัยปิฎก เล่มที่ 4 มหาวรรค ภาค 1 ที่ระบุชัดว่า “ห้ามบวชโจรผู้ถูกออกหมายสั่งจับ” (https://goo.gl/B6Mhr1) และ “คนต้องหาในคดีอาญา” (https://goo.gl/WqMK2k) ส่วน “ลักษณะที่ไม่ควรให้บวชบุคคล 20 ประเภท” นั้น (https://goo.gl/eHMlWT) ไม่ได้ระบุเรื่องสำคัญนี้ เพราะเป็นข้อห้ามเพิ่มเติม

ส่วนผู้ต้องหาในคดีขับรถเบนซ์พุ่งชนท้ายรถฟอร์ดจนเป็นเหตุให้ 2 นักศึกษาปริญญาโทถูกไฟคลอกเสียชีวิต และต่อมาได้อุปสมบทนั้น เพราะเขาไม่ได้จงใจทำร้ายร่างกายใคร แต่เป็นอุบัติเหตุ เป็นการบวชอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย และที่สำคัญไม่มีผู้คัดค้านการบวช แต่กรณีคุณ… ตำรวจก็ท้วงติงคัดค้านตั้งแต่แรก แต่มหาก็ยังดึงดันบวชให้ ในใบรายการคุณสมบัติแนบท้ายใบขอบวชในปัจจุบันก็ยังมีถามว่า “เป็นคนต้องหาในคดีอาญาหรือไม่” (http://bit.ly/2hbdg1g) แต่มหากลับไม่นำพา

ถ้ามหาจะช่วยเขาก็ควรให้ไปปฏิบัติธรรมให้จิตใจสบาย อย่าไปใส่เครื่องแบบพระซึ่งอาจดึงให้ศาสนามัวหมอง ในเมื่อเลขาฯของมหารับปากกับตำรวจแล้วว่าจะสึกตามวันก็ควรปฏิบัติตามนั้น ไม่ยื้อจนถูกออกหมายจับ การกระทำเช่นนี้ไม่เป็นผลดีต่อเขา ซึ่งกระทำผิดเพียงด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เป็นการทำให้เขาได้รับการติเตียนเพิ่มขึ้น เท่ากับมหาไม่ได้ชี้ทางสว่างเท่าที่ควร

อนึ่ง ที่ผมวิจารณ์มหานี้ไม่ใช่การจาบจ้วงผู้ที่ถือศีลที่สูงกว่า ผมให้ความเคารพนักบวชและผ้าเหลือง พระศาสดาและพระอรหันต์ย่อมไม่อาจติเตียนได้ เพราะไม่มีข้อติเตียน แต่สำหรับพระสงฆ์ติเตียนได้ ในพระไตรปิฎก เล่มที่ 36 พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ 3 (http://bit.ly/2ipx6XO) กล่าวถึงการรู้จักติเตียนและสรรเสริญตามกาล พระต้องมีวจนักขโมคือ อดทนต่อคำพูดของคนอื่น บางรูปพอถูกเขาว่ากล่าวก็โกรธ แต่พระสารีบุตรเมื่อถูกกระทั่งสามเณร 7 ขวบเตือนว่านุ่งสบงปล่อยชายหย่อนยานไป ท่านก็รับฟังและไปนุ่งใหม่ให้เรียบร้อย (http://bit.ly/2i1tLPz)

ในสมัยพุทธกาลก็มีข้อติเตียนสงฆ์อยู่บ่อยครั้ง และพระพุทธเจ้าก็มักออกกฎให้ปรับอาบัติเสมอมา (http://bit.ly/2imG6kf และ http://bit.ly/2hSns31)

การที่มหาบวชมานาน จบการศึกษามาดี แต่ยังเข้าใจและปฏิบัติคลาดเคลื่อนอย่างนี้ บวชให้คนไม่ควรบวชแบบนี้ ทำศาสนามัวหมองหรือไม่ น่าจะทำให้ตนเองร้อนผ้าเหลืองได้ไหม


You must be logged in to post a comment Login