วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

2เรื่องสำคัญ?

On November 28, 2016

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

สถานการณ์บ้านเมืองสัปดาห์นี้มีสองเรื่องใหญ่ให้ติดตาม

เรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องแรกคือการประชุมนัดพิเศษของคณะรัฐมนตรีและสถานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 29 พ.ย.

ในส่วนของคณะรัฐมนตรีนั้นจะเป็นการประชุมหลังประชุมวาระปรกติซึ่งมีประจำทุกวันอังคาร

ถ้าฟังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ที่บอกว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นตอนสำคัญทุกเรื่อง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ย้ำว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน อย่าไปพูดอะไรให้วุ่นวายวันที่ 29 พ.ย. ประชุมเสร็จก็ส่งต่อให้ที่ประชุม สนช. ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอนเหมือนเดิม

สอดคล้องกับ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ที่ระบุว่า การประชุมนัดพิเศษเป็นผลจากการได้รับการประสานงานจากรัฐบาล แต่ยังออกวาระประชุมอย่างเป็นทางการไม่ได้ว่าจะเป็นการประชุมเรื่องใด ต้องรอรับแจ้งจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน

แม้ประธาน สนช.จะบอกว่าอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับการออกกฎหมายเรื่องสนธิสัญญา หรือเรื่องใดก็ได้ที่เร่งด่วนก็ได้ แต่หากเป็นเรื่องกฎหมายหรือสนธิสัญญาอย่างที่ว่าสามารถประชุมวาระปรกติได้ ไม่ต้องประชุมวาระพิเศษเป็นการด่วน

ถึงจะยังไม่สามารถบอกกับประชาชนโดยตรงได้ แต่เชื่อว่าทุกคนเข้าใจตรงกันว่าเรื่องที่คณะรัฐมนตรีและสนช.จะประชุมเป็นเรื่องด่วนในวาระพิเศษนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

แต่ที่ยังกั๊กไว้ไม่บอกคงเพราะเกรงว่ามีการเลื่อนกำหนดเหมือนที่เคยเลื่อนมาแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้หรือไม่

เรื่องใหญ่อีกเรื่องที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้คือการเข้าควบคุมตัว พระธัมมชโย วัดพระธรรมกายหลังจากที่อัยการมีคำสั่งฟ้องในข้อหาฟอกเงินและรับของโจร

หลังอัยการมีคำสั่งฟ้อง ทางตำรวจขีดเส้นว่าจะเข้าจับกุมตัวให้ได้ภายในสินเดือนนี้ ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เจ้าของคดีก็ออกข่าวถึงการเตรียมความพร้อมเข้าจับกุมเป็นระยะ

ขณะที่อัยการต้องการให้เข้ามอบตัวสู้คดีตามขั้นตอนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และยังมีพระผู้ใหญ่แจ้งต่อรัฐมนตรีบางคนให้รับทราบว่าไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายหากจะเข้าจับพระธัมมชโย

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวเตรียมแผนจับกุมมาตลอด หรือขีดเส้นว่าจะเข้าจับกุมภายในวันนั้น วันนี้ แต่เมื่อดูจากความอายุความของคดีแล้วยังเหลืออยู่อีกหลายปี หากรัฐบาลไม่อย่างเสี่ยงให้เรื่องนี้เป็นชนวนวุ่นวายในบ้านเมืองในช่วงที่จะครองอำนาจอยู่ อาจส่งสัญญาณให้เลื่อนการจับกุมออกไป เพราะสัญญาณจากพระธัมมชโยตอนนี้ชัดเจนประการหนึ่งว่ายังไม่คิดเข้ามอบตัว

ที่สำคัญไม่มีใครยืนยันได้ 100% ว่าพระธัมมชโยยังคงอยู่ในวัดพระธรรมกายหรือไม่ แม้แต่ตำรวจก็ไม่ยืนยันเรื่องนี้ มีเพียงทีมทนายความของวัดที่ยืนยันว่ายังรักษาอาการอาพาธอยู่ในวัด

ไม่ว่าจะมีการบุกเข้าจับกุมพระธัมมชโยหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าติดตามโดยเฉพาะเส้นตายที่ผู้รักษากฎหมายบางฝ่ายขีดเส้นไว้ว่าจะจับตัวให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้

ถ้าเลยเส้นตายแล้วไม่มีการเข้าจับกุม ย่อมแสดงให้เห็นว่ามีสัญญาณให้ผ่อนคันเร่ง ไม่เสี่ยงห้อตะบึงขนกำลังเข้าไปจับกุมกันภายในวัด เพราะรู้ดีว่าต้องเผชิญกับอะไรบ้าง เป็นการเสี่ยงที่ไม่คุ้มกับผลที่จะตามมาแม้จะได้ตัวมาให้อัยการส่งฟ้องต่อศาลหรือไม่ก็ตาม

อย่างไรเสีย อัยการก็สั่งฟ้องคดีแล้ว สู้ทอดเวลาโยนเผือกร้อนให้รัฐบาลใหม่มารับช่วงต่อน่าจะดีกว่าที่จะเสี่ยงเอากับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อการอยู่ในอำนาจที่เหลือเวลาอีกแค่ปีเดียว

เว้นเสียแต่ว่าจะประเมินไปอีกทิศทางหนึ่งว่าจะได้ประโยชน์จากความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น จึงคุ้มค่ากับการเสี่ยงเข้าไปจับกุม

นี่เป็นสองเรื่องใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้


You must be logged in to post a comment Login