วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567

แรงงานรุ่นใหม่กลับเมืองเกิด / โดย ภูริวรรณ วรานุสาสน์

On September 26, 2016

คอลัมน์ : China Today
ผู้เขียน : ภูริวรรณ วรานุสาสน์

จาง หยวนหยวน หญิงสาววัย 28 ปีได้ยุติสถานภาพแรงงานอพยพที่เธอมาทำงานในเมืองเซี่ยงไฮ้นานถึง 9 ปีในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการร้านขายเสื้อผ้าเด็กแห่งหนึ่ง

หลังจากที่เธอรู้ว่าเธอท้องลูกคนที่สอง เธอก็ตัดสินใจเก็บกระเป๋า ยื่นใบลาออกและเดินทางกลับสู่บ้านเกิดที่เมืองจื้อโป มณฑลซานตง เพราะเธอไม่อยากเผชิญกับเหตุการณ์ในครั้งก่อนที่ต้องถูกบังคับให้จากลูกน้อยที่เพิ่งคลอดไปทำงาน แต่ครั้งนี้ เธอจะสามารถใช้เวลาอยู่กับลูกๆของเธอได้ตลอดเวลาเพราะเธอตัดสินใจเปิดร้านของตัวเอง

จางกล่าวว่า แม้ว่าเมืองที่เธอไปจะมีร้านขายเสื้อผ้าเด็กอยู่แล้วหลายร้าน หากแต่ประสบการณ์ในการทำงานที่เซี่ยงไฮ้น่าจะทำให้เธอสามารถคัดสรรเสื้อผ้าที่น่ารักๆมาขายให้กับลูกค้าได้ไม่แพ้ใคร

เรื่องราวชีวิตของจางกำลังกลายมาเป็นกระแสสำคัญในปัจจุบัน

จากการสำรวจโดยหนังสือพิมพ์ไชน่ายูธเดลี่พบว่า 52.8 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 2,000 คน เดินทางออกจากเมืองใหญ่เพื่อไปหางานทำในเมืองเกิดของตนที่เจริญน้อยกว่า

ผลสำรวจยังพบอีกว่า 60.9 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เดินทางกลับบ้าน คาดหวังที่จะดำเนินธุรกิจของตนเอง

จางกล่าวว่า เพื่อนของเธอส่วนใหญ่ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอตอนนี้ได้ลงหลักปักฐานกันแล้ว บางคนก็สืบทอดกิจการของที่บ้าน บางคนก็ทำงานในบริษัทเอกชน บางคนก็ทำงานส่วนราชการหรือไม่ก็เป็นครู

ไช่ จื้อตง (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ราชการส่วนท้องถิ่นจากมณฑลส่านซีได้เปิดเผยว่า เด็กรุ่นใหม่ค่อนข้างต่อต้านงานระดับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ส่วนใหญ่นิยมทำงานในบริษัทเอกชนขนาดใหญ่หรือไม่ก็งานราชการที่มีความมั่นคงสูงๆ

อย่างไรก็ตาม การหลีกเลี่ยงจากเมืองใหญ่ที่คับคั่งไปด้วยผู้คนไปสู่เมืองเกิดที่เงียบสงบก็ไม่ใช่สิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการเสียทั้งหมด เพราะการหางานทำในเมืองเล็กนั้นย่อมยากกว่า รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจของตนเองก็เป็นไปได้ยากกว่าเมืองใหญ่เช่นกัน
ลู่ เจีย พยายามดำเนินธุรกิจของตนเองในเมืองบ้านเกิด ในเขตมองโกเลียใน หลังจากที่ใช้ชีวิตในเมืองปักกิ่งนานกว่า 6 ปี

ลู่เล่าว่า เธอเริ่มจากการขายของออนไลน์ การเป็นนายหน้าขายเครื่องสำอางหรือแม้แต่เป็นแม่ค้าขายของชำ แต่สุดท้ายเหมือนความพยายามของเธอสูญเปล่าเพราะธุรกิจที่เธอดำเนินมาทั้งหมดนั้นไม่ประสบความสำเร็จ
สำหรับผู้ที่เดินทางกลับบ้านส่วนใหญ่นั้น ปัญหาที่พบมากที่สุดก็คือความลำบากในการหาตำแหน่งงานและโอกาสทางธุรกิจ กล่าวคือ 54.8 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่พอใจต่อโอกาสการหางานทำ ขณะที่ 44.4 เปอร์เซ็นต์พบว่าสิ่งแวดล้อมในการทำงานไม่เป็นที่น่าพอใจและ 27.1 เปอร์เซ็นต์พบปัญหาระหว่างเพื่อนร่วมงาน

อย่างไรก็ตาม ไช่เห็นว่า นอกเหนือจากความยากลำบากดังกล่าวแล้ว การทำงานและอาศัยในเมืองขนาดเล็กปัจจุบันได้มีการพัฒนามากขึ้น หลังจากที่ทางการได้มีโครงการต้านการทุจริตเกิดขึ้น

ไช่กล่าวว่า คนรุ่นใหม่ค่อนข้างพอใจกับการทำงานที่มีความยุติธรรมและมีแผนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงนโยบายการต้านคอร์รัปชันก็ยิ่งส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ตัดสินใจกลับบ้านมากขึ้น

ซึ่งไช่กล่าวทิ้งท้ายว่า ตัวเขาเองเชื่อมั่นว่า อนาคตอันใกล้นี้บรรดาเมืองเล็กและหมู่บ้านต่างๆ จะกลายเป็นอนาคตอันสดใสของคนรุ่นใหม่ที่จะเดินทางกลับไปหางานทำที่บ้านเกิดและลงหลักปักฐานอย่างมีความสุข


You must be logged in to post a comment Login