วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

อย่าเชื่องมงาย

On January 20, 2021

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 20 ม.ค. 64)

คำว่า เกินจริง เกินความเป็นจริง ก็อาจจะกลายว่า เป็นคำว่า เป็นเท็จ ตอนนี้มันมีเรื่องที่เกิดขึ้นว่า คนผลิตอะไร ทำโฆษณาโปรโมทสรรพคุณอะไรเกินความเป็นจริง ทำให้มีผู้หลงเชื่อและยิ่งเป็นดารา เป็นพิธีกร อย่างตอนนี้เห็นจะเป็นคุณกะละแมร์ ซึ่งถือเป็นพิธีกรชั้นแนวหน้า คนติดตามเชื่อฟัง ชื่นชอบกันมาก แม้แต่ที่วัดอาตมาก็เคยเชิญมาบรรยาย มาพูดจากให้ชาวบ้านฟัง แต่คราวนี้ไม่นึกว่า จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในวิถีชีวิตการทำงานอาชีพ 

คำว่า โฆษณาเกินความเป็นจริงตรงนี้ มันอาจจะไปถึงเรื่องที่เขาเรียกกันว่า แก้นั่นได้ รักษาโรคนี้ได้ พูดถึงเรื่องผู้คุ้มครองผู้บริโภคเขาก็ต้องตรวจดูรักษาผลประโยชน์ของประชาชน จะไปว่าเขาเล่นคุณกะละแมร์ก็ไม่เชิง เพราะว่า มันมีกฎหมายอยู่ว่า โฆษณาเป็นเท็จ โฆษณามันเกินจริง สรรพคุณอวดอ้าง มันเกินไปทำให้ประชาชนเสียหายหลงเชื่อ ทำให้ประชาชนเสียเงิน เสียทอง และไม่นึกเลยว่า อาชีพหารายได้ ธุรกิจจะมีรายได้ถึงเป็นแสนล้านต่อปีที่คนหนึ่งหันมาทำธุรกิจอาหารเสริมโน้น เสริมนี่ เสริมความงามอะไรต่างๆ 

แต่เห็นเขาจะมีการจับประเด็นหนึ่งว่า จะรักษาโรคโควิด-19 ได้ ตรงนี้ โทษก็หนักติดคุกตั้ง 3 ปี ปรับอีก 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ ใครได้รับโทษอันนี้เข้าไปแล้วก็ต้องบอกว่า เจ็บปวด เสียหายมากมายก่ายกอง ฉะนั้น ดาราก็ดี พิธีกรก็ดี ต้องเริ่มได้บทเรียนจากคุณกะละแมร์ ถือว่า เป็นอาจารย์ เรื่องนี้ให้บทเรียนที่พวกเราจะต้องระมัดระวัง ไม่ผิดพลาด  

พูดถึงโฆษณาเกินความจริง ไม่ใช่แต่เรื่องอาชีพ เช่น พระเครื่องรุ่นนี้ รุ่นนั้น ดังอย่างโน้น อย่างนี้ ไม่รู้ว่า ประชาสัมพันธ์กันเกินหรือเปล่า เพราะว่า โอ้โห โปรโมทกันสุดๆ แม้แต่คุณกะละแมร์ก็เคยเอาเรื่องไอ้ไข่มาโปรโมทไม่ใช่น้อยเหมือนกันว่า ให้โชค ให้ลาภ ให้ร่ำ ให้รวย แต่คราวนี้ไม่รู้ว่า ไอ้ไข่จะช่วยคุณกะละแมร์ได้บ้างมั้ย ถ้าช่วยไม่ได้ แสดงว่า น้องไข่นี่ไม่ได้วิเศษ วิโส ตามที่เป็นข่าวลือ โฆษณาประชาสัมพันธ์กัน เขาก็ว่ากันว่า เป็นคนชุดเดียวกันกับคนที่เคยสร้างจตุคามรามเทพอะไรขึ้นมา 

เรียกว่า ไม่รู้ จริงมั้ยจริง ถ้าจริงก็ต้องถือว่า การหากินมันเป็นขบวนการโฆษณาสรรพคุณดีอย่างโน้น อย่างนี้ ทำให้คนที่ไม่ค่อยมีวิจารณญาณในการรับข้อมูล ข่าวสาร ก็เชื่อง่าย เชื่อดาย หรือเชื่อแบบงมงายไปด้วยก็ยิ่งซ้ำเติมความเสียหายกับประเทศชาติ เศรษฐกิจ ซึ่งตอนนี้ควรที่จะประคับประคองให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่กลับไปทำอย่างนี้ แล้วถ้าผลิตยาไว้เยอะ ของไว้เยอะ ขายไม่ออกจะทำอย่างไร ก็ขาดทุนไปอีก 

เพราะฉะนั้น อะไรทุกอย่างบนโลกนี้มันไม่เที่ยง มีขึ้น มีลง มีแพ้ มีชนะ สมหวัง ผิดหวัง เป็นของธรรมดาในโลก ก็ขอให้ท่านทั้งหลายที่จะเชื่อฟังโฆษณาอะไรกัน ก็ดูเรื่องนี้เป็นบทเรียนกันไว้ ผู้ที่จะเป็นพิธีกร ดารา เป็นคนที่สังคมเชื่อถือ ชื่นชอบก็ต้องระมัดระวัง ยังไงทางศาสนาเองก็โฆษณาชวนเชื่อเกินไป ขายบุญเกินไป ขายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เครื่องรางของขลังเกินไป ไม่รู้ว่า ผู้คุมครองผู้บริโภคจะเข้ามาควบคุมหรือเปล่า เป็นอันว่า ยังไงคนไทยเราน่ะ ใครเขาจะชวนเชื่อยังไงก็ตาม เขาจะชวนยังไง ต้องตั้งสติว่า มันจะเป็นไปได้หรือ เขารับรองกันหรือยัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รับรองมั้ย ถ้ายังไม่ ถามอย.ก่อนดีที่สุด 

เจริญพร 


You must be logged in to post a comment Login