วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

อย่าเสียสมณสัญญา

On October 19, 2020

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 19 ต.ค. 63)

และแล้วม็อบก็ถึงจุดที่เคยเป็น ซ้ำประวัติศาสตร์ อย่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการบาดเจ็บ ทั้งตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ยังไม่รู้ว่า การชุมนุมครั้งต่อไปจะเจ็บเท่าไร ต้องเรียกกันว่า พอแล้ว แต่แล้วก็ไม่มีคำว่า “พอ” นั่นเอง เพราะต่างฝ่ายต่างก็เขยิบขยับเขยื้อน เคลื่อนเข้าหาซึ่งกันและกัน แผงเหล็กก็ปลิวว่อน การขว้างปาก็เกิดขึ้น นี่ถือเริ่มเป็นการเพาะบ่มอารมณ์ ถ้าแรงกว่านี้ อารมณ์ก็จะเกิด แต่ภาพที่สลดก็คือ พระ เณร ที่ไหนไม่ทราบไปจุ้นวุ่นวาย

น่าจะมีการตรวจสอบพระเณรวัดใดที่ไปยกมือไหว้ตำรวจหรือไหว้เจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ใช่คิด ไม่ใช่หน้าที่ อย่างนี้เขาเรียกว่า ไปจุ้น วุ่นวายทำให้มีภาพพจน์ไม่ดีเกิดขึ้น พระควรขึ้นภูดูเขาสู้กัน ขึ้นปราสาทแห่งปัญญา อย่าลงไปคลุกกับเขาด้วย ซึ่งมันอดไม่ได้ วันก่อนก็มี วันนี้ก็มี และต่อไปข้างหน้าก็คงมี เพราะว่า อารมณ์ที่สงบมันน้อยกว่าอารมณ์ร่วม เห็นคนเยอะ คนมากก็อดที่จะถลำเข้าไปไม่ได้ อันนี้เป็นเรื่องที่อย่าให้เด็กๆเขารู้สึกว่า แย่งซีนเขาหรือเปล่า

อาตมาคิดว่า อย่าไปแย่งซีนเขาเลย อยู่ให้เป็นในฐานะสถานการณ์แบบนี้ อยู่ยังไงให้อยู่รอดปลอดภัย อยู่แล้วไม่มีภาพเข้าไปในลักษณะเสียหาย ถ้าอยู่ไม่เป็นก็นั่นแหละ เดี๋ยวจะไม่ได้อยู่วัด จะไม่ได้อยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ ซึ่งแต่ละวัดควรจะตั้งหลัก ตั้งสติ ให้ข้อคิด เขาเรียกว่า ผสมโรง ไปแจมอะไรกัน เพราะภาพมันฟ้องออกมาว่า ในที่สุดก็ต้องเดินหนี ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เพราะไม่ใช่สมเด็จวัดป่าแก้วที่จะเข้าไประงับเหตุอารมณ์คนหรือยับยั้งเหตุการณ์

ยังไงก็ต้องคอยห้าม คอยเตือน แต่ไม่ใช่ไปถึงก็ยกมือไหว้ ซึ่งช่วงนั้นเขาคงไม่ค่อยจะรับได้ ทำยังไงไปทั้งสองฝ่ายก็ไม่อยากจะรับอารมณ์คน ไม่ได้จะรับพระเณรได้ทุกสถานการณ์ บางสถานการณ์ไม่มีอารมณ์จะรับเลย เข้าไปก็เสียเปล่า เปลืองเนื้อ เปลืองตัว เสียภาพลักษณ์ และเสียสมณสัญญา ก็หวังว่า ขอให้ยุติบทบาทพรรณ์นี้เถอะ ยังมีบทบาทอื่นที่เป็นไปเพื่อความสงบระงับจะดีกว่า

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login