วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

แพ้คดี แต่บารมีเพิ่มขึ้น

On August 10, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 10 ส.ค. 63)

และแล้วคำว่า คนรวยไม่มีทางติดคุก คนจนเท่านั้นที่จะนอนคุก คนรวยนอนบ้าน” ตอนนี้บ้านคนรวยก็ชักระส่ำระสาย ไม่ติดคุกก็เหมือนกับติด เพราะติดร่างแห อาตมาเชื่อมั่นความร้อนใจของตระกูลอยู่วิทยาต้องมีเกือบทุกคนจนถึงขั้นร่อนสารจดหมายเปิดผนึกว่า ขอให้บอส กระทิงแดง มาเคลียร์ปัญหาด้วยตัวเองและมาแสดงความเสียใจแล้วก็บอกว่า ไม่ได้รับรู้เรื่องนี้กับครอบครัวของบอส เขาก็ไม่มาแจ้ง มาบอก

ความทุกข์ที่โดนสังคมถล่มอย่างหนัก และปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนให้ตระกูลต่างๆที่รับผิดชอบต่ำ หรือไม่รับผิดชอบในความผิด แล้วจะอยู่ดี มีสุข โดยไม่กระทบกระเทือนหูตลอดไปคงยาก แต่คนที่รับผิดชอบเท่านั้นที่ไม่หนี ต่อสู้กับความผิดด้วยการรับผิดชอบ ผิดรับผิด ถูกรับถูก อย่างเสี่ยรถเบนซ์ก็มีคนชื่นชมและให้อภัย แถมคู่กรณีลูกของคนตายตำรวจเหมือนกันก็รู้สึกเคารพในน้ำใจของเสี่ยเบนซ์ที่ไม่ถอดทิ้งคู่กรณี

ยิ่งไปกว่านั้น อาตมามานั่งดูการ์ตูน ซึ่งธรรมดาพระก็ไม่ได้ชอบการ์ตูน แต่การ์ตูนบางเรื่อง บางฉบับมันต้องดูว่า ทำไมเขาคิดได้เก่ง เช่น ภาพตำรวจเคยอุ้มคนและเด็กเกาะแข้ง เกาะขาเนี่ย เดี๋ยวนี้กลายเป็นอนุสาวรีย์ตำรวจ กลายเป็นอุ้มกระทิงแดง อันนี้ ถ้าพูดตามศัพท์สมัยต้องเรียกว่า บอสไม่ได้ชนตำรวจตายคนเดียว ชนตำรวจตายเกือบทั้งกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติเลย เรียกว่า เจ็บปวดหลายคน

เรื่องนี้ไม่ใช่ชนกับตำรวจ แต่ชนกับอัยการด้วย แล้วยังไปชนคนอื่นอีกหลายคน แม้กระทั่งกระเซ็นกระสายไปถึง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เหมือนกัน เอาละ ตัวละครใหม่ๆก็ออกมาเรื่อยๆ แต่อยากจะฝากบอกทั้งหมด ทั้งสิ้นนี้ คำว่า “วิปฏิสาร” คือ ความร้อนใจต่อการกระทำที่แล้วมา บางฉบับถึงบอกว่า ก้นร้อน ตำรวจและอัยการก้นร้อน

ภาษาเก่าๆ สำนวนเขามีเขียนไว้ว่า “ทิพอาสน์เคยอ่อนแต่ก่อนมา กระด้างดังศิลาประหลาดใจ” นี่ รามเกียรติ์เรื่องโบราณ เคยนั่ง เคยนอนที่นิ่มๆ เคยอยู่บนตำแหน่งอย่างเสวยสุข ไม่ถูกทิ่ม ถูกแทงด้วยคำพูดถากถาง เยาะเย้ย เขียนภาพ แต่เดี๋ยวนี้เขาบอกว่า ถ้าอยากจะมีเหรียญก็อย่าไปมัวหาเหรียญหลวงพ่อคูณ เหรียญกระทิงจะรอด เขาก็ล้อกัน อย่าไปมัวแขวนเหรียญไอ้ไข่เลย มันต้องหาเหรียญอย่างนี้ๆ

พูดกันง่ายๆว่า ถากถาง กระทบกระเทียบ กระแทกแดกดันกันทุกวันๆ อาตมาว่า อยากจะไปเขียนเรื่องอื่นบ้างแล้ว แต่พอมานึกถึงเรื่องนี้มันโยงใยเหมือนกับเรื่องของเราเหมือนกัน ก็มีคนถามว่า ชนะคดีโฉนดถุงกล้วยแขกหรือยัง อาตมาก็บอกยัง แต่ว่า คนพูดกันมากว่า หลวงพ่อจังหวะมันมาถูกทางแล้ว ตอนนี้ถ้าภาษาเก่าๆ เรียกตีเหล็กเมื่อไฟยังร้อน ถ้าคดีวัดสวนแก้วแพ้อีก หมายความว่า คดีกระทิงแดงชนะ คดีวัดสวนแก้วแพ้

เรียกว่า 2 คดีนี้มีอะไรใกล้เคียงกันอยู่ในความไม่ชอบธรรม ไม่ชอบมาพากลของกระบวนการยุติธรรม แล้วเมื่อไม่นานมานี้ บังเอิญมีนิมิตหมายที่ดี ได้พูดคุยกัน โดยศาลจังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงมาถวายสังฆทานที่วัดสวนแก้ว อ้างว่า เป็นวันเกิด เลยได้คุยกันว่า คุณไม่ใช่อยู่ในยุคนนั้น ไม่ใช่ศาลนนท์ยุคที่มีกรณีโฉนดถุงกล้วยแขกที่รับเรื่องฝ่ายตรงข้ามกับมูลนิธิวัดสวนแก้วนี่ เขาก็บอก ได้พูดคำหนึ่งถนัดหูเลยว่า พวกผมอยู่ในวงการเดียวกันก็อึดอัดเหมือนกัน

ตำรวจก็บอกอึดอัดพวกตำรวจด้วยกันเหมือนกัน ศาลก็อึดอัดพวกศาลด้วยกันเหมือนกัน แล้วเล่าเรื่องถึงผู้พิพากษาที่ยิงตัวตายที่จ.เชียงใหม่ ทีแรกยิงที่ยะลาไม่ตาย พูดไป พูดมาก็เลยบอกว่า เราก็ดีกันแล้ว อย่ามานั่งขุ่นเคือง อาตมาก็พูดว่าแต่เรื่องศาลนนท์ยุคนั้น เพราะอาตมาไปต่างจังหวัดช่วงนั้นก็มีศาลจังหวัดต่างๆทางภาคอีสานมาให้กำลังใจว่า ศาลนนท์เขาทำอะไรกับหลวงพ่อพระพยอมก็พูดกันไป

เรียกว่า คุยกันด้วยดี จากกันด้วยกัน มากันด้วยดีกับหัวหน้าศาลนนท์ในขณะนี้ เขาก็บอกว่า ที่มาที่วัดสวนแก้ว 2 ครั้งแล้ว ทำให้หวนคิดไปว่า เราผิดหรือเปล่านะที่บอกว่า จะไม่ไปเทศน์กับพวกข้าราชการกระทรวงยุติธรรมต่อไปแล้ว และกระบวนการยุติธรรมนี้ เราเคยไปแตะทีไร ไปร้องเรียนอะไรก็ดีดยังกับกุ้ง บอกเราไม่ล่วงเกินกัน ไม่ก้าวก่ายกับกระบวนการอื่นๆ เรื่องนี้มันก็มีคนว่า คณะของอ.วิชา มหาคุณ น่าจะพออุ่นใจ

แต่คณะอื่นๆ ตำรวจสอบตำรวจ อัยการสอบอัยการ ชาวบ้านเขาพูดไปอย่างนี้แหละ สรุปว่า เป็นเรื่องที่ชัดแล้ว เรื่องนี้ก็มีคำพูดของคนที่มาบอกว่า หลวงพ่อเราก็มีโอกาสชนะนะ เพราะกระบวนการยุติธรรมก็ต้องอยากจะกู้หน้าให้ศาลพ้นความเสื่อมต่ำ และเชื่อว่า อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี ก็ต้องเป็นผลพลอยได้ มีชื่อ มีเสียง มีผลงาน

แต่ถ้าพระพยอมแพ้ อ.ปรเมศวร์ ก็เกิดยากเหมือนกัน ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลก็จะแพ้ศาลพระภูมิ ศาลเจ้า หรือศาลเตี้ยอะไรก็แล้วแต่ก็พูดกันไป ก็ทำให้เราพอมีความหวัง น่าชนะหรือไม่ชนะก็ไม่รู้ แต่ถึงอาตมาจะแพ้ทางคดี แต่เชื่อมั่นว่า บารมีก็จะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป คนจะเห็นใจ ได้ใจมวลชนมาก เรียกว่า ชนะใจประชาชน ถึงจะแพ้คดี แต่กระบวนการยุติธรรมที่กำลังเสื่อมอย่างชนิดที่เรียกว่า ครั้งนี้ ถ้าเขาไม่คิดกู้กัน จะปล่อยให้ตกต่ำ พระเวลาเกิดเรื่องตกต่ำ มหาเถรสมาคม (มส.) บ้าง สำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) บ้าง ก็จะออกกฎโน้น กฎนี้แก้ไขปรับปรุงป้องกันๆ แต่คราวนี้ ตำรวจกับอัยการ ศาล ไม่คิดเรียกศักดิ์ศรีกลับคืนมาบ้างก็แล้วไป

 

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login