วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

นายกฯขอโทษคนไทยกรณีทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ที่ระยอง

On July 14, 2020

วันนี้ (14 ก.ค.2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงถึงกรณีสถานการณ์วิด-19 ใน จ.ระยอง ภายหลังพบมีนายทหารอียิปต์นายหนึ่งมีเชื้อโควิดและออกไปในพื้นที่ภายนอกโรงแรมที่พักว่า เรื่องสำคัญที่เป็นประเด็นที่ จ.ระยอง ซึ่งวันนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เกิดจากการไม่เคารพกติกา ไม่มีวินัย ไม่คิดถึงส่วนรวม ทำให้เกิดปัญหา ความรับผิดชอบก็โทษกันไปมา ตนในฐานะ ผอ.ศบค.ขอรับผิดชอบตรงนี้ด้วย สิ่งสำคัญที่สุดต้องหาวิธีการปิดจุดหละหลวมเหล่านี้ให้ได้ และวันนี้ได้ส่งทีมลงพื้นที่ติดตามเก็บข้อมูลเชิงลึกแล้ว รวมถึงตรวจหาพื้นที่สัมผัส และผู้อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว และหาจุดการลงทะเบียนเข้าออกทางแอปพลิเคชันไทยชนะด้วย นอกจากนี้ จะมีการตรวจเชื้อเพิ่มเติมกับบุคคลที่สัมผัส และมีความกังวลในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อให้ทุกคนเกิดความสบายใจมากที่สุด และเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้ ศบค.ไปทบทวนเรื่องเหล่านี้ มาตรการผ่อนคลายต่างๆ ทั้งบรรดาสถานทูต เอกอัครราชทูตต้องปฏิบัติตามระบบระเบียบทุกประการ ต้องทบทวนตรงนี้ใหม่ ส่วนการอนุญาตบินเข้ามาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินทหาร หรือที่ใดก็ตาม ต้องทำตามมาตรการที่กำหนดไว้ อันนี้เป็นเรื่องความไม่รับผิดชอบในส่วนที่รับปากกันไปแล้วและผ่านการตรวจสอบไปแล้ว แต่ออกไปนอกพื้นที่ ถือเป็นการฝ่าฝืน ตนได้ให้กระทรวงการต่างประเทศหารือกับสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยไปแล้ว อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก พร้อมกับระงับทุกเที่ยวบินที่เข้ามาในลักษณะนี้ทั้งหมด ไม่มีการอนุมัติให้เข้ามาอีกจนกว่าจะแก้ปัญหานี้ได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกปัญหามีความสำเร็จและมีส่วนที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมมาตรการ รัฐบาลโดยศูนย์โควิดฯ ไม่ได้หยุดยั้งเรื่องเหล่านี้ ฉะนั้นขอให้เชื่อมั่นมาตรการสาธารณสุขของเรา ถ้ามองว่าจะเลวร้ายหรือไม่ดีทำนองนี้ก็ขอให้เชื่อมั่นระบบสาธารณสุขของเราที่รองรับได้ แต่ก็ไม่ควรจะเกิดขึ้น อันนี้เป็นสิ่งที่ตนเสียใจ ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนคนไทยด้วย จะต้องมาดูแลกันให้มากที่สุดในหลายประเด็น หลายปัญหาเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด อาจเกิดข้อบกพร่องบางประการในหลายที่ ตนได้ย้ำในที่ประชุม ครม. และให้ ศบค.แก้ไขทบทวนทุกอย่างโดยเฉพาะมาตรการในการผ่อนคลายต่างๆ เพราะจะกระทบไปถึงเรื่องความเชื่อมั่น ความปลอดภัยของประชาชนโดยรวม รับปากว่าจะดำเนินการให้ดีที่สุด ขอเวลาให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และ ศบค.ได้แก้ปัญหา

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า สิ่งที่กังวลอีกในกรณีที่การ์ดตกในหลายส่วนด้วยกัน ทั้งภาคประชาชน สถานผู้ประกอบการต่างๆ ตนได้เน้นย้ำให้ตรวจตราให้รัดกุมมากกว่าเดิม และปิดทันทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่เที่ยวกลางคืน ผับ บาร์ ที่ที่มีคนหนาแน่น ตนได้รับการรายงานมาต้องปิดทันทีถ้าไม่แก้ไข ส่วนนี้ผู้ประกอบการต้องร่วมมือ เมื่อกำหนดมาตรการไปแล้วแต่ไม่ปฏิบัติก็ต้องยกเลิกไปจนกว่าจะแก้ไขให้ได้ และวันนี้ต้องขอย้ำเรื่องการสวมหน้ากาก ล้างมือ โหลดแอปพลิเคชันในการเช็กอิน สถานที่ต่างๆ การเว้นระยะห่างยังต้องมี ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าที่ทำมาลำบากโดยตลอด ผลที่ออกมาวันนี้เราอยู่ในระดับที่รักษาความปลอดภัย มาตรการสาธารณสุขเรื่องโควิด-19 อยู่ในลำดับแรกๆ ของโลกด้วยซ้ำไป

สำหรับเรื่องวัคซีน ตอนนี้มีความก้าวหน้าตามลำดับ เตรียมการนำไปสู่การทดลองกับคนด้วย ดังนั้นวันนี้ต้องหาอาสาสมัครจำนวนหลายพันคนเพื่อทดสอบวัคซีนตัวนี้ ขณะเดียวกัน ต้องส่งไปตรวจสอบที่ต่างประเทศด้วยก่อนจะมีการทดลอง ถ้าเราสามารถทำได้เป็นประเทศต้นๆ ของโลกจะเป็นชื่อเสียงของประเทศไทยอย่างยิ่ง ข้อสำคัญที่สุดประเทศไทยจะปลอดภัยจากโรคนี้ ต้องขอขอบคุณคณะแพทย์โดยเฉพาะโรงพยาบาลจุฬาฯ และโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องอีกหลายโรงพยาบาลที่ช่วยกันตรงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นบทเรียนที่จะต้องกลับมาล็อกดาวน์ห้ามชาวต่างชาติเข้ามาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตรงนี้ขอทบทวนก่อน ถ้าจะปิดทีเดียวเลยต้องหามาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ตอนนี้ยังมีการติดตามอยู่ว่าไปที่ไหนอย่างไร มีใครติดเชื้อบ้างหรือยัง ขอให้ประชาชนช่วยกันดูแลด้วยซึ่งขึ้นอยู่กับคนหลายคน ถ้าทุกคนไม่ทำตามระเบียบ ระบบ มันก็มีปัญหาอีก วันนี้จริงๆ แล้วเครื่องบินที่เข้ามาเป็นครื่องบินทางทหารที่เปลี่ยนเที่ยวบิน ปกติมาแล้วจะต้องไปเลย แต่ปรากฏว่ามีการหยุดค้างคืน และมีบริษัทพาเข้าโรงแรม ซึ่งตามกติกาต้องอยู่ในโรงแรม ปรากฏว่าไม่ควบคุม และควบคุมกันไม่ได้ดี ตนได้สั่งการเข้มงวดทุกพื้นที่แล้ว และวันนี้ไม่อยากให้เป็นประเด็นที่ทำให้ความก้าวหน้าของมาตรการต่างๆ มีปัญหาอีก ส่วนจะกระทบถึงแผนการ Medical tourists หรือไม่นั้น ตนได้แจ้งทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปแล้ว ให้เตรียมการไว้ก่อน แต่การจะอนุมัติหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เราไม่ผลีผลาม ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาอีก เพราะถ้าคนจำนวนมากเข้ามาและเจอแบบนี้ที่ไม่รักษาวินัย ไม่เคารพกติกาก็จะเกิดปัญหา ฉะนั้นเรายังไม่ผ่อนคลายตรงนี้ แต่ไม่ถึงขั้นล็อกดาวน์หรือห้ามทั้งหมด เพียงแต่ต้องหามาตรการที่เข้มข้มในจุดที่อ่อนไหว มีปัญหา เช่น เจ้าหน้าที่ทูต ครอบครัว ต้องเข้าพื้นที่กักกันโดยรัฐ บุคคลวีไอพี นักธุรกิจ จะต้องทบทวนมาตรการต่างๆ รวมถึงความพร้อมของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกัน เรื่องน้ำยาตรวจเชื้อต้องมีเพียงพอทุกพื้นที่ โดยตนย้ำว่าทุกสนามบินต้องมีมาตการเช่นเดียวกันในการตรวจสอบ

เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เตรียมจะไปยื่นร้อง ป.ป.ช.เอาผิด ศบค.ทั้งคณะ ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีนายทหารจากประเทศอียิปต์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเรื่องการฟ้องร้องไป ให้ไปแก้ปัญหากันในกระบวนการยุติธรรม ถ้าฟ้องกันทั้งหมดทุกเรื่องก็ฟ้องได้ทั้งวัน ตนก็ไม่ได้ไปห้าม แต่ขอให้มีความเป็นธรรม จะฟ้องร้องอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน ต้องดูประเด็นให้ครบทุกมิติ เราทำอย่างไร ปัญหาอยู่ที่ไหน การแก้ปัญหาโควิดต้องให้ความสำคัญด้านสาธารณสุข งบประมาณที่จะต้องใช้ด้านนี้ มาตรการรองรับการแพร่ระบาด จัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม การใช้งบวิจัย พัฒนาวัคซีน เราต้องตั้งบส่วนนี้ไว้ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันหน้าเงินที่เหลือก็จะไปพัฒนาโรงพยาบาลต่างๆ ในระดับตำบลและกลุ่มจังหวัด เพื่อไม่ต้องเข้ามาถึงกรุงเทพฯ สิ่งเหล่านี้อยู่ในแผนงานทั้งสิ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการทบทวนการปิดสนามบิน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นการทบทวนว่ามารการมีจุดรั่วตรงไหน แต่ไม่ได้ปิด เพียงแค่ชะลอนิดหน่อย อย่างเคสที่เกิดขึ้น มันไม่น่าจะเกิดขึ้น หลายอย่างเราหยุดหมดไม่ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรอกลับไทยอีกเยอะ และนักธุรกิจต่างๆ ที่ต้องเข้ามาดูกิจการของเขาก็มีอยู่ นักการทูตก็ต้องเดินทาง ระดับผู้นำก็ต้องเดินทางพบปะผู้นำระดับสูงซึ่งต้องมีมาตรการเข้มงวด

 
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องแบล็กลิสต์ประเทศอียิปต์เลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น


You must be logged in to post a comment Login