วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

ธรรมวินัยกับกฎหมาย

On June 22, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 22 มิ.ย. 63)

ตั้งแต่เกิดมาคำว่า กำลังใจ คำว่า สงสาร ซึ่งไม่เคยครั้งไหนได้ยินผ่านหูสะดุดใจเท่ากับครั้งนี้ก็คือ หลังจากมีสื่อมวลชนมาที่วัดสวนแก้วทำข่าวการแถลงของอาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี กับอาตมาแล้ว ก็ได้เกิดมีกลุ่มต่างๆมากันอย่างคับคั่งตั่งแต่ผู้รู้ทางกฎหมาย ทางศาสนา ประชาชน ล้นหลามที่ให้มาให้กำลังใจ และโอนปัจจัยมาช่วยโดยไม่ต้องบอกบุญ ไม่ต้องเรี่ยไร แต่หลั่งไหลมาด้วยความสงสาร ความเห็นใจ

นี่แหละความเห็นใจ ความกรุณา ความปรารถนาที่จะช่วยวัดให้พ้นทุกข์ ให้ศาสนามีความมั่นคง หลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย แต่เอาละ ต้องบอกประชาชนว่า อย่าไปยินดี ยินร้ายกับเรื่องอะไรทั้งหมด และอย่าหวังว่า จะได้ตามที่คาดหวัง หรือตามคำบอกเล่าของใครก็แล้วแต่ แม้แต่อาจารย์ปรเมศวร์จะเก่ง จะมีความสามารถสูง และมีความตั้งใจดี แต่ก็มีคนที่ชัดเจนว่า อาจารย์ปรเมศวร์ต้องทำงานอยู่ในราชการ เป็นคนของราชการ

ข้าราชการนั้นมีทั้งตงฉิน กงฉิน หรือพูดอีกคำก็มีทั้งเทพ ทั้งโจร ข้าราชการโจร ข้าราชการเทพ มีทุกที่ ทุกองค์กร ทุกสถาบัน อาตมาเชื่อมั่นว่า แม้แต่ในศาสนา พระก็มีพระเทพ พระมหาโจรที่ปล้นประชาชนแบบไม่เกรงกลัวในการผิดศีล ผิดวินัย ข้าราชการไทยที่ไหนก็ที่นั่น ซึ่งมีคนก็พูดกันว่า โกงดี โกงได้ โกงชนะ เท่าที่อาตมามีประสบการณ์ที่ผ่านมา คือ ไปหาใครต่อใคร ใครก็บอกว่า ไปที่นั่นซิ ไปที่นี่ซิ ไปป.ป.ช.ซิ ไปดีเอสไอซิ กระทั่งไปสูงกว่าดีเอสไอก็ถูกดีดอย่างกับกุ้งดีด

เรียกว่า เขาให้ประโยคเดียว คือ ไม่อยากก้าวก่าย ดังนั้น อาตมาว่า ครั้งนี้จะความหวังดี จะเก่ง ดีมีประสบการณ์สูงของอาจารย์ปรเมศวร์อย่างไรก็ตาม เชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า ท่านคงจะขยับตัวยากในหมู่ข้าราชการที่อาจจะเป็นฝ่ายตรงข้าม ทนายฝ่ายตรงข้าม หรือกลุ่มนักกฎหมายฝ่ายตรงข้าม ช่วงระหว่างชิงดี ชิงเด่น อำนาจ ผลประโยชน์ ก็คงจะทำให้อาจารย์ปรเมศวร์ขยับตัวยากอยู่ นอกจากมีข้าราชการระดับสูงเหนือสุดขึ้นไปเปิดช่องทางให้กำลังใจสนับสนุนให้ช่วยวัด ช่วยศาสนาอย่างเต็มที่

อาตมามองว่า ก็น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ตามที่อาจารย์ปรเมศวร์ ว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่มา แต่สำหรับอาตมาแล้วขอย้ำว่า 50-50 นี่ก็ค่อนข้างจะมากเกินไป เพราะรู้ว่า เรื่องขยับตัวในองค์กรต่างๆไม่ใช่คล่องตัวง่าย โดยเฉพาะในระดับราชการไทย เรารู้ว่า ข้าราชการเทพกับข้าราชการโจร อันไหนจะมากน้อยกว่ากัน ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป ถ้าข้าราชการเทพมีเยอะ ทนาย ผู้พิพากษาต่างๆที่เป็นเทพมีเยอะ ซึ่งทนาย ผู้พิพากษาในวงการกฎหมาย ถ้าเทพมากๆก็แน่นอนมีโอกาสที่จะทำนุบำรุงปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้ไม่เสียหายเป็น 10ๆล้าน

คงจะไม่ซ้ำกับคดีของอาจารย์กิตติวุฑโฒ ซึ่งคดีนี้ถ้าไม่มีการยิงกันในศาล ทนายความตาย และคนยิงพล.ต.ต.ตาย ก็ไม่แน่ว่า คนที่เกี่ยวข้องกับที่ดินจะติดคุกอย่างทุกวันนี้ ก็ต้องติดตามดูต่อไปก็แล้วกัน แต่ขอไว้อย่างว่า อย่าลุ้นกันจนกระทั่งเสียใจ ร้องไห้เหมือนบางคนที่มาให้กำลังใจและก็อย่าลิงโลดถ้าเกิดชนะไปซ้ำเติมฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง มันจะไม่เกิดประโยชน์ มันจะทำให้จิตใจไม่บริสุทธิ์ ในพุทธศาสนาเราถือว่าจิตบริสุทธิ์สำคัญที่สุด

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อาตมามานึกถึงพระพุทธเจ้าประทานหลักไว้ดังต่อไปนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่า สิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้นก็ไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ห้ามไว้ว่า สิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย จะตรัสไว้ในลักษณะอย่างหนึ่ง และอีกอย่างหนึ่งบอกว่า สิ่งที่ไม่ได้อนุญาตไว้ว่า สิ่งนี้ควร หากสิ่งนี้เข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้นไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่า สิ่งนี้ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งไม่ควร สิ่งนั้นก็ควรแก่เธอทั้งหลาย

พูดถึงมหาประเทศนี้เหมาะกับระหว่างธรรมวินัยกับกฎหมายของบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้จะมีคนค้านว่า ไม่มีกฎหมายระบุไว้ชัดว่า คุ้มครองเรื่องกฎหมายโฉนดครอบครองปรปักษ์ รักษาประโยชน์เรื่องที่ดินโดยตรง ไม่มี แต่ก็แปลก กฎหมายประเทศไทยเขียนกันจังเลย แต่ไม่ยักเขียนไว้ข้อหนึ่งว่า ถ้าซื้อมาถูกต้องแล้วควรจะได้รับการคุ้มครอง ถึงแม้ไม่มีอยู่ในกฎหมายโดยตรงก็ต้องดูกันต่อไปว่า ธรรมวินัยกับกฎหมายนั้น เขาจะมาใช้คล้ายๆกันหรือไม่

 

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login