วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

“ปรเมศวร์”มั่นใจโฉนดถุงกล้วยแขกมูลนิธิสวนแก้วมีสิทธิ์ได้เงินคืน10ล้าน

On June 17, 2020

วัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี ( 17 มิถุนายน 2563) นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักคดีอาญาธนบุรี กล่าวในช่วงแถลงข่าวเรื่องราวของโฉนดที่ดินเจ้าปัญหาของมูลนิธิสวนแก้วที่เป็นข่าวช่วงผ่านมาว่า

“ท่านอัยการสูงสุดมอบหมายให้ผมเข้ามาดูแลอย่าให้มีเรื่องเอาเปรียบพระเลย อยากจะบอกว่า วันนี้มูลนิธิยังครอบครองที่ดินผืนนี้อยู่ ถ้าเขาจะเอาที่ผืนนี้ไปตามประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์  มาตรา 1332  ท่านต้องชดใช้ราคาที่ดิน ให้กับหลวงพ่อก่อน ตามอย่างที่หลวงพ่อพูดว่า หากเขาขายได้ 80 ล้าน แล้วเอา 10 ล้านมาให้หลวงพ่อ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์คุ้มครองผู้ซื้อขายโดยสุจริต หลวงพ่อท่านซื้อโดยเปิดเผย เจ้าพนักงานที่ดินบอกโฉนดถูก เมื่อดูแล้วยังคิดว่าโฉนดที่ดินของหลวงพ่อยังอยู่ หมายความว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่โฉนดฝั่งนี้จริง ๆ ยังใช้ได้อยู่ ทายาทเจ้าของที่ดินเดิม ไม่สามารถไปร้องในคดีเดิม  ขอดูรายละเอียดอีกนิด คนผิดคือคนที่ขอออกโฉนด คนที่สอง คือทายาท ทำไมไม่ปกครองทรัพย์สินตัวเองให้ดี ทิ้งให้เขายึดถือทำไม 18 ปี ทิ้งร้างไป 20 ปี ไม่เรียกร้อง กฎหมายแพ่งบอกว่าถ้าทิ้งร้างไปแบบนั้น แสดงว่าสละสิทธิ์ แล้วอยู่ ๆ มาเอาคืนโดยผู้ซื้อคือมูลนิธิซื้อมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนทำไมต้องเสียฟรี ๆ นี่คือหลักคิดธรรมดา

อยากจะกราบเรียนกับหลวงพ่อว่า กฎหมายให้ความเป็นธรรมตลอด เพียงแต่คนใช้กฎหมายจะใช้เป็นไหม และคดีนี้เป็นคดีแพ่ง  คดีแพ่งศาลจะไม่วินิจฉัยเกินกว่าคู่ความต่อสู้กัน เพราะจะทำให้ศาลเอียง

ทั้งนี้ นายปรเมศวร์ กล่าวทิ้งท้าย ด้วยตนเองมั่นใจว่ามูลนิธิสวนแก้วจะได้เงิน 10 ล้านคืน หากไม่มั่นใจ คงไม่มาแถลงข่าว

พร้อมกันนี้นายปรเมศวร์ ทิ้งท้ายว่าขอให้คู่กรณี เข้ามาคุยกันอย่างเปิดเผย อย่าให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้

ทางด้านพระพยอม กัลยาโณ ประธานมูลนิธิสวนแก้ว กล่าวว่า อย่าไปพูดเรื่องผิดเรื่องถูกตามที่อาจารย์ปรเมศวร์ว่า ให้ป้องกันแก้ไขข้างหน้าจะดีกว่า อบรมข้าราชการที่ยังไม่รู้ ถ้าไม่รู้อย่าชี้ ถ้าไม่รู้แล้วชี้ มันเสียหาย เป็นไปได้หรือไม่ อบรมข้าราชการทั้งประเทศ เรารู้ว่า กูรู ทางกฎหมายเริ่มออกมา อาตมาสบายใจและดีใจที่สุด เมื่อวานนี้คณะกรรมการศาสนาสภาผู้แทนราษฎร มาพบ 5 ท่าน เมื่อเช้าอัยการนนทบุรี มาเข้าพบ อาตมาดีใจ

“อยากฝากสื่อมวลชนไทย จะทำอย่างไรให้หัวใจเที่ยงธรรม ถ้าอาตมา แพ้ก็อย่าโกรธกัน ถ้าอาตมาชนะ ก็อย่าไปปรักปรำฝ่ายที่สร้างคดี อย่าไปซ้ำเติมอย่าไปสมน้ำหน้าเพราะว่าอาตมาจะเสียสภาวะจิตบริสุทธิ์  อาตมาพยายามทำใจที่สุดไม่โกรธกรมที่ดิน ไม่เกลียดผู้พิพากษา ไม่ตำหนิทนาย และเมตตาที่สุด คือนางวันทนา”

กรณีที่ถามว่าทำไมไม่ฟ้องนางวันทนา ผู้เอาโฉนดมาขาย พระพยอมกล่าวว่า “คนที่บอกไปฟ้องนางวันทนา คือคนไม่รู้เรื่องฟ้องแล้วจะได้อะไร ก็เอาคนแก่ ไปติดคุกเพราะแกไม่ได้ใช้เงินที่ซื้อ 10 ล้าน มีคนเอาไปใช้แทนแกหมด อันนี้เป็นความจริง แกไม่ได้เหลือใช้ แล้วถ้าไปฟ้อง จะเอาอะไรกับแกได้ เราฝากไว้แค่นี้”

พร้อมกันนี้ พระพยอม ได้กล่าวในระหว่างแถลงข่าวว่า การที่อาจารย์ปรเมศวร์ กล่าวว่า มั่นใจเต็มร้อยว่าได้เงิน 10 ล้านคืน  ทำให้เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์


You must be logged in to post a comment Login