วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

จัดระเบียบเช่าที่ดิน-อาคารวัด

On January 16, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  16 ม.ค. 63)

มหาเถรสมาคม (มส.) ได้อนุมัติการจัดระเบียบเช่าที่ดิน-อาคารในวัดทั่วประเทศ อุดช่องโหว่คนใช้พื้นที่วัดหากิน ปล่อยเช่าช่วงราคาสูงแต่เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง เพื่อไม่ให้วัดเสียเปรียบ คนเอาเปรียบทำมาหากินกับที่ดินของวัดแบบเก่า เช่น บอกว่าจะสร้างตึกหน้าวัด สมมุติสร้าง 10 ห้อง ผู้สร้างเก็บค่าเช่าไป 10 ปี หลังจากนั้นวัดจะเก็บเอง แต่กลับใช้เล่ห์เหลี่ยมทางกฎหมายว่าถ้าเสร็จเมื่อไรก็นับจากวันเสร็จไป 10 ปี วัดจะได้เก็บเอง

ที่ไหนได้สร้างไว้แค่ 9 ห้อง อีกห้องหนึ่งยังสร้างไม่เสร็จ พอวัดถามว่านี่เลย 10 ปีมาแล้ว เมื่อไรวัดจะเก็บได้ เขาก็บอกว่ามันยังสร้างไม่เสร็จ วัดเลยไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร เพราะสัญญาบอกว่าทำเสร็จ แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องกี่ปีเสร็จด้วย เลยเสียเปรียบคนเจ้าเล่ห์ที่หาประโยชน์กับแผ่นดินวัด

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เช่าในราคาที่ไม่แพงแล้วไปแบ่งให้เช่าต่อ กินหัวคิวไปบานเลย ทางวัดรู้ไม่ทันก็เสียเปรียบไป ที่จริงถ้าวัดฉลาดไม่ควรไปให้เช่า ควรจะให้คนยากจนทำอะไรที่เป็นศาสนสงเคราะห์ อย่างที่วัดสวนแก้วซื้อที่ดินเยอะแยะ แต่ไม่ให้ใครเช่าแบบเป็นแปลงใหญ่ๆ เราให้เช่าลักษณะว่าประกอบอาชีพ แล้วให้อยู่ได้โดยไม่มีสิทธิ ให้ทำมาหากินไป สนับสนุนให้เขามีอาชีพ จะได้ไม่ไปปล้น ไปฆ่าใคร

อย่าไปให้สิทธิ อย่าไปผูกมัดสัญญาว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องเท่านั้นเท่านี้ปี ปีละเท่านั้นเท่านี้ มันจะเป็นการเสียเปรียบคนเจ้าเล่ห์อยู่ตลอด มส. คงเห็นช่องโหว่ของกฎหมายที่ให้เช่าที่ดินแล้วเสียเวลาไปตั้งหลายปี ผลตอบแทนไม่ดีเลย แล้วยังได้สิ่งแวดล้อมไม่ดีอีก เราควรจะแยกโซนให้ดี

เราควรจัดสรรอย่างที่วัดสวนแก้วอยากทำมากคือ จัดโซนแผ่นดินโซนหนึ่ง ร้อยไร่ พันไร่ หมื่นไร่ ให้แก่คนที่ไร้แผ่นดิน ไม่มีแผ่นดินจะทำมาหากิน เป็นนิคมคนขาดแคลนแผ่นดินอยู่อาศัยทำมาหากิน เหมือนนิคมอุตสาหกรรม นิคมโรคเรื้อน นิคมอะไรต่างๆที่ทำกัน ทำให้นึกถึงหลวงตามหาบัวที่หาทองเข้าคลังหลวง แต่เราอยากหาที่ดินเข้าคลังหลวง ให้คนยากจนมาทำมาหากิน แต่ไม่ให้สิทธิครอบครอง เดี๋ยวจะเอาไปขายหรือเอาไปจำนำ

ต้องให้แค่อยู่ทำมาหากิน แล้วอาจจะเก็บค่าบำรุงเล็กน้อย แต่ไม่ได้เก็บเอามาบำรุงวัด เอามาบำรุงพวกเขานั่นแหละ ให้สวัสดิการ ให้สาธารณูปโภคดีๆ วัดก็จะกลายเป็นที่พึ่งทั้งจิตใจและปากท้อง อย่างที่เขาพูดว่าศาสนิกในศาสนาไหนถ้าถูกผู้นำศาสนาทอดทิ้ง อดอยากปากแห้งท้องหิว ศาสนานั้นก็จะอยู่เป็นที่พึ่งของสัตว์โลกไม่ได้นาน เหมือนรัฐบาลใดปล่อยให้ประชาชนขาดแคลน ขัดสน ฝืดเคือง ข้นแค้น รัฐบาลนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน

อันนี้เป็นหลักว่าเราอย่าเอาที่ดินวัดให้สิทธิครอบครองเช่านานเกินไปจนคนจนไม่มีที่ทำมาหากิน เอาไปให้พวกคนรวย เจ้าสัว นายทุน ซึ่งเป็นเรื่องที่เสียประโยชน์มามากแล้ว ดีแล้วที่ มส. ออกมาจัดระเบียบกันสักที จะได้ทำให้วัดได้ประโยชน์ เอาเงินมาทำนุบำรุงพระศาสนา บางวัดมีที่ดินเยอะแยะมาก แต่บางทีบริหารจัดการไม่ถูก เลยกลายเป็นว่าชาวบ้านยึดแผ่นดินวัดไปครองอย่างน่าเสียดาย

แทนที่จะเก็บไว้ทำอะไรที่เป็นการสงเคราะห์ผู้ยากไร้จริงๆ ไม่ใช่ได้โอกาสมาเช่าที่วัดแล้วก็ไปให้เช่าต่อโดยกินค่าหัวคิว เป็นการเสียคุณธรรมในการสงเคราะห์ไป กลายเป็นเรื่องค่าโอน ค่าเช่า ค่าโน่น ค่านี่ เหมือนเป็นธุรกิจ สงเคราะห์กับธุรกิจต้องแยกกันให้ดี ถ้าศาสนสงเคราะห์ไม่มีใครว่า แต่ถ้าเป็นศาสนธุรกิจก็อาจจะถูกตำหนิได้ และคนยากจนก็จะไม่ได้พึ่งพาอาศัย

อยากจะขออนุโมทนากับความคิดของ มส. ที่มาจัดระเบียบการเช่าที่ดินวัดทั่วประเทศให้เกิดประโยชน์แก่ศาสนาโดยตรง จะได้ไม่ต้องไปอาศัยงบประมาณที่เขาเรียกกันว่าเงินทอน เงินบำรุงนั่นบำรุงนี่จากรัฐบาลแล้วยังมาโกงกันอีก อย่าว่าแต่โกงเรื่องที่ดินวัดเลย เงินที่จะได้มาทำนุบำรุงศาสนาก็ยังมาโกงกันอีก ดังนั้น ขอให้ทำอะไรให้รัดกุมดีๆ ให้คนไม่มีโอกาสได้โกงวัด โกงศาสนา ซึ่งเท่ากับปล่อยให้เขาสร้างบาป ไม่ควรจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ควรจะจัดการให้ดีงามต่อไป ขออนุโมทนาสาธุด้วย

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login