วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

SONIC โชว์งบครึ่งปีแรก 62 รายได้แตะ 569.31 ล้านบาท

On August 9, 2019

ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2562 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ว่าบริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 295.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 277.32 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 15.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11.78 ล้านบาท

ส่วน 6 เดือนแรกปี 2562 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 569.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.10 ล้านบาท คิดเป็น 3.66% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้จากการให้บริการ 549.21 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 24.77 ล้านบาท ลดลง 0.56% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 24.91 ล้านบาท ซึ่งกำไรที่ลดลงนั้นสาเหตุใหญ่เกิดจากบริษัทตั้งสำรองจ่ายค่าชดเชยสำหรับพนักงานที่เกษียณอายุตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับที่ 7 พ.ศ. 2562

ทั้งนี้ บริษัทมีผลการดำเนินงานในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการให้บริการขนส่งทางทะเลเพิ่มขึ้น 19.74 ล้านบาท คิดเป็น 5.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากฐานลูกค้าเดิมของบริษัทที่มีการใช้บริการเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากการให้บริการขนส่งทางบกเพิ่มขึ้น 1.57 ล้านบาท คิดเป็น 1.04% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจการจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2562 กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการบางรายย้ายฐานการขนส่ง แต่ไม่กระทบต่อภาพรวมของบริษัทมากนัก เนื่องจากสามารถหารายได้เข้ามาชดเชยได้ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SONIC กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2562 บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์แบบเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้การเติบโตของผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามแผนที่วางไว้ว่าบริษัทจะมีรายได้โตเฉลี่ยปีละ 20% ทั้งในด้านการขยายฐานการให้บริการลูกค้าที่หลากหลาย ขยายพื้นที่ด้านลานจอด คลังเก็บสินค้า และการเพิ่มรถบรรทุกหัวลากเป็น 80 กว่าหัวลาก และหางลาก 180 หางลาก รวมถึงเปิดกว้างในการเปิดรับพันธมิตร ซึ่งจะเป็นตัวสร้างให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองจำนวน 21 ไร่ เพื่อรองรับการให้บริการด้านโลจิสติกส์แก่ลูกค้าในเขตพื้นที่อำเภอศรีราชาและพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งกลุ่มลูกค้า EEC เนื่องจากทำเลดังกล่าวถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดี เพราะใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด รวมทั้งใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และใกล้มอเตอร์เวย์ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและให้บริการลูกค้าได้ในช่วงปลายปีนี้ เช่นเดียวกับพื้นที่การให้บริการที่แหลมฉบัง

อย่างไรก็ตาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าซื้อกิจการโลจิสติกส์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 200-300 ล้านบาท เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าและต่อยอดธุรกิจให้บริการขนส่งทางเรือ ทั้งนี้ หากดำเนินการได้สำเร็จจะถือเป็นการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก


You must be logged in to post a comment Login