วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

ราคากลางต้นไม้ขุดล้อมแก่งคอย

On April 11, 2019

คอลัมน์ โลกอสังหาฯ
ราคากลางต้นไม้ขุดล้อมแก่งคอย
โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย
(โลกวันนี้วันสุข วันที่ 12-19 เมษายน 2562)

ไม้ขุดล้อมเป็นไม้ที่มีความสำคัญสำหรับการตกแต่งประดับประดาต่างๆ ทั้งภายในบ้านเรือน โครงการบ้านจัดสรร สนามกอล์ฟ ถนนหนทาง ฯลฯ ธุรกิจนี้ทำเงินได้ดีกว่าการทำนามากมายนัก ที่สำคัญเมื่อมีตลาดก็มีราคากลาง มาชมกิจการไม้ขุดล้อมและราคากลางต้นไม้กัน

ว่ากันว่าที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี มีพื้นที่การผลิตไม้ขุดล้อมกว่า 5,000 ไร่ ชนิดของไม้มีให้เลือกมากมาย สำหรับขนาดมีให้เลือกตั้งแต่เท่านิ้วมือไปจนถึง 2-3 คนโอบ คนในพื้นที่บอกว่าพื้นดินโล่งแจ้งสามารถทำให้เป็นป่าใหญ่ได้ภายในวันเดียวด้วยไม้ขุดล้อมของชาวตำบลชะอม งานปลูกไม้ขุดล้อมที่ตำบลชะอมมีมานานแล้ว แรกเริ่มเดิมทีมีหน่วยงานของเอกชนเข้าไปส่งเสริมให้ปลูก แต่ปรากฏว่ามีข้อขัดข้องบางประการ ชาวบ้านที่ปลูกอยู่จึงหาทางช่วยเหลือตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการตลาด จนต่อมาไม้ขุดล้อมที่ตำบลนี้เป็นที่ยอมรับของผู้ซื้อ (https://bit.ly/2G5TItY)

ชาวบ้านในพื้นที่บ้างก็ปลูกกล้าเอง บ้างก็เอากล้ามาจากที่อื่น เช่น ที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอภาชีมีเกษตรกรเพาะกล้าไม้จำหน่ายมืออาชีพ กล้าละ 1.50-2.00 บาท หรือที่เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ก็มีแหล่งเพาะเมล็ดพันธุ์มะฮอกกานี เป็นต้น สาเหตุที่ชาวชะอมบางส่วนไม่เพาะกล้าไม้เองนั้น ขึ้นอยู่กับความชำนาญ สถานที่ ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับการเพาะกล้า น้ำท่าอาจไม่เพียงพอ และยังถือเป็นการ “แบ่งงานกันทำ” จากหลายๆแห่งนั่นเอง
ราคากลางต้นไม้ขุดล้อมแก่งคอย
สำหรับการปลูกนั้น พื้นที่ดิน 1 ไร่ กว้าง 40 เมตร ยาว 40 เมตร หรือ 1,600 ตารางเมตร สามารถปลูกต้นไม้ลงไปได้ทุกตารางเมตร นั่นหมายถึงพื้นที่ 1 ไร่ ปลูกต้นไม้ได้ 1,600 ต้น เวลาผ่านไปราว 1 ปี ต้นไม้บางชนิดขายได้ต้นละ 50 บาท หากสามารถขายได้หมดก็เป็นเงิน 80,000 บาท หากขายไม่ได้ เวลาผ่านไปเป็นปีที่ 2-3 อาจจะขายได้ต้นละ 100 บาท อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีก็อาจเหลือต้นละ 20-30 บาท ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส

อีกแหล่งหนึ่งกล่าวว่า การปลูกต้นไม้อย่างน้อย 1 ปี จะได้ต้นไม้สูง 2.5-3 เมตร รอบวงกว้าง 1 นิ้ว ใน 1 ไร่ จะปลูกต้นไม้ได้ 1,600 ต้น คิดค่าต้นกล้าต้นละ 1 บาท ค่าใส่ต้นละ 2 บาท ค่าปุ๋ยอีก 1 ปีแรกลงทุนเฉลี่ยต้นละ 5-10 บาท รายได้หักต้นทุนประมาณ 32,000-48,000บาท/ไร่ ส่วนทางด้านการตลาดส่วนใหญ่จะเป็นบ้านจัดสรร หน่วยราชการต่างๆ เช่น อบต. นำไปใช้ปรับภูมิทัศน์ตามถนนหลวง โดยจะมีพ่อค้าคนกลางจากทั่วประเทศมารับไปขาย (https://bit.ly/2G9T1AY) อย่างไรก็ตาม ก็ยังถือว่าได้ผลตอบแทนสูงกว่าการทำนา ทำไร่ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง พืชเหล่านี้ให้ผลผลิตเร็ว ราว 3-4 เดือนก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว แต่ราคาค่อนข้างผันผวน มันสำปะหลังและข้าวโพดก็ได้ผลตอบแทนที่ไม่สูงเช่นกัน

ส่วนอีกแหล่งหนึ่งมีข้อมูลว่า “ราคาจำหน่ายของต้นไม้ขุดล้อมที่นี่ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของต้นไม้ อย่างต้นสะเดาที่มีจุดเด่นที่รากสวยงาม อายุ 12 ปี ราคาขายหน้าสวนอยู่ที่ 12,000 บาท ต้นจิกน้ำ อายุ 20 ปี ขายที่ราคา 35,000 บาท และต้นกร่าง อายุ 30 ปี ราคาขายอยู่ที่ 40,000 บาท ซึ่งผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ชาวบ้านบางคนเมื่อปลูกเพื่อการจำหน่ายแล้วจะนำต้นไม้บางส่วนไปปลูกในป่าเพิ่มเติมด้วย และในอนาคตตำบลชะอมจะร่วมกับกรมป่าไม้ทำโครงการธนาคารต้นไม้เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้หายาก โดยให้ชาวบ้านเป็นตัวหลักในโครงการนี้ด้วย” (https://bit.ly/2UmAEl3)

สำหรับต้นไม้ที่ขุดล้อมในพื้นที่มักเป็นไม้มงคล หรือไม้ยอดนิยมอื่นๆ เช่น มะฮอกกานี อินทนิล ประดู่ ทองกวาว พญาสัตบรรณ ตีนเป็ดน้ำ ประดู่แดง ราชพฤกษ์ จำปี เหลืองปรีดิยาธร ปีบ เป็นต้น ในระยะหลังยังมีการปลูกไม้ผลเพื่อล้อมไปขายได้เลย ทั้งนี้ วิธีการขุดล้อมต้นไม้ใหญ่เป็นดังนี้ :

1.ขุดหลุมปลูกให้กว้าง ไม่ต้องลึกมาก เพราะรากพืชที่หาอาหารจะอยู่ใกล้ผิวดิน รากพืชที่มีประสิทธิภาพในการหาอาหารจะอยู่ในความลึกตั้งแต่ผิวดินถึงลึกประมาณ 50 เซนติเมตร

2.สำหรับไม้ขุดล้อมที่เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นที่ปลูกใหม่ไม่ควรปลูกหญ้ามาชิดโคนต้นหรือปลูกไม้พุ่มเล็ก ไม้คลุมดิน ชิดรอบโคนต้น เพราะไม้คลุมดินเหล่านี้เติบโตเร็ว จะแย่งน้ำแย่งอาหารต้นไม้ใหญ่ในช่วงที่กำลังตั้งตัว แต่ควรใช้วัสดุเช่นหญ้าแห้งสับคลุมโคนรักษาความชื้น หรือถ้ามีเปลือกไม้สับ กิ่งไม้สับย่อยด้วยเครื่องมาคลุมโคน

3.การให้ปุ๋ยควรให้เมื่อต้นไม้ต้องการหรือเมื่อต้นไม้ใช้ปุ๋ยได้ ต้นไม้แรกปลูกรากไม่แข็งแรงสมบูรณ์พอ การใส่ปุ๋ยลงไปอาจทำให้รากเสียหายได้หรือไม่ก็เร่งให้วัชพืชโตเร็ว ควรฉีดพ่นทางใบในอัตราที่เหมาะสม เมื่อสังเกตเห็นว่าต้นไม้เริ่มมีรากแข็งแรงแล้วจึงค่อยให้ปุ๋ยทางดิน

4.การค้ำยันป้องกันต้นไม้จากลมหรือจากความเสียหายที่อาจเกิดจากคน สัตว์ หรือยานพาหนะ

5.ไม่ควรตัดกิ่งหรือใบทิ้งก่อนหรือหลังการปลูก เพราะใบไม้เป็นแหล่งผลิตอาหารรวมถึงสร้างพลังงานเพื่อการเติบโตตั้งตัว การไม่มีใบทำให้พืชดูดน้ำขึ้นไปสร้างอาหารได้น้อย และถ้าเหลือเพียงกิ่งแก่ การแตกตาเป็นใบอ่อนใหม่ยิ่งยาก ควรปล่อยใบและกิ่งไว้ให้สร้างอาหารและพลังงานก่อน เมื่อต้นไม้ตั้งตัวแตกกิ่งใหม่เพียงพอแล้วจึงค่อยตัดแต่งให้ได้รูปทรงที่ต้องการ แรกปลูกควรรดน้ำเพราะพืชยังไม่แข็งแรง หลังจากนั้นในปีที่ 2-3 ไม่ต้องรดน้ำแล้ว เพราะพืชสามารถยืนต้นได้เองตามธรรมชาติ (https://bit.ly/2G9T1AY)

สำหรับราคากลางเบื้องต้นเป็นดังนี้ :
table
ข้างต้นเป็นเพียงราคาเบื้องต้นเท่านั้น ในรายละเอียดจะได้ไปสำรวจเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง จะเห็นได้ว่าราคาต้นไม้แต่ละประเภท แต่ละชนิด ย่อมมีความแตกต่างกันตามวัย ขนาด และคุณภาพของไม้นั้นๆ อย่างไรก็ตาม ราคานี้ได้จัดทำครั้งแรกในปี 2554 แต่จากการตรวจสอบกับคุณสายบัว พาศักดิ์ ปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่ เชื่อว่าราคายังคล้ายเดิมนี้แทบทั้งหมด เพราะมีอุปทานเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่อุปสงค์อาจไม่มากเช่นในปีก่อนหน้านี้ที่เศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์เติบโตมากกว่านี้

ต้นไม้มีค่าอยู่ที่ตลาด อยู่ที่อุปสงค์และอุปทานในตลาดอีกด้วย


You must be logged in to post a comment Login