วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

สงครามโดรน / โดย ณ สันมหาพล

On July 10, 2017

คอลัมน์ : โลกไม่หยุดนิ่ง

ผู้เขียน : ณ สันมหาพล

กำลังจะมาแล้ว สงครามโดรน” หรือ “drone war” เมื่อกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) สร้างความตื่นตะลึงให้กับความมั่นคงโลกด้วยการทดสอบโดรนที่บังคับด้วยคลื่นวิทยุบรรทุกระเบิดมือ 2 ลูก ไปเมืองโมซูลที่เป็นเมืองสู้รบสำคัญในอิรักเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

อาจดูไม่น่ากลัว แต่นี่คืออาวุธใหม่ที่จะเปลี่ยนรูปแบบการก่อการร้ายและการรบในเมือง เพราะมันคือ “ระเบิดฆ่าตัวตาย” ที่ไม่ใช่คน หากมีการใช้โดรนถล่มฝูงชนในเมืองหรือใช้โจมตีทหารและกองกำลังต่างๆโดยปล่อยออกมาเป็นฝูง จะเกิดอะไรขึ้น

สหรัฐเปิดเผยอาวุธใหม่ที่เรียกว่า “micro-drone” หรือ โดรนกระจิริด” สำหรับปล่อยจากเครื่องบินรบเอฟ-16 และเอฟ/เอ 18 ที่บินได้เร็ว 430 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือชั่วโมงเดียวบินได้เกือบ 700 กิโลเมตร โดยจะปล่อยจากอุปกรณ์ที่ปรกติใช้ปล่อยพลุที่ให้แสงสว่างกลางอากาศ โดรนหนัก 1 ปอนด์หรือ 2.2 กิโลกรัม จะมีร่มคอยพยุงลงสู่พื้น และจะดีดตัวออกจากร่มพร้อมกับกางปีกและใบพัดเล็กขนาด 1 นิ้วที่อยู่ช่วงท้าย เพื่อบินเข้าหาโดรนที่ถูกปล่อยลงมา และเมื่อรวมตัวกันแล้วจะเป็น swarm หรือฝูงโดรนที่รุมโจมตีไปที่เป้าหมายแบบเดียวกับฝูงผึ้ง

การเปิดเผยอาวุธลับล่าสุดของสหรัฐมีการสาธิตผ่านวิดีโอที่ทดสอบที่เหนือน่านฟ้ารัฐอะแลสกาเมื่อฤดูร้อนปีที่ผ่านมาโดยแอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งปรกติแล้วไม่ควรเปิดเผย เพราะเป็นอาวุธลับสุดยอดที่สหรัฐไม่เคยแพร่งพรายหรือไม่เคยมีประเทศไหนรู้ มีการพัฒนาเมื่อ 4 ปีที่แล้วโดยองค์กรลับของกระทรวงกลาโหมที่ชื่อ Strategic Capabilities Office (SCO)

ปรกติเวลาพูดถึงหน่วยงานรัฐบาลที่พัฒนาอาวุธของสหรัฐ คนมักพูดถึงองค์กร DARPA ย่อมาจาก Defense Advanced Research Projects Agency สำนักงานโครงการวิจัยของกระทรวงกลาโหม โดยองค์กรนี้ก่อตั้งเมื่อปี 2501 ช่วงสงครามเย็น ซึ่งมีการคิดค้นอาวุธใหม่ที่มีอานุภาพสูงเพื่อต่อสู้กับสหภาพโซเวียตและเครือข่ายที่กำลังขยายอิทธิพลทั้งกำลังทหารและการโฆษณาชวนเชื่อ

ขณะที่ SCO เพิ่งก่อตั้งได้ 5 ปี เพื่อคิดค้นวิธีรับมือใหม่ๆกับฝ่ายจีนและรัสเซีย รวมทั้งกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ เช่นเดียวกับโดรนที่มีการผลิตและมีการล้วงความลับด้วยการเจาะฐานข้อมูล รวมทั้งการระดมหาจากข้อความที่ส่งไปมาทางออนโลน์ ซึ่ง 2 วิธีนี้กลุ่มไอเอสได้ผลมาก โดยไม่ต้องออกแรงคิดค้นเลย เพียงติดตามข้อมูลในเชิงลึกจากที่ต่างๆแล้วนำมาพัฒนาจนได้โดรนใหม่ล่าสุดมาใช้

แน่นอนว่าต้องมีข้อมูลลับรั่วไหล ส่วนจะจริงหรือเท็จก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อาจเป็นผลดีที่ทำให้รู้ว่าข่าวสารที่นำมาเผยแพร่เป็นอย่างไร ซึ่งมีการวิจารณ์กันว่า เหตุผลที่รัฐมนตรีคาร์เตอร์นำผลงานโดรนรุ่นล่าสุดของสำนักงาน SCO มาเผยแพร่ต่อสาธารณชน เพื่อต้องการให้ได้เงินงบประมาณจำนวน 902 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 30,638 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 2 เท่า หรือสูงกว่า 18 เท่าจากที่เคยได้รับเมื่อมีการก่อตั้ง

นอกจากนี้ยังเป็นการเตือนประเทศและกลุ่มที่ไม่เป็นมิตรกับสหรัฐว่าให้ระวังการตอบโต้ด้วยฝูงโดรนหากคิดร้ายต่อสหรัฐ ซึ่งในวงการวิจัยพัฒนาอาวุธสหรัฐเชื่อว่า แม้การเปิดเผยความลับอาจไม่มีผลต่อสหรัฐ แต่อาจทำให้เห็นถึงสงครามรูปแบบใหม่ที่ประเทศต่างๆต้องมีการพัฒนากันมากขึ้นเรื่อยๆ

โครงการโดรนของ SCO แสดงให้เห็นว่าสหรัฐเอาจริงกับการพัฒนาอาวุธที่เป็นการสู้รบสมัยใหม่ซึ่งมีอำนาจทำลายล้างทั้งประเทศได้ เพราะโดรนบินในรัศมีที่ต่ำซึ่งคลื่นวิทยุสามารถจับได้ ทั้งการควบคุมอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน การโจมตีใกล้หรือไกลแค่ไหนจึงไม่ต้องห่วง เพราะสามารถใช้เครื่องบินบรรทุกโดรนไปได้ไม่ยากแล้วนำไปปฏิบัติการในพื้นที่ที่ต้องการ

โดรนที่สหรัฐนำมาเปิดเผยเป็นโดรนที่มีชื่อเรียกรวมๆว่า combat unmanned aerial vehicle หรือ CUAV อากาศยานรบไร้คนขับ หรือ combat drone โดรนรบ

ประเทศที่กำลังพัฒนาโดรนขณะนี้มีทั้งสหรัฐ จีน สหราชอาณาจักร อิตาลี อิสราเอล อินเดีย ปากีสถาน ตูนิเซีย ไต้หวัน และตุรกี ในจำนวนนี้มีสหรัฐเท่านั้นที่มีการผลิตโดรนรบอย่างจริงจังตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา โดยประจำการในประเทศต่างๆแล้ว 24 แห่ง หนึ่งในนั้นคือสิงคโปร์


You must be logged in to post a comment Login