วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

อนาคตที่อเมริกันเลือกแล้ว

On November 14, 2016

ความห้าวหาญ การ “ขายฝัน” เรื่องปากท้อง หรือเรื่องเศรษฐกิจ และการให้คำมั่นจะดูแลความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต

เป็นประเด็นสำคัญส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ชาวอเมริกันตัดสินใจเลือกนายโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 45

จริงแล้ว การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ครั้งนี้ นางฮิลลารี คลินตัน แห่งพรรคเดโมแครต ได้คะแนนจากประชาชน (Popular vote) มากกว่า แต่แพ้ทรัมป์ที่คะแนนของผู้เลือกตั้ง (Electoral vote) ซึ่งเป็นผู้เลือกประธานาธิบดีโดยตรง

สำหรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ สะท้อนความเป็นตัวตนของชาวอเมริกัน ที่มีความเชื่อมั่นตัวเองสูง ต้องการความเปลี่ยนแปลง แม้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวค่อนข้างจะเป็นชาตินิยมก็ตาม

แต่มองอีกมุมก็พอเข้าใจได้ว่า เป็นเจตนาต้องการดูแลตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองโดยไม่หวังพึ่งชาติอื่นของชาวอเมริกัน

ประเด็นแรกที่ทรัมป์ใช้จี้ใจชาวอเมริกัน คือนโยบายทางเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประกาศว่าจะสร้างชาติให้กลับมายิ่งใหญ่ จะสร้างงานให้คนในชาติ พัฒนาถนน ทางด่วน สะพาน อุโมงค์ สนามบิน โรงเรียน และโรงพยาบาล

ด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน ผลประโยชน์ของอเมริกาต้องมาก่อน ประชาชนกลุ่มที่เคยถูกลืม จะไม่ถูกทอดทิ้งอีกต่อไป

ทรัมป์ให้ความเชื่อมั่นว่า ในฐานะเป็นนักธุรกิจ “มือทอง” สามารถจะพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโต ให้ชาวอเมริกันมีกินอิ่มท้องมากกว่าที่เป็นอยู่ได้

ส่วนความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิตจากภัยการก่อการร้าย ทรัมป์มีแผนเข้มงวดกับต่างด้าว โดยจะผลักดันผู้ลักลอบเข้าประเทศ และผู้ที่มีประวัติอาชญากรรม ออกนอกประเทศ

อีกเป้าหมายสำคัญที่ทรัมป์จะจัดการ คือองค์กร บริษัท และผู้ที่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายไอเอส

ด้านนโยบายต่างประเทศ ก็ออกแนว “อเมริกาต้องมาก่อน” เช่นกัน ทำให้หลายประเทศตกอยู่ในอาการกังวล ไม่มั่นใจว่าทรัมป์จะเอายังไรกันแน่

แม้การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกหลังชนะเลือกตั้ง ทรัมป์จะประกาศว่า จะหาข้อตกลงร่วมมือกับทุกประเทศ จะติดต่อเจรจากับทุกชาติในฐานะพันธมิตร ไม่ใช่ศัตรู แต่ดูเหมือนบางประเทศก็ยังใจตุ๊มๆต่อมๆอยู่ดี

ทั้งหมดคือผลความเป็นตัวตนทางการเมืองของชาวอเมริกันเสียงข้างมาก ที่สะท้อนจากการเลือกผู้นำประเทศครั้งนี้ เป็นตัวเองที่นิยมความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเชื่อว่าจะดีกว่าเดิม

แต่พิจารณาบางแง่มุม คล้ายกับชาวอเมริกันจะคิดว่า “ประชาคมโลกจะเป็นอย่างไรไม่เกี่ยว แต่ชาวอเมริกันจะเป็นอย่างนี้”


You must be logged in to post a comment Login