วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ทำไมพระเจ้าเลือกคนไม่รู้หนังสือทำภารกิจใหญ่?

On December 2, 2022

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่   2 ธ.ค.  65)

ถ้าคุณต้องการแต่งตั้งใครสักคนให้ไปทำภารกิจบางอย่างแทนคุณ  แน่นอน คุณจะต้องเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถและไว้วางใจได้ไปทำหน้าที่แทนคุณ

แต่เมื่อพระเจ้าต้องการประทานคัมภีร์กุรอานมายังมนุษยชาติเพื่อเป็นกฎระเบียบในการดำเนินชีวิตของมนุษย์บนโลกใบนี้จวบจนถึงวันอวสาน  ทำไมพระองค์จึงเลือกนบีมุฮัมมัดทั้งๆที่นบีมุฮัมมัดเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวอาหรับและชาวยิวว่าเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ?

ความจริงแล้ว  คัมภีร์กุรอานก็คือบันทึกวจนะครั้งสุดท้ายของพระเจ้าที่ถูกส่งมายืนยันวจนะของพระองค์ที่สูญหายหรือบิดเบือนไป  ก่อนหน้านี้ พระองค์ได้ประทานวจนะแก่โมเสสในรูปของคัมภีร์โตราห์เพื่อเป็นกฎหมายในการปกครองพวกลูกหลานอิสราเอล  แต่หลังสมัยโมเสส  โตราห์ได้รับความเสียหาย  พระเจ้าจึงประทานวจนะของพระองค์อีกครั้งหนึ่งแก่เดวิดเพื่อเป็นกฎหมายปกครองอาณาจักรอิสราเอล

เมื่ออาณาจักรอิสราเอลแตกแยกและถูกทำลาย  กฎหมายของพระเจ้าที่พวกลูกหลานอิสราเอลเคยใช้ได้ถูกทำลายไปด้วย  พวกลูกหลานอิสราเอลจึงกลายเป็นฝูงแกะที่แตกกระจายและใช้กฎหมายที่ผู้อาวุโสของตนเขียนขึ้นมา  พระเจ้าจึงส่งเยซัสไครสต์มายืนยันธรรมบัญญัติเดิมของพระองค์

แต่หลังจากสมัยของเยซัสไครสต์  วจนะของพระเจ้าได้รับความเสียหายและมีการตัดเสริมเติมแต่งขึ้นมา  พระเจ้าจึงประทานวจนะครั้งสุดท้ายแก่นบีมุฮัมมัดในรูปของคัมภีร์กุรอานและต้องการให้วจนะครั้งสุดท้ายของพระองค์เป็นกฎระเบียบในการดำเนินชีวิตของมนุษยชาติตราบถึงวันสิ้นโลก

คัมภีร์กุรอานเป็นวรรณกรรมชั้นสูงที่มีทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง มีสำนวนแตกต่างไปจากสำนวนที่ชาวอาหรับพูดกัน  พ่อมดหมอผีที่เชี่ยวชาญเรื่องเวทมนตร์คาถาในสมัยที่คัมภีร์กุรอานถูกประทานมาต่างยอมรับว่าถ้อยคำในคัมภีร์กุรอานมิใช่เวทมนตร์หรือคาถาทางไสยศาสตร์    และคัมภีร์กุรอานเองก็ท้ามนุษย์ให้รวมหัวกันแต่งข้อความขึ้นมาสักบทหนึ่งที่เหมือนกับคัมภีร์กุรอาน  จวบจนปัจจุบันก็ยังไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำได้

พระเจ้าเลือกนบีมุฮัมมัดผู้ไม่รู้หนังสือเป็นผู้นำคัมภีร์กุรอานมายังมนุษยชาติก็เพื่อมิให้มนุษย์ครหาว่านบีมุฮัมมัดเป็นผู้เขียนคัมภีร์กุรอานขึ้นมาและในคัมภีร์กุรอานเองก็มีข้อความยืนยันว่านบีมุฮัมมัดมิได้เป็นผู้เขียน  ท่านเป็นเพียงผู้รับวจนะของพระเจ้ามาอ่านให้มนุษย์ฟังและปฏิบัติตามเท่านั้น

นบีมุฮัมมัดอ่าน่ข้อความในคัมภีร์บางตอนที่ดูเหมือนเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่โลกเพิ่งพบว่าเป็นความจริงเมื่อเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าไม่ถึงร้อยปีที่ผ่านมา เช่น การปฏิสนธิและวิวัฒนาการของตัวอ่อนมนุษย์ในครรภ์  ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักฐานให้มนุษย์ในยุคเทคโนโลยีได้รู้ว่าคัมภีร์กุรอานเป็นวจนะของพระเจ้าและเป็นไปไม่ได้ที่นบีมุฮัมมัดจะเขียนขึ้นมา

นบีมุฮัมมัดนำข่าวเรื่องโลกหลังความตายจากพระเจ้ามาบอกแก่มนุษย์  แต่จะทำอย่างไรให้มนุษย์เชื่อเพราะเรื่องโลกหน้าเป็นสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็น  ดังนั้น พระเจ้าผู้อยู่เหนือกาลเวลาจึงประทานเรื่องราวของชุมชนต่างๆในอดีตและเรื่องราวการสร้างมนุษย์ก่อนที่มนุษย์คนแรกจะมายังโลกใบนี้แก่นบีมุฮัมมัดเพื่อนำไปอ่านให้ผู้คนฟัง  ทั้งนี้เพื่อให้มนุษย์ได้คิดว่าถ้าหากนบีมุฮัมมัดรู้ความจริงในอดีตของมนุษย์ก่อนมายังโลกนี้  นบีมุฮัมมัดย่อมต้องรู้ถึงอนาคตของมนุษย์หลังความตายด้วยและความรู้เช่นนี้จะมาจากตัวของมุฮัมมัดเองไม่ได้  แต่ต้องมาจากพระเจ้าอย่างแน่นอน

นบีมุฮัมมัดผู้เป็นเด็กกำพร้าพ่อตั้งแต่เกิด  ไร้การศึกษา  ฐานะยากจน  ไม่มีแสนยานุภาพทางทหารใดๆ  แต่ด้วยการปฏิบัติตามคัมภีร์กุรอานทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นเหมือนตัวละครเล่นตามบทที่ถูกเขียนไว้  นบีมุฮัมมัดมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งสามารถทำให้ชาวอาหรับเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมความเชื่อและรวมตัวกันเป็นชาติที่มีคัมภีร์กุรอานเป็นธรรมนูญในการปกครองและทำให้อิสลามกลายเป็นแหล่งอารยธรรมสำคัญของโลกภายในเวลา 23 ปี


You must be logged in to post a comment Login