- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 5 hours ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 22 hours ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 4 days ago
- บทเรียนพระสายมูPosted 5 days ago
- ไม่ตายก็คางเหลืองPosted 6 days ago
- ช่วยกันเป็นฮีโร่Posted 7 days ago
- อย่าอ่อนแอแพ้ต่อกิเลสPosted 1 week ago
- พระรัตนตรัยดีที่ 1Posted 2 weeks ago
- ประเทศต้องเดินหน้าได้Posted 2 weeks ago
- เด็กไทยต้องทำชีวิตก้าวหน้าPosted 2 weeks ago
ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับคัมภีร์กุรอาน
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 2 ก.ย. 65)
มีคนถามว่า “เป็นไปได้ไหมที่คนเขียนกุรอานอาจได้ยินหรืออาจลืมบางส่วนของกุรอานไป?”
คำตอบคือ “ไม่เลยทั้งสิ้นในทุกกรณี”
ขออนุญาตทำความเข้าใจเป็นเบื้องตนเสียก่อนว่านบีมุฮัมมัดมิได้เป็นผู้เขียนคัมภีร์กุรอาน เพราะท่านเป็นผู้ไม่รู้หนังสือและชาวอาหรับในสมัยของท่านรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ในคัมภีร์กุรอานซึ่งเป็นบันทึกวจนะของพระเจ้าก็ยืนยันว่านบีมุฮัมมัดมิได้เป็นคนเขียน เหตุผลที่พระเจ้าเลือกผู้ไม่รู้หนังสือมาทำหน้าที่รับคัมภีร์กุรอานที่เป็นวรรณกรรมอันสูงส่งก็เพื่อที่มนุษย์จะได้ไม่ครหาว่านบีมุฮัมมัดเป็นผู้เขียนคัมภีร์กุรอาน
การประทานคัมภีร์กุรอานแก่นบีมุฮัมมัดเป็นการสื่อสารโดยมีทูตสวรรค์เป็นตัวกลางที่เราไม่อาจมองเห็นเหมือนกับสัญญาณโทรศัพท์หรือกลิ่นที่สัตว์บางชนิดใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน
คัมภีร์กุรอานประกอบไปด้วยข้อความ 6,236 วรรคตอนที่สั้นบางยาวบ้าง วรรคตอนเหล่านี้ไม่ถูกเรียกว่าประโยค แต่ถูกเรียกว่า “อายะฮฺ” ที่มีความหมายว่า “สัญญาณ, หลักฐาน, สิ่งมหัศจรรย์” เพื่อยืนยันถึงการมีอยู่ของพระเจ้าองค์เดียว คัมภีร์กุรอานถูกทยอยประทานแก่นบีมุฮัมมัดตามสถานการณ์เพื่อตอบคำถาม แก้ปัญหาและเป็นทางนำในการดำเนินชีวิต กว่าจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ใช้เวลาถึง 23 ปี
เมื่อนบีมุฮัมมัดได้รับวจนะจากพระเจ้า ท่านจะสั่งสาวกให้บันทึกสิ่งที่ท่านได้ยินไว้บนแผ่นหนัง หลังจากนั้น ท่านจะให้ผู้บันทึกอ่านทบทวนสิ่งที่ท่านบอก เมื่อท่านยืนยันว่าสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ถูกต้องตรงกับที่ท่านได้รับมา ท่านก็จะให้ทุกคนอ่านและจดจำตามนั้น
ในการละหมาดวันละห้าเวลาโดยเฉพาะในตอนกลางคืน นบีมุฮัมมัดจะนำคัมภีร์กุรอานบางตอนหรือบางบทมาอ่านเพื่อให้สาวกที่ละหมาดตามหลังได้ยินและจดจำ และทุกวันนี้ มุสลิมทุกคนเมื่อละหมาดก็จะอ่านคัมภีร์กุรอานบางตอนจากความจำของตัวเอง
ในเดือนรอมฎอนของทุกปี ทูตสวรรค์จะมาหานบีมุฮัมมัดเพื่อทบทวนว่าท่านได้อ่านกุรอานตามการจัดเรียงอย่างถูกต้องตามพระประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่ และในเดือนรอมฎอนปีสุดท้ายของนบีมุฮัมมัด ทูตสวรรค์ได้มาทบทวนกุรอานกับท่านถึงสองครั้ง ในเวลานั้น มีสาวกหลายคนของท่านสามารถจดจำคัมภีร์กุรอานได้ทั้งหมดแล้ว
ในสมัยของนบีมุฮัมมัด คัมภีร์กุรอานมิได้อยู่ในรูปเล่มเหมือนปัจจุบัน แต่อยู่ในความจำและแผ่นบันทึกที่มีทั้งหนังสัตว์ กระดูกสัตว์และแผ่นไม้ แต่เนื่องจากสาวกหลายคนที่จดจำคัมภีร์กุรอานได้ต้องเสียชีวิตในสงครามและแผ่นบันทึกคัมภีร์กุรอานเป็นวัสดุที่ไม่คงทน หลังจากนบีมุฮัมมัดเสียชีวิตได้ประมาณสามสี่ปี การรวบรวมกุรอานเป็นรูปเล่มจึงเกิดขึ้น แผ่นบันทึกกุรอานที่มีอยู่ทั้งหมดได้ถูกนำมารวมกันโดยมีกลุ่มสาวกที่สามารถจดจำกุรอานได้มาตรวจสอบและมีผู้คอยจดบันทึกเพื่อจัดทำต้นฉบับ
เมื่อบรรดาสาวกตรวจสอบความถูกต้องตรงกันครบถ้วนแล้ว วัสดุต่างๆที่บันทึกคัมภีร์กุรอานไว้ได้ถูกทำลายทิ้งหมดเพื่อมิให้เกิดการตัดเสริมเติมแต่งในวันข้างหน้า ต้นฉบับคัมภีร์กุรอานจึงเกิดขึ้นและถูกใช้เป็นแหล่งทำสำเนาเพื่อส่งไปยังหัวเมืองต่างๆที่อยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิมในยุคของเคาะลีฟะฮฺอุษมาน
เมื่อมีการพัฒนาเรื่องตัวเลขในอินเดียในศตวรรษที่ 8 และพวกพ่อค้าได้นำตัวเลขไปยังโลกอาหรับและยุโรปในศตวรรษที่ 9 ต้นฉบับคัมภีร์กุรอานซึ่งเดิมทีไม่มีตัวเลขบอกวรรคตอน(อายะฮฺ)และบท(ซูเราะฮฺ) จึงได้นำตัวเลขวรรคตอนและบทมาใส่ในคัมภีร์กุรอาน นอกจากนี้แล้ว เนื่องจากต้นฉบับดั้งเดิมที่เป็นภาษาอาหรับไม่มีสระกำกับซึ่งอาจทำให้คนรุ่นหลังอ่านผิด จึงได้มีการนำสัญลักษณ์สระมาใส่ดังที่เห็นในคัมภีร์กุรอานที่เป็นรูปเล่มในปัจจุบันเพื่อให้ทุกคนอ่านกุรอานเหมือนกับที่ท่านนบีมุฮัมมัดอ่าน
คัมภีร์กุรอานเป็นวจนะของพระเจ้า พระองค์จะเป็นผู้รักษากุรอานไว้โดยการที่ในปัจจุบัน นอกจากกุรอานจะถูกบันทึกด้วยการจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มแล้ว กุรอานยังอยู่ในความจำของมุสลิมทั่วโลกอีกนับแสนคน
You must be logged in to post a comment Login