วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

ภูมิปัญญาในการปฏิบัติศาสนา

On January 17, 2020

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่  17-24 มกราคม 2563)

ศาสนาเป็นเรื่องของความสัมพันธ์สองแนว แนวดิ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าผู้สร้างมนุษย์และทุกสรรพสิ่ง แนวระนาบเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์และสิ่งที่ถูกสร้างทั้งหมดรอบตัวมนุษย์

ถ้ามนุษย์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งรอบตัวของมนุษย์ก็จะพลอยดีไปด้วย เรื่องนี้เข้าใจได้ไม่ยาก ถ้าเรารักและเคารพพระมหากษัตริย์ เมื่อเราเข้าไปในพระราชวัง เราจะสำรวมกิริยาและไม่ทำอะไรที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมทุกศาสนาจึงมีพิธีกรรมต่างๆเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้าซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เช่น ชาวคริสเตียนมีการอธิษฐานต่อพระเยโฮวา ส่วนมุสลิมมีการปฏิบัตินมาซและวิงวอนต่อพระเจ้า

ถ้ามนุษย์ไม่มีความสัมพันธ์หรือมีความสัมพันธ์ไม่ดีกับพระเจ้าในแนวดิ่ง ความสัมพันธ์ในแนวระนาบกับสิ่งรอบตัวมนุษย์ก็จะไม่ดีไปด้วย หากมนุษย์เป็นผู้ทำลาย ความหายนะจะเกิดขึ้นกับสิ่งต่างๆรอบตัวมนุษย์ และในที่สุดความหายนะก็จะย้อนกลับมาสู่มนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ละหมาด 13

เมื่อศาสนาเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า การรู้จักและศรัทธาในพระเจ้าจึงมีความสำคัญมากในอิสลามถึงขนาดได้มีการกำหนดไว้ในการเรียนการสอนศาสนาว่า “เริ่มแรกของศาสนาคือการรู้จักพระเจ้า” ทั้งนี้ เพื่อให้มนุษย์รู้จักสถานภาพ บทบาท และหน้าที่ของตัวเอง

บริษัทจะมีสภาพเช่นใดหากพนักงานหรือลูกจ้างไม่รู้จักเจ้านายหรือเจ้าของบริษัทและวางตัวกร่างเป็นเจ้านายกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ โลกก็จะมีสภาพเช่นนั้นหากมนุษย์ไม่รู้จักสถานภาพของตัวเองและต่างวางตัวเป็นใหญ่ต่อกัน

การก้มกราบในการละหมาดวันละ 5 เวลาของมุสลิมเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนมุสลิมให้รู้จักสถานภาพความเป็นบ่าวของตัวเองและความเป็นนายของพระเจ้า การปฏิบัติตามที่พระเจ้าผู้เป็นนายสั่งและการงดเว้นสิ่งใดที่พระเจ้าห้ามจึงถือเป็นการปฏิบัติตามคำบัญชาของพระเจ้าหรือการปฏิบัติศาสนา ซึ่งไม่ได้มีแค่เพียงการละหมาด การถือศีลอด การจ่ายทาน และการทำฮัจญ์เท่านั้น

หน้าที่ของมนุษย์ในการแสดงความเคารพสักการะต่อพระเจ้าและการมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อสิ่งถูกสร้างของพระองค์จึงเป็นความรับผิดชอบ (Responsibility) ที่มนุษย์จะต้องไปตอบต่อพระเจ้า (Accountability) ในวันพิพากษา

การละหมาดเป็นการเตือนให้มนุษย์ระลึกถึงพระเจ้า แต่การละหมาดแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 10 นาที เวลาที่เหลืออีกมากมายและสิ่งแวดล้อมที่เย้ายวนอาจทำให้มนุษย์หลงลืมพระเจ้าและเผลอตัวทำบาป ด้วยเหตุนี้ในอิสลามจึงมีวิธีการให้มุสลิมระลึกถึงพระเจ้าในทุกกิจกรรมของชีวิต วิธีการดังกล่าวนี้เรียกว่า “ซิกรุลลอฮฺ” หรือการกล่าวคำระลึกถึงพระเจ้าซึ่งนบีมุฮัมมัดได้แนะนำไว้ เช่น

การกล่าวคำ “บิสมิลลาฮฺ” (ด้วยพระนามของพระเจ้า) ก่อนกินหรือดื่มหรือทำกิจวัตรที่ดีงาม การกล่าวคำ “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ” เมื่อกินหรือดื่มเสร็จหรือได้รับสิ่งดีงาม เพื่อเป็นการขอบคุณพระเจ้า

ในตอนเป็นเด็กเราถูกฝึกให้ท่องจำสูตรคูณทุกวันจนเราสามารถจำได้ถึงทุกวันนี้ หากใครถามเราว่า 12×12 ได้เท่าไร คำตอบจะกระเด้งออกมาจากความทรงจำของเราทันทีว่า 144 เพราะสูตรคูณนี้ผ่านลิ้นและสมองเข้าไปอยู่ในใจของเรามานานแล้ว

ศาสนาให้มีการกล่าวคำระลึกถึงพระเจ้าก็เพื่อให้ความเชื่อในพระเจ้าผ่านลิ้นผ่านสมองเข้าไปยึดครองพื้นที่ของหัวใจ ในอิสลามหลังการละหมาดนบีมุฮัมมัดแนะนำมุสลิมให้กล่าวคำว่า “ซุบฮานัลลอฮฺ” (มหาบริสุทธิ์ยิ่งคือพระเจ้า) 33 ครั้ง เพื่อย้ำเตือนตัวเองว่ามนุษย์ทุกคนล้วนทำผิดทั้งสิ้น พระเจ้าเท่านั้นที่บริสุทธิ์ หากใครทำผิดจงอภัยให้กัน หลังจากนั้นให้กล่าวคำว่า “อัลฮัมดุลิลลาฮฺ” (การสรรเสริญเป็นของพระเจ้า) 33 ครั้ง เพื่อเตือนตนไม่ให้หลงในคำยกย่องเยินยอ และกล่าวคำว่า “อัลลอฮุอักบัรฺ” (พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่) 33 ครั้ง เพื่อเตือนตนว่าอย่าวางตนเป็นใหญ่เหนือคนอื่น

ศาสนาไม่เคยสร้างปัญหา แต่ศาสนาต่างหากที่กล่อมเกลาจิตใจมนุษย์ให้เป็นคนดี ปัญหาเกิดขึ้นเพราะสาวกของศาสนาไม่เข้าใจถึงเหตุผลและวัตถุประสงค์ (Wisdom) ของศาสนาที่ตัวเองนับถืออยู่


You must be logged in to post a comment Login