วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

ไม้ขุดล้อมแห่งตำบลชะอม

On May 8, 2019

คอลัมน์ โลกอสังหาฯ
ไม้ขุดล้อมแห่งตำบลชะอม
โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย
(โลกวันนี้วันสุข วันที่ 10-17 พฤษภาคม 2562)

อบต.ชะอมได้จัดทำเอกสารเผยแพร่ “มหัศจรรย์พรรณไม้ขุดล้อม ปลูกต้นไม้วันเดียวโต” ซึ่งรวบรวมโดยนางสาวนภัสร เปรมปรี ผู้ช่วยนักประชาสัมพันธ์ องค์การบริหารส่วนตำบลชะอม โดยมีที่ปรึกษาประกอบด้วย คุณสายบัว พาศักดิ์ แห่งสวนสายบัว คุณสมศักดิ์ สอนจันทร์ แห่งสวนวันเพ็ญ คุณสมศักดิ์ บำรุงกิจ แห่งสวนบำรุงกิจ คุณสมบัติ ศรีสวัสดิ์ แห่งสวนสมบัติ และคุณกิตติกร ตั้งอนุกูลกิจ แห่งสวนเจอาร์ เป็นที่ปรึกษา

เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรม “ไม้ขุดล้อม” ของชาวบ้านตำบลชะอม ในที่นี้จึงขอนำเอกสารเผยแพร่นี้มานำเสนอเพื่อประโยชน์แก่กิจกรรม “ไม้ขุดล้อม” โดยเดิมทีชาวบ้านตำบลชะอมประกอบอาชีพทำไร่ ทำสวน แต่รายได้ไม่ค่อยจะดีนัก ต่อมาบริษัท สวีดิช มอเตอร์ (บริษัทในเครือรถยนต์วอลโว่) โดยผ่านทางบริษัทย่อยคือ บริษัท มีโร่ แอนด์ ไรมอนด์แลนด์ ของคุณจุไรรัตน์ บีโอไบเธิ่น ประสานงานผ่านท่านมีชัย วีระไวทยะ นายกสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ในโครงการรักชนบท เข้ามาแนะนำเกี่ยวกับการทำไม้ขุดล้อม ให้กู้ยืมเงินทุนโดยไม่คิดดอกเบี้ย และช่วยสอนชาวบ้านถึงขั้นตอนการปลูก การดูแลรักษา การขุดล้อม จนกระทั่งสามารถทำเป็นอาชีพได้ และเมื่อมีผลผลิตออกมาบริษัทก็รับซื้อคืนทั้งหมดจนชาวบ้านที่ปลูกเริ่มแรกมีรายได้ดี เมื่อชาวบ้านเห็นว่ารายได้ดีกว่าการปลูกพืชชนิดเดิมๆจึงหันมาทำไม้ขุดล้อมกันมากขึ้นจนกลายเป็นอาชีพหลักจนถึงปัจจุบัน

ในการทำไม้ขุดล้อม นอกจากการซื้อไม้จากที่อื่นแล้ว ไม้ส่วนใหญ่มาจากการเพาะปลูกเอง โดยสิ่งที่พึงรู้ก็คือ การเพาะปลูกไม้ล้อม ซึ่งแยกได้ 2 วิธีคือ การเพาะเมล็ด และการใช้กิ่งปักชำหรือตอน และการเตรียมดินสำหรับใช้เพาะชำต้นกล้า ซึ่งมีหลายสูตร แต่ก็จะไม่แตกต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่จะใช้ดินร่วน 1 ส่วน และแกลบดำ 1 ส่วน มาผสมให้เข้ากันแล้วนำไปกรอกใส่ถุง หรือบางครั้งอาจจะเพิ่มทราย มูลสัตว์ และขุยมะพร้าวผสมเพิ่มเข้าไปก็ได้
ไม้ล้อมชะอม
สำหรับวิธีการปลูกไม้ล้อมมักจะเริ่มปลูกต้นไม้ระหว่างเดือนพฤษภาคมของทุกปี เนื่องจากเมื่อปลูกแล้วเสร็จจะเริ่มมีฝนโปรยปรายลงมา โดยที่ผู้ปลูกไม่ต้องรดน้ำ
ไม้ล้อมชะอม2
1.ไถพรวน 1 ครั้ง เพื่อทำให้ดินร่วน ง่ายแก่การขุดหลุม
2.การปลูก ส่วนใหญ่ให้มีระยะห่างระหว่างต้นในการปลูกไม้ขุดล้อมระหว่าง 1×1 เมตร
3.ปุ๋ยหรือมูลสัตว์สำหรับรองก้นหลุม จะใช้หรือไม่ก็ได้ดูตามสภาพของดิน
4.ดูแลฉีดยากันแมลง และฮอร์โมนบำรุงต่างๆ ตามความเหมาะสม
5.การใส่ปุ๋ย จะใส่ปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้ง เรื่อยไปจนกว่าต้นไม้จะโตเต็มที่สามารถขุดล้อมได้ การใส่ปุ๋ยอาจจะใส่เป็นปุ๋ยเคมีตามท้องตลาด ปุ๋ยหมัก หรือมูลสัตว์ก็ได้
6.ในระหว่างนี้ต้องดูแลกำจัดวัชพืชต่างๆ โดยการฉีดยาฆ่าหญ้า ดายหญ้า หรือจะใช้เครื่องตัดหญ้าเข้าไปตัดในแปลงเพาะปลูกก็ได้
7.หากต้องการให้ต้นไม้โตเร็วทันใจควรทำการพรวนดินรอบโคนต้นให้ต้นไม้ด้วย
8.ดูแลลำต้น หากมีการคดงอให้ใช้กิ่งไม้ ท่อนไม้ มาดามยึดลำต้นไว้ให้มีลำต้นตรงสง่างาม
9.ตัดแต่งกิ่ง กิ่งที่มองดูแล้วว่าไม่สวยงามหรือมีมากเกินไปจะตัดทิ้ง เพื่อให้ต้นไม้ดูสวยงาม เมื่อต้นไม้อายุ 6 เดือน ก็เริ่มขุดล้อมได้แล้ว ส่วนใหญ่จะปลูกไว้ 1-2 ปีแล้วจึงขุดล้อม หรืออาจปลูกไว้หลายปี แล้วแต่ความต้องการของตลาด
10.ในระหว่างที่ต้นไม้กำลังเจริญเติบโต หากเป็นช่วงฤดูแล้งจะต้องทำแนวป้องกันไฟไม่ให้เกิดไฟไหม้ หากเป็นช่วงฤดูฝนต้องทำแนวป้องกันน้ำท่วม หรือทำทางระบายน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมต้นไม้
ไม้ล้อมชะอม3
สำหรับต้นทุน รายได้ และกำไรโดยเบื้องต้นเป็นดังนี้

1.ต้นทุนในการเพาะปลูก เป็นเงิน 11,400 บาท
ปลูกต้นไม้ 1 ไร่ (ถ้าปลูกระยะห่าง 1×1 เมตร จะใช้กล้าไม้ = 1,600 ต้น)
-กล้าไม้ (1,600 ต้น ต้นละประมาณ 1 บาท) เป็นเงิน 1,600 บาท
-ค่ารถไถ (ชั่วโมงละ 600 บาท หรือเป็นการจ้างเหมา) เป็นเงิน 600 บาท
-ค่าคนงานปลูก (ค่าจ้างปลูกต้นละประมาณ 1 บาท) เป็นเงิน 1,600 บาท
-ค่าไม้ค้ำยัน (ท่อนละประมาณ 1 บาท) เป็นเงิน 1,600 บาท
-ปุ๋ยหรือมูลสัตว์ ตลอดอายุการปลูกประมาณ 2,000 บาท
-ยาฆ่าแมลง ตลอดอายุการปลูกประมาณ 2,000 บาท
-ค่ากำจัดวัชพืช ตลอดอายุการปลูกประมาณ 2,000 บาท

2.ราคาขายต้นไม้ที่มีอายุ 1 ปี (ราคาเหมา) เป็นเงิน 32,000 บาท
-ราคาขายต้นไม้ที่มีอายุ 1 ปี (ต้นไม้สูงประมาณ 2-3 เมตร ลำต้นใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 นิ้ว) ราคาขายต้นละประมาณ 20 บาท จำนวน 1,600 ต้น เป็นเงิน 32,000 บาท

3.กำไร ประมาณ 20,600 บาท/ไร่ (32,000-11,400 บาท)

ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าการปลูกไม้ขุดล้อมจะมีรายได้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับพืชไร่ต่างๆ และหากปล่อยไว้ให้ต้นโตขึ้นเรื่อยๆราคาก็จะสูงขึ้นอีกมาก เช่น ในบรรดาต้นไม้โตเร็ว ไม้ตลาดและไม้เนื้ออ่อน อันได้แก่ ประดู่กิ่งอ่อน หางนกยูง นนทรี ชงโค เสลา ตะแบก ตีนเป็ดน้ำ พญาสัตบรรณ (ตีนเป็ด) ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1, 2, 3, 4, 5, และ 6 นิ้ว มีราคา 60, 150, 250, 600, 700 และ 800 บาทต่อต้น ตามลำดับ จะสังเกตได้ว่าราคาในช่วงแรกๆยังไม่สูงนัก แต่หากมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้นมากราคาต่อต้นก็จะก้าวกระโดดสูงขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ มีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 68% ต่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่ขึ้น 1 นิ้ว

ในตำบลชะอมมีพันธุ์ไม้ขุดล้อมอยู่เกือบ 120 ชนิดให้ผู้สนใจได้เลือกซื้อ แต่ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆได้แก่

1.ราชพฤกษ์ (คูณ) มีประโยชน์คือ ดอกแก้ไข้ เป็นยาระบาย ใบต้มกินเป็นยาระบาย ขับพยาธิ รากและแกนขับพยาธิ ขนาด 1 นิ้ว ราคา 60 บาท, 2 นิ้ว ราคา 150 บาท, 3 นิ้ว ราคา 250 บาท, 4 นิ้ว ราคา 600 บาท, 5 นิ้ว ราคา 800 บาท

.ต้นกันเกรา มีประโยชน์คือ เปลือกบำรุงโลหิต แก้ผิวหนังพุพอง ปวดแสบปวดร้อน ขับลม แก้ไข้ แก้ปวดตามข้อ และเป็นยาอายุวัฒนะได้อีกด้วย ขนาด 1 นิ้ว ราคา 150 บาท, 2 นิ้ว ราคา 300 บาท, 3 นิ้ว ราคา 600 บาท, 4 นิ้ว ราคา 1,500 บาท, 5 นิ้ว ราคา 2,500 บาท

3.ต้นบุนนาค เป็นไม้ไทย ให้ดอกหอม ร่มเงา ดอกสีขาว เป็นยาสมุนไพร สามารถทำเป็นไม้แปรรูปได้ ขนาด 1 นิ้ว ราคา 500 บาท, 2 นิ้ว ราคา 1,000 บาท, 3 นิ้ว ราคา 2,500 บาท, 4 นิ้ว ราคา 5,000 บาท, 5 นิ้ว ราคา 8,000 บาท

4.ต้นสุพรรณิการ์ มีประโยชน์คือ เป็นไม้ดอกสวยงาม สีเหลือง ขนาด 1 นิ้ว ราคา 70 บาท, 2 นิ้ว ราคา 150 บาท, 3 นิ้ว ราคา 300 บาท, 4 นิ้ว ราคา 800 บาท, 5 นิ้ว ราคา 1,300 บาท

5.ต้นพะยอม มีประโยชน์คือ เป็นไม้เศรษฐกิจ และเปลือกนำไปใส่ในเครื่องหมักดองเพื่อกันบูด ใช้ฟอกหนังได้ ขนาด 1 นิ้ว ราคา 100 บาท, 2 นิ้ว ราคา 300 บาท, 3 นิ้ว ราคา 600 บาท, 4 นิ้ว ราคา 1,000 บาท, 5 นิ้ว ราคา 1,400 บาท เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าการทำไม้ขุดล้อมสร้างรายได้ให้กับผู้ปลูกจนน่าพึงพอใจ และน่าจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว ไม้เหล่านี้มีค่าเพราะเป็นที่ต้องการของตลาด เช่น โครงการจัดสรรต่างๆ สนามกอล์ฟ รีสอร์ต นิคมอุตสาหกรรม ตลอดจนผู้รับเหมาจัดสวนและอื่นๆ อนาคตของกิจกรรมไม้ขุดล้อมจึงดีกว่ากิจกรรมอื่นๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานในตลาดในแต่ละระยะด้วย


You must be logged in to post a comment Login