วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

ทรัมป์พร้อมเชิญคิมเยือนทำเนียบขาว

On June 12, 2018

การประชุมสุดยอดสองผู้นำ สหรัฐ-เกาหลีเหนือ ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ผ่านได้ด้วยดี ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐเผย ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีกว่าที่หลายคนคาด พร้อมชวนคิม เยือนทำเนียบขาว ขณะที่คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ย้ำสองฝ่ายสามารถก้าวข้ามอุปสรรคมาได้แล้ว มุน แจ อิล ผู้นำเกาหลีใต้ ยอมรับแทบนอนไม่หลับ

“เขาเป็นนักเจรจาที่สุดยอดมาก เขาเจรจาเพื่อประชาชนของเขา ผมได้เรียนรู้ว่า เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์มาก ผมได้เรียนรู้ว่า เขารักประเทศของเขาขนาดไหน” ทรัมป์ กล่าว หลังจากที่ผู้นำทั้งสองลงนาม “ทุกอย่างเริ่มต้น และดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก และแน่นอน ผมพร้อมที่จะเชิญเขาไปทำเนียบขาว”

ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า รู้สึกดีมาก ทั้งสองมีการหารือที่ยอดเยี่ยม  เป็นไปด้วยดีกว่าที่หลายคนคิด สองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม ด้านคิม กล่าวเป็นภาษาเกาหลีโดยมีล่ามแปลว่า ไม่ง่ายกว่าจะมาถึงจุดนี้ อดีต อคติและการกระทำเก่า ๆ เป็นอุปสรรคต่อการจะก้าวไปข้างหน้า แต่ทั้งสองฝ่ายสามารถก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหมดและมาพบกันได้ในวันนี้

ทางด้าน ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ ยอมรับว่า เขาแทบนอนไม่หลับเมื่อคืนที่ผ่านมาก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับเกาหลีเหนือจะเริ่มขึ้น โดยประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ พร้อมกับกล่าวว่า
การเจรจาครั้งนี้จะนำไปสู่การปลดชนวนอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด และนำมาซึ่งสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี

อย่างไรก็ตาม สำหรับการพบกันครั้งแรกของสองผู้นำ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายเปิดเผยว่า ดูเหมือนว่าทั้งสองคนต่างพยายามวางท่าเป็นผู้นำที่ทรงอำนาจ แต่แท้จริงแล้วกลับแอบซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้
นางแคเรน เหลียง กรรมการผู้จัดการสถาบันพัฒนาภาวะผู้นำอินฟลูเอินซ์โซลูชันส์ ประจำสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์กล่าวว่า ในช่วงเวลา 60 วินาทีแรกผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือต่างแสดงความเป็นผู้นำระหว่างพบปะทักทายกัน นายทรัมป์ดูมีท่าทีระมัดระวังตัวมากในฐานะผู้นำประเทศ ซึ่งในช่วงของการสนทนานั้น นายทรัมป์จะเป็นฝ่ายพูดเป็นส่วนใหญ่และนายคิมจะคอยฟังอย่างตั้งใจ โดยหันหน้ามามองกัน 3 ครั้งระหว่างการเดินไปยังห้องประชุม นายคิมยังแตะแขนประธานาธิบดีสหรัฐเพื่อแสดงถึงความสามารถในการควบคุมสถานการณ์ระหว่างการพบกัน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายบอกว่า ผู้นำทั้งสองพยายามแสดงท่าทางเพื่อกลบเกลื่อนความวิตกกังวลระหว่างนั่งคุยกัน นายทรัมป์ทำท่ายิ้มแต่ไม่เป็นธรรมชาติและขยับมือไปมา ส่วนคิมนั่งเอนตัวและมองลง

สตรีคนหนึ่งที่เกิดในสหรัฐแต่บิดามารดาเกิดในคาบสมุทรเกาหลีก่อนถูกแบ่งเป็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้กล่าวว่า การประชุมนี้ถือเป็นก้าวสำคัญก้าวแรก ทุกคนจึงรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะรอคอยมาถึง 68 ปีแล้ว

1.1

 


You must be logged in to post a comment Login