วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567

สงครามกับเผ่ายิว

On January 5, 2024

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  5 ม.ค.  67)

ในเมืองยัษริบนอกจากจะมีชาวอาหรับพื้นเมืองอาศัยอยู่แล้ว ยังมีชาวยิวสามเผ่ามาตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่นอกเมืองในเขตที่เรียกว่าค็อยบัรฺซึ่งอยู่ห่างจากเมืองยัษริบ(หรือมะดีนะฮฺ)ไปทางเหนือประมาณ 150 ก.ม.  ชาวยิวเหล่านี้อพยพมาจากเมืองเยรูซาเล็มที่ถูกกองทัพโรมันโจมตีและทำลายใน ค.ศ.70

ค็อยบัรฺเป็นโอเอซิสหรือพื้นที่ในทะเลทรายที่สามารถทำการเกษตรได้เพราะมีต้นไม้และน้ำ ชาวยิวจึงมีอาชีพทำเกษตรและค้าขาย  ส่วนหนึ่งเป็นช่างฝีมือก็จะทำเครื่องใช้และอาวุธ  ความมั่งคั่งร่ำรวยที่สะสมได้ก็จะนำไปปล่อยกู้เอาดอกเบี้ย  เมื่อชนเผ่าอาหรับทำสงครามกัน  ชาวยิวจะขายอาวุธและให้เงินกู้แก่ชาวอาหรับนำไปใช้ในการทำสงคราม  ด้วยเหตุนี้  ค็อยบัรฺจึงเป็นพื้นที่ที่มีป้อมปราการหลายแห่ง

ชาวยิวมีความเชื่อในคัมภีร์ของตนว่าพระเจ้าจะส่งนบีคนหนึ่งมาช่วยพวกตน  ชาวยิวจึงรอคอยบุคคลผู้นี้  แต่เมื่อนบีมุฮัมมัดนำคัมภีร์กุรอานมาอ่านให้ชาวยิวว่าคนที่ชาวยิวรอคอยนั้นคือท่าน  ชาวยิวไม่เชื่อ เพราะชาวยิวถือว่าคนที่จะเป็นนบีต้องเป็นพวกลูกหลานอิสราเอลเท่านั้น ไม่ใช่ชาวอาหรับที่ชาวยิวถือว่าเป็นชนชาติไร้คัมภีร์

แม้จะมีเชื้อสายและภูมิหลังที่คล้ายกัน  แต่ในบางครั้งที่ชาวยิวเกิดความขัดแย้งกันถึงขั้นสู้รบ ชาวยิวก็จะไปเรียกพันธมิตรชาวอาหรับมาช่วย ในทำนองเดียวกัน  เมื่อชนเผ่าอาหรับทำสงครามกัน  เผ่ายิวที่เป็นพันธมิตรก็จะเข้ามาช่วยรบ

หลังการทำสนธิสัญญาสงบศึกฮุดัยบียะฮฺ  สาวกสายเหยี่ยวบางคนของนบีมุฮัมมัดมองว่ามุสลิมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ  ชาวยิวเองก็มองว่ามุสลิมอ่อนแอ  ด้วยเหตุนี้  ชาวยิวจึงหาทางที่จะรุกรานมุสลิม  ขณะเดียวกัน  เมื่อชาวกุเรชแห่งมักก๊ะฮฺผิดสัญญาและยกพลมาปิดล้อมเมืองยัษริบเพื่อกำจัดนบีมุฮัมมัด  ชาวยิวได้เข้ามามีส่วนในการทำสงครามครั้งนี้ด้วย  สงครามครั้งนี้จึงถูกเรียกว่าสงครามสหพรรค

แม้จะนำกำลังนักรบมาจำนวนมากและปิดล้อมเมืองยัษริบเป็นแรมเดือน  แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเพราะนบีมุฮัมมัดได้ขุดสนามเพลาะที่ลึกและกว้างเป็นแนวป้องกันตามคำแนะนำของซัลมานชาวเปอร์เซียที่หันมารับอิสลาม   สงครามครั้งนี้จึงถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสงครามสนามเพลาะ

หลังจากปิดล้อมอยู่เป็นเวลานาน  กองทัพจากมักก๊ะฮฺต้องล่าถอยกลับเมื่อถูกพายุพัดกระหน่ำจนกระโจมที่พักและเสบียงที่นำมากระจัดกระจาย  หลังจากนั้น  ชาวมักก๊ะฮฺก็ไม่เคยมารุกรานเมืองยัษริบอีกเลย

เมื่อผู้รุกรานจากภายนอกถอยทัพไปแล้ว  นบีมุฮัมมัดก็หันมาจัดการปัญหาภายในด้วยการขับไล่ชาวยิวที่อาศัยอยู่ในเมืองยัษริบออกไป  แต่ถิ่นฐานหลักของชาวยิวอยู่ที่ค็อยบัรฺซี่งประกอบด้วยป้อมที่ชาวยิวแต่ละเผ่าแต่ละก๊กสร้างไว้ป้องกันตัวเอง

นบีมุฮัมมัดได้นำกำลังไปปิดล้อมและยึดป้อมของชนเผ่ายิวที่ละป้อมได้เป็นผลสำเร็จภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ 

เนื่องจากค็อยบัรฺเป็นแหล่งเพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะสวนอินทผลัม ท่านหญิงอาอิชะฮฺภรรยาคนหนึ่งของนบีมุฮัมมัดถึงกับเอ่ยปากว่านางไม่เคยกินอิทผลัมที่ไหนได้อย่างจุใจเท่ากับกินที่ค็อยบัรฺ แม้พิชิตนิคมชาวยิวได้แล้ว  นบีมุฮัมมัดเห็นว่าชาวยิวมีความเชี่ยวชาญทางด้านเพาะปลูก  ดังนั้น ท่านจึงทำข้อตกลงให้ชาวยิวทำการเพาะปลูกในนิคมค็อยบัรฺต่อไป  แต่ผลผลิตที่ได้ต้องแบ่งให้มุสลิมครึ่งหนึ่ง  

การพิชิตค็อยบัรฺได้ทำให้นบีมุฮัมมัดมีอำนาจในเมืองยัษริบอย่างสมบูรณ์  อาณาเขตของเมืองยัษริบขยายกว้างออกไป   ทรัพย์สินและอาวุธของชาวยิวซึ่งมุสลิมยึดได้เป็นจำนวนมากทำให้มุสลิมมีความมั่งคั่งขึ้น


You must be logged in to post a comment Login