- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 3 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 3 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 3 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 3 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 3 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 3 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 3 months ago
ม.มหิดล-ไบโอเทค ร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร วิจัยเชื่อมโยงเกษตร-อาหาร-สุขภาพ

โลกจะบรรลุเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ต่อสู้กับความหิวโหย (Zero Hunger) ลดปริมาณการสูญเสีย และการเหลือทิ้งของผลผลิตทางการเกษตร และอาหารได้หรือไม่นั้น การมุ่งพัฒนาในมิติด้านอาหารเพียงด้านเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องอาศัยความแข็งแกร่งของมิติด้านการเกษตร และสุขภาพมารองรับ
รองศาสตราจารย์ ดร.ชลัท ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยถึงภารกิจสำคัญในการสร้างความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การบรรลุเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน จากที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดล โดย สถาบันโภชนาการ ได้ผนึกกำลังกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ใช้องค์ความรู้เพื่อการขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมอาหาร
โดยมีตัวอย่างโครงการความร่วมมือ ได้แก่ การนำของเหลือทางการเกษตร หรือส่วนที่ไม่ใช้เป็นอาหาร เช่น ใบ เปลือก เมล็ดของผักและผลไม้ มาสกัดหาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ
เป้าหมายเพื่อพัฒนาต่อให้ได้อนุภาคที่มีขนาดระดับนาโน สำหรับนำมาใช้แก้ปัญหาจุดดำในกุ้ง ซึ่งทำให้กุ้งที่เลี้ยงมีคุณภาพต่ำและเสียราคา โดยสามารถใช้ทดแทนสารซัลไฟต์ซึ่งอาจสร้างความไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
สารออกฤทธิ์อนุภาคนาโนจากโครงการวิจัย สามารถนำมาใช้เพื่อยับยั้งเชื้อจุลชีพที่ทำให้อาหารเสื่อมเสีย (food spoilage) รวมทั้งใช้แทนยาปฏิชีวนะ เพื่อทำลายจุลชีพก่อโรค เป็นการลดปัญหาเชื้อดื้อยาจากการใช้ยาปฏิชีวนะ ส่งผลดี และเป็นประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพสัตว์และมนุษย์
โดยทั้งสองโครงการได้รับทุนความร่วมมือระดับนานาชาติ ทั้งจาก Southeast Asia-Europe Joint Funding Scheme และ e-ASIA Joint Research Program โดยมีประเทศอื่นๆ ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ได้แก่ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ตุรกี และมาเลเซีย เป็นต้น
รองศาสตราจารย์ ดร.ชลัท ศานติวรางคณา มองว่า หนทางสู่ความเป็นเลิศด้านอุตสาหกรรมอาหารไม่อาจบรรลุได้ หากขาดการเชื่อมโยงใน 3 มิติ เกษตร-อาหาร-สุขภาพ อาหารที่ดีไม่สามารถผลิตขึ้นได้หากขาดการเกษตรที่ดีมารองรับ และสุดท้ายความยั่งยืนจะไม่อาจเกิดขึ้น หากขาดการใส่ใจ เชื่อมโยงไปสู่มิติด้านสุขภาพ และความปลอดภัย
ที่ผ่านมาเราผลิตอาหารได้ หากสามารถแก้ปัญหาด้านคุณภาพ ความปลอดภัย การเพิ่มมูลค่า และความยั่งยืนของกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเกษตรซึ่งเป็นต้นน้ำ จนถึงผู้บริโภคที่เป็นปลายน้ำได้อย่างครบวงจร จะทำให้ประเทศไทยฟันฝ่าอุปสรรคที่ท้าทายต่อไปได้
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th
You must be logged in to post a comment Login