วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

ที่มาของการถือศีลอด

On March 31, 2023

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่   31 มี.ค. 66 )

เดือนรอมฎอน เดือนแห่งการถือศีลอดของมุสลิมทั่วโลกได้เริ่มต้นแล้ว ปีนี้ ตรงกับวันที่ 23 มีนาคม 2566 

การถือศีลอดด้วยการอดอาหาร อดน้ำและอดบางสิ่งบางอย่างเป็นที่ปฏิบัติกันมานานแล้ว  คัมภีร์กุรอานที่ถูกประทานแก่นบีมุฮัมมัดกล่าวว่าการถือศีลอดได้ถูกกำหนดแก่ผู้ศรัทธาในศาสนามาก่อนหน้านี้แล้วและวัตถุประสงค์สำคัญของการถือศีลอดก็เพื่อให้ผู้ถือศีลอดเกิดความยำเกรงพระเจ้าซึ่งถือว่าเป็นคุณธรรมสูงสุดในอิสลาม

เท่าที่สืบค้นได้จากประวัติศาสตร์  ชาวอียิปต์ถือว่าการอดอาหารบางช่วงเวลาเป็นสิ่งดี  แต่ที่ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอาน  เมื่อโมเสส(นบีมูซา)ถูกพระเจ้าเรียกขึ้นไปบนภูเขาซีนายเพื่อรับคัมภีร์โตราห์  พระเจ้าได้สั่งให้โมเสสถือศีลอดเป็นเวลา 40 วันเพื่อชำระจิตวิญญาณให้เป็นเสมือนแก้วใสสะอาดที่จะรองรับน้ำทิพย์อันบริสุทธิ์จากพระเจ้าในรูปของโตราห์

โมเสสถือศีลอดโดยการอดอาหารและน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง  เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า จึงละศีลอดด้วยการกินและดื่ม เสร็จจากละศีลอดแล้วก็ถือศีลอดต่อไป  การถือศีลอดของโมเสสจึงเป็นแบบอย่างการถือศีลอดของพวกลูกหลานอิสราเอลสืบต่อมา

หลังโมเสสจากไป  ลูกหลานอิสราเอลไม่สามารถรักษาการถือศีลอดแบบโมเสสได้  ส่วนใหญ่จึงเลิกถือและหันไปถือเพียงบางวัน  เพราะการอดอาหารและน้ำท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุในทะเลทรายเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่ใจไม่ศรัทธา   เมื่อไม่มีความศรัทธาและอดทนพอที่จะอดอาหารและน้ำที่เป็นของจำเป็นได้  พวกลูกหลานอิสราเอลจึงไม่มีความอดทนพอที่จะยับยั้งตัวเองจากสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น อบายมุขและสิ่งเย้ายวนต่างๆ  สังคมจึงเสื่อมทรามลง

การถือศีลอดแบบโมเสสได้ถูกนำมาปฏิบัติอีกครั้งหนึ่งโดยเยซัสไครสต์(นบีอีซา)ผู้มายืนยันธรรมบัญญัติเดิม คือสิ่งที่โมเสสสอนและปฏิบัติ  ดังนั้น เยซัสไครสต์และสาวกของท่านจึงถือศีลอดสี่สิบวันเหมือนกับโมเสส

หลังสมัยของเยซัสไครสต์  สาวกรุ่นหลังๆของท่านขาดความเคร่งครัดในการปฏิบัติศาสนกิจ การถือศีลอดจึงมีน้อยคนที่ปฏิบัติและหากมีก็เป็นเพียงบางวันเท่านั้น 

ในเมืองมักก๊ะฮฺก่อนที่นบีมุฮัมมัดจะถือกำเนิด  ชาวอาหรับในเมืองมักก๊ะฮฺมีประเพณีการถือศีลอดในวันเปลี่ยนผ้าคลุมก๊ะอฺบ๊ะฮฺ  แต่ชาวอาหรับได้แบบแผนการถือศีลอดมาจากใครและถืออย่างไร ผู้เขียนไม่สามารถหาหลักฐานได้  และก่อนมุฮัมมัดจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนบีทำหน้าที่เผยแผ่อิสลาม  ท่านก็มักปลีกตัวไปถือศีลอดอยู่ในถ้ำบนยอดเขาเพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านจิตวิญญาณเช่นกัน

เมื่อนบีมุฮัมมัดอพยพตามหลังบรรดาสาวกไปยังเมืองมะดีนะฮฺ  ท่านพบว่าชาวยิวหรือพวกลูกหลานอิสราเอลที่อพยพมาอาศัยอยู่ในเมืองมะดีนะฮฺมีการถือศีลอด  ท่านได้สั่งสาวกผู้ศรัทธาในพระเจ้าให้ถือศีลอดตามแบบชาวยิวผู้เป็นสาวกของโมเสส  เพราะท่านถือว่าโมเสสเป็นผู้ศรัทธาในพระเจ้า  ท่านจึงยึดถือเป็นแบบอย่างในการทำตาม

แต่หลังจากอพยพไปได้เพียงสองปี  พระเจ้าได้มีบัญชามายังนบีมุฮัมมัดให้มุสลิมถือศีลอดตามแบบแผนที่พระองค์กำหนดมาใหม่เพื่อให้ทุกคนที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งชายและหญิงปฏิบัติได้  นั่นคือ ให้อดอาหาร น้ำและอดกลั้นอารมณ์ใฝ่ต่ำตั้งแต่ก่อนแสงอรุณแรกปรากฏบนขอบฟ้าไปจนถึงดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า และเมื่อเข้าเวลากลางคืนแล้ว  ทุกคนได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตตามปรกติได้

การถือศีลอดในอิสลามจะทำในเดือนรอมฎอนตามปฏิทินทางจัน่ทรคติซึ่งเดือนส่วนใหญ่จะมี 29 วัน มีเพียงบางเดือนในรอบปีเท่านั้นที่จะมี 30 วัน และการถือศีลอดเป็นหนึ่งในหลักปฏิบัติเพื่อยืนยันความศรัทธาในพระเจ้า นั่นหมายความว่า การถือศีลอดเป็นหน้าที่ของมุสลิมที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคน  ใครเจตนาละเว้นโดยไม่มีเหตุผลตามที่กำหนดไว้ถือเป็นบาป 

คัมภีร์กุรอานกล่าวถึงวัตถุประสงค์สำคัญของการถือศีลอดไว้เพียงประการเดียวว่า “เพื่อความยำเกรงพระเจ้า”  นั่นคือ เพื่อให้ผู้ถือศีลอดได้รับบทเรียนว่าถ้าสิ่งจำเป็นเช่นข้าวปลาอาหารและน้ำยังงดเว้นได้  ทำไมสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น อบายมุขจะละเว้นไม่ได้?       


You must be logged in to post a comment Login