วันพฤหัสที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ชีวิตต้องมีคู่มือ

On March 17, 2023

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่   17 มี.ค. 66 )

เครื่องยนต์กลไกและอุปกรณ์อีเลกโทรนิกต่างๆที่เราซื้อมาจะมีคู่มือการใช้ที่โรงงานผู้ผลิตให้มาด้วย  เพราะผู้ใช้ไม่ได้เป็นผู้สร้าง  ดังนั้น ผู้ใช้จึงต้องอ่านคู่มือก่อนใช้เพื่อที่อุปกรณ์จะได้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่  อ่านแล้วต้องเชื่อและทำตาม  หากไม่เชื่อและตะบี้ตะบันใช้ไม่ทำตามคู่มือ  อุปกรณ์ที่ซื้อมาไม่ช้าก็พังหรือไม่ก็อาจเป็นโทษแทนที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้

ชีวิตก็เช่นกัน  มนุษย์ไม่ได้เป็นผู้สร้างทั้งร่างกายและวิญญาณ  พระเจ้าต่างหากที่เป็นผู้สร้าง  ไม่เพียงเท่านั้น  พระเจ้ารู้ว่ามนุษย์ไม่มีความรู้ในเรื่องการใช้ชีวิต พระองค์จึงประทานคู่มือการใช้ชีวิตให้แก่มนุษย์ในรูปของคัมภีร์  และเนื่องจากมนุษย์บางคนไม่รู้หนังสือ พระองค์จึงแต่งตั้งมนุษย์บางคนที่เรียกกันว่า “นบี” (ผู้บอกข่าว) ให้มาอธิบายคำสอนและแสดงแบบอย่างของการปฏิบัติตามคัมภีร์ให้ดู

นี่คือปรากฏการณ์แห่งความเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์และเป็นหลักฐานยืนยันว่าพระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้งมนุษย์หลังจากพระองค์สร้างและส่งมนุษย์มายังโลกใบนี้

นบีมุฮัมมัดได้ให้ข้อมูลแก่เราว่าก่อนหน้าท่านขึ้นไปถึงอาดัม มีผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนบีในชุมชนต่างๆทุกยุคทุกสมัยเป็นจำนวนถึง 124,000 คน  แต่เราทราบชื่อจากคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอานอย่างน้อย 25 ท่าน นอกเหนือจากนั้น  พระเจ้าไม่ได้เอ่ยชื่อ

ในจำนวนนบีนับแสนคน  พระเจ้าได้ประทานคัมภีร์ให้มาใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงจำนวน 313 เล่ม  เราทราบชื่อคัมภีร์เหล่านี้จากคัมภีร์กุรอานเพียง 5 เล่ม  นบีคนใดได้รับคัมภีร์ก็มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “รอซูล” (ศาสนทูตหรือผู้นำสาส์นของพระเจ้า)

เราไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อนบีและคัมภีร์ทั้งหมด เพราะนบีทุกคนและคัมภีร์ทุกเล่มมีคำสอนพื้นฐานที่เหมือนกัน นั่นคือ พระเจ้ามีเพียงองค์เดียวที่มนุษย์ต้องเคารพสักการะ เชื่อฟังและปฏิบัติตาม โลกหลังความตายมีจริงและมนุษย์ต้องกลับไปหาพระเจ้าเพื่อรับการตอบแทนในสิ่งที่ตัวเองได้ทำไว้

คัมภีร์ คือ วจนะของพระเจ้าที่มีมายังมนุษยชาติผ่านทางบรรดานบีและถูกบันทึกไว้เป็นรูปเล่ม คัมภีร์กุรอานกล่าวว่า พระเจ้าได้ประทานคัมภีร์ศุฮุฟแก่อับราฮัม  คัมภีร์เตารอต (Torah) แก่โมเสส   คัมภีร์ษะบูรฺ (Psalms) ดาวูด (กษัตริย์ดาวิด)  คัมภีร์อินญีล (Gospels) แก่เยซัสไครสต์ (นบีอีซา)   คัมภีร์ทั้งหมดนี้รวมถึงคัมภีร์กุรอานถูกประทานในเดือนรอมฎอน

เมื่อนบีคนใดได้รับคัมภีร์  นบีคนนั้นจะใช้คัมภีร์นั้นเป็นคู่มือการสอน หลังนบีผู้ได้รับคัมภีร์จากไป  นบีคนต่อๆมาก็จะใช้คัมภีร์นั้นอ้างอิงต่อๆกันมา

แต่เนื่องจากคัมภีร์ก่อนหน้านี้ถูกบันทึกไว้ในวัสดุที่ไม่คงทน  จึงได้รับความเสียหายหรือไม่ก็ถูกทำลาย  แม้จะมีความพยายามรวบรวมและฟื้นฟูคำสอนจากคัมภีร์  แต่ก็ไม่สามารถทำให้สมบูรณ์ได้เหมือนเดิม  มิหนำซ้ำยังมีการตัดเสริมเติมแต่งขึ้นมาจนผิดเพี้ยนไปจากเดิมแม้กระทั่งภาษาของต้นฉบับ

ด้วยเหตุนี้  หลังสมัยเยซัสไครสต์ 610 ปี พระเจ้าจึงประทานคัมภีร์สุดท้ายที่เรียกว่าคัมภีร์กุรอาน (Quran) เป็นภาษาอาหรับแก่นบีมุฮัมมัดเพื่อยืนยันคำสอนดั้งเดิมของพระเจ้าที่ถูกประทานแก่นบีก่อนๆ

แม้คำสอนในคัมภีร์ก่อนหน้านี้อาจมีความผิดเพี้ยนไปจากเดิมซึ่งเกิดขึ้นจากการรวบรวมและการแก้ไข  แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคำสอนที่สำคัญของพระเจ้าหลงเหลืออยู่บ้าง  ดังนั้น มุสลิมจึงถูกกำหนดให้ศรัทธาในคัมภีร์เหล่านั้นและศรัทธาว่าคัมภีร์กุรอานเป็นวจนะครั้งสุดท้ายที่พระเจ้าประทานแก่มนุษยชาติ

คัมภีร์กุรอานมีความแตกต่างจากคัมภีร์ก่อนหน้านี้บางอย่าง เช่น คัมภีร์กุรอานยังคงรักษาต้นฉบับภาษาอาหรับไว้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขจนถึงปัจจุบันแม้เวลาจะผ่านไป 1,400 กว่าปีแล้ว และในขณะที่คัมภีร์ก่อนหน้านี้ถูกประทานมาเพื่อคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเป็นการเฉพาะ  แต่คัมภีร์กุรอานถูกประทานมาเพื่อมนุษยชาติทั้งหมด


You must be logged in to post a comment Login