- เลือกงานให้โดน บริหารคนให้เป็น ตาม“ลัคนาราศี”Posted 11 hours ago
- ต่างศาสนา ต่างชาติพันธุ์ อยู่ร่วมกันภายใต้ความแตกต่างPosted 11 hours ago
- โลภ•ลวง•หลง เกมพลิกชีวิต รีแบรนด์หรือรีบอร์นPosted 11 hours ago
- กูไม่ใช่ไก่ต้มเว้ย! อย่ามาต้มกูเลย..Posted 11 hours ago
- หยุดความรุนแรง-ลวงโลกPosted 2 days ago
- อ.เบียร์ช่วยวัดสวนแก้วPosted 5 days ago
- เลิกเสียเงินกับเรื่องโง่ๆPosted 6 days ago
- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 7 days ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 1 week ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 1 week ago
ความจำเป็นบีบคั้น / โดย พระพยอม กัลยาโณ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
เมื่อไม่นานมานี้ได้เดินทางขึ้นไปวัดสวนแก้วสาขาจังหวัดตาก ปรากฏว่ามีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับชาวบ้าน ถามชาวบ้านศึกษาเรียนรู้เขาก็บอกว่า มีคนขายที่ดินแล้วก็ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯหรือที่อื่นเป็นจำนวนมาก ทำให้รู้สึกว่าโอกาสชีวิตอนาคตของคนบ้านนอกจะเป็นอย่างที่โบราณเขาพูดหรือไม่ที่ว่า “คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า”
คนเมืองจะหนีเข้าป่า คนป่าจะพากันเข้าเมือง ตอนนี้มีการละทิ้งอะไรก็เยอะแยะแต่มันก็มีคนอีกส่วนหนึ่งที่ทำตรงกันข้ามสลับซับซ้อน คือคนที่ประจวบคีรีขันธ์ทางจังหวัดภาคใต้ หรือคนทางภาคใต้ต่างๆกลับขึ้นมาประกอบอาชีพแถวอำเภอพบพระ อำเภอแม่สอด จังหวัดตากกันไม่น้อย
อาตมาเดินบิณฑบาตก็ได้ยินเสียงแม่ค้าพูดสำเนียงเหมือนคนใต้ อาตมาเลยถามว่าอยู่ที่ไหน แม่ค้าก็บอกว่าอยู่ตรังบ้าง พังงาบ้าง ก็เลยนั่งคิดดูว่าประเทศไทยนี้น่าจะเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่คนไทยภาคต่างๆมีการอพยพสลับย้ายถิ่นฐานกันไปหมด
คนจังหวัดหนึ่ง ภาคหนึ่งก็ไปอยู่อีกที่จังหวัดหนึ่ง อีกภาคหนึ่ง คือคนพื้นที่หนึ่งก็ไปอยู่อีกพื้นที่หนึ่ง ซึ่งไม่ได้เป็นพื้นที่หรือจังหวัดที่อยู่ติดกันใกล้กันเท่าไรเลย เพราะการย้ายที่อยู่อาศัย ที่ทำมาหากินเหมือนโลกยุคนี้ที่เรียกว่า “โลกาภิวัตน์” มีการติดต่อกันได้ทั่วโลก สามารถพูดคุย ค้าขาย หรือเรียนรู้กันได้ง่ายเพราะเทคโนโลยีทันสมัย
ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจในการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับสังคมโลกเราที่มันเปลี่ยนไปอย่างมากขนาดนี้ ถึงขนาดที่เรียกว่าการโยกย้ายถิ่นฐานทำกันจนเหมือนไม่มีคำว่าติดถิ่นติดที่กันเหมือนเดิม
เมื่อก่อนนี้ยังมีคำว่าติดถิ่นติดที่อยู่บ้าง แต่ตอนหลังๆนี่ทั้งที่ทั้งถิ่นไม่มีใครที่จะติดหลงยึดติดกันอยู่อีกแล้ว การย้ายที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย ทำกันแบบที่น่าจะเข้าขั้นเป็นยุคแห่งความเปลี่ยนแปลง โยกย้าย สลับสับเปลี่ยน คนที่นั่นคนที่นี่สลับย้ายไปมา
เมื่อก่อนเขาบอกว่า เป็นคนพื้นที่นั้น คนพื้นที่นี้ แต่เดี๋ยวนี้มันหลายพื้นที่หลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะการมีคู่ครองก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่เฉพาะเผ่าพันธุ์เดียวกัน เชื้อชาติเดียวกัน มันเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากถึงขนาดที่เรียกว่าแทบจะสลายสายพันธุ์กันไปเลยก็มี แต่ยังไงก็คงไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่นำไปในทางที่ล่มจมเสียหายหรอก ส่วนหนึ่งคงจะอยู่ในลักษณะที่เรียกว่ามีความจำเป็นบีบคั้นในเรื่องอาชีพ เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องสิ่งแวดล้อมที่มันทำให้เกิดการเปลี่ยแปลงแปรผันไปในระดับหนึ่ง
คงจะต้องติดตามดูว่าสังคมไทยจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน แบบไหนและอย่างไรบ้างในอนาคตข้างหน้า
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login