วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

ปฏิรูปประเทศไทย? / โดย ณ สันมหาพล

On September 4, 2017

คอลัมน์ : โลกไม่หยุดนิ่ง

ผู้เขียน : ณ สันมหาพล

ประเด็นการปฏิรูปประเทศเป็นเรื่องที่พูดกันมากขณะนี้ โดยเฉพาะการประกาศเดินหน้า “ประเทศไทยยุค 4.0” ซึ่งทำได้ไม่ยากหากมีมาตรการที่ชัดเจน ก่อนอื่นต้องเข้าใจความหมายการปฏิรูปและขั้นตอนที่มีความหลากหลาย ต้องเป็นไปอย่างมั่นคงยั่งยืนด้วย

การปฏิรูปคือการลดขนาด ลดขั้นตอน และต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อให้ทันสมัยทันเหตุการณ์ โดยเฉพาะการลดขนาดหน่วยงานราชการไทยเพื่อให้เข้าสู่หลักการประเทศ 4.0 ถ้าหน่วยงานรัฐยังมีขนาดใหญ่โตโอฬารและทำงานซ้ำซ้อนก็จะเหมือนเดิม

นอกจากประเทศจะไม่เจริญแล้วยังจะเป็นภาระในการบริหารจัดการด้วย ยกตัวอย่างการรักษาในโรงพยาบาลรัฐ ทันทีที่คนไข้กรอกใบลงทะเบียนผู้ป่วย ข้อมูลต้องถูกส่งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบทันที เฉพาะข้อมูลด้านสาธารณสุขด้านเดียวก็มากมายจนกระทบข้อมูลด้านอื่นๆทุกด้าน ซึ่งจะทำให้การทำงานของหน่วยราชการมีปัญหาต่างๆตามมา

เป็นที่ทราบกันนานแล้วว่าการลดขนาดหน่วยงานราชการไทยควรทำอย่างไร เพราะมีการทำการศึกษาไว้มากมาย อีกทั้งหลายหน่วยงานก็มีการศึกษา ซึ่งสามารถนำมาผนวกการก้าวสู่ยุค 4.0 ได้ไม่มากก็น้อย

นอกจากนี้ยังต้องก่อตั้งฝ่ายปฏิบัติงานดิจิตอลหรือกองทัพไซเบอร์ที่จะเป็นกองกำลังทำหน้าที่ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศด้วย กองกำลังนี้ไม่จำเป็นต้องบริหารแบบกองทัพ ไม่ต้องมียศและขั้นตอนบัญชาการเหมือนทหาร แต่ใช้คนหนุ่มสาวที่มีสมองเป็นเลิศ แม้เพิ่งจบมัธยม 3 ก็สามารถทำงานได้หากมีความสามารถจริง โดยสามารถคัดกรองจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ช่วยไม่ให้มีการกระจุกตัวของนักรบไซเบอร์จากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการเล่นพรรคเล่นพวก

เหตุที่ต้องใช้นักรบไซเบอร์ที่อายุน้อย เพราะการฝึกต้องทำให้รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลก ไม่ใช่แค่การเจาะและป้องกันฐานข้อมูลเท่านั้น เนื่องจากภัยทางไซเบอร์ไม่จำกัดพรมแดนและลักษณะผู้ก่อภัย ใครก็สามารถเจาะฐานข้อมูลได้และอาจทำแบบไม่มีเหตุผลอีกด้วย

นอกจากนี้ยังต้องให้ความรู้กับประชาชน โดยการหมุนเวียนไปตามชุมชนและหน่วยงานต่างๆเพื่อให้ความรู้และข้อมูลข่าวสารล่าสุดทั้งด้านดีและไม่ดี ให้ทันโลกในทุกๆเรื่องเท่าที่จะทำได้

นักรบไซเบอร์ต้องค้นคว้าหาความรู้ต่างๆเพื่อใช้เป็นช่องทางนำความรู้มาเป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชนมากที่สุด แม้แต่เรื่องการตรวจดีเอ็นเอ พบว่าคนไทยทางด้านบนของประเทศมีบรรพบุรุษเป็นคนจีนและเวียดนามไม่น้อย ส่วนด้านล่างเป็นคนมลายู ซึ่งต้องมีการค้นคว้าหาข้อพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่จริง

การค้นคว้าควรทำถึงรากเหง้าของบรรพบุรุษ ครอบครัวชั้นนำตามชุมชนต่างๆ โดยลงรายละเอียดและบันทึกเป็นประวัติ เพื่อจะได้มีผู้นำชุมชนที่กระจายไปทั่ว เพื่อเป็นฐานรากให้ประเทศแข็งแกร่งมากขึ้น เรื่องกำพืดของคนในชาติเป็นองค์ความรู้ไปถึงด้านต่างๆตั้งแต่ในอดีต เรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งยังไม่มีการศึกษาและนำมาใช้ประโยชน์ รวมทั้งแร่ธาตุที่หายาก ชีววัตถุที่อาจพัฒนาเป็นสิ่งมีค่า พืชสมุนไพรที่พัฒนาเป็นยารักษาโรคและเป็นอาหารเสริมสุขภาพ ซึ่งต่างชาติให้ความสนใจเรื่องกำพืดทรัพยากรธรรมชาติของไทยอย่างมาก ไม่ใช่เพิ่งสนใจ

อย่างตำรับยาไทยจำนวนมากที่ตกไปอยู่ในมือต่างชาติ ขณะที่ปัจจุบันก็ยิ่งมีความสนใจ เพราะยังไม่มีการศึกษาค้นคว้าและสำรวจอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นแร่ธาตุหายาก ชีววัตถุที่จะพัฒนา หรือพืชสมุนไพรต่างๆ

นักรบไซเบอร์ต้องทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับประเทศ เพื่อให้ประเทศทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศ 4.0 ที่น่าสนใจอย่างไร ไม่เช่นนั้นประเทศไทยก็จะไม่มีใครมาลงทุน

นี่คือส่วนหนึ่งของนักรบไซเบอร์ยุคที่ประเทศไทย 4.0 จะต้องก้าวไป อยู่ที่ว่าจะทำจริงจังและครบเครื่องได้มากขนาดไหน ถ้าไม่ทำหรือทำแบบไทยๆรับรองว่าประเทศไทยล้มทั้งยืนแน่นอน


You must be logged in to post a comment Login