วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

หนึ่งวันตากสิบวันเก็บ / โดย กิ่งเหมย

On August 21, 2017

คอลัมน์ : วิถีบูรพา

ผู้เขียน : กิ่งเหมย

ฉบับนี้ขอเสนอสุภาษิตที่ว่า “อี๋ พู่ สือ หาน” หรือ “หนึ่งวันตากสิบวันเก็บ”

สมัยจ้านกว๋อ เป็นสมัยที่มีนักปราชญ์และนักคิดต่างๆเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นที่มีชื่อเสียงคือ เมิ่งจื่อ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง กษัตริย์แคว้นฉีได้เชิญให้เมิ่งจื่อไปเป็นที่ปรึกษาและคอยสั่งสอน แต่ปรากฏว่า กษัตริย์แคว้นฉีกลับเป็นคนโลเล หูเบา เชื่อพวกขุนนางกังฉิน เมิ่งจื่อ จึงกราบทูลสั่งสอนกษัตริย์แคว้นฉีไปว่า

ในโลกนี้มีพืชที่ทนทานอยู่ชนิดหนึ่ง แต่ท่านกลับเอามันออกไปตากแดดใต้แสงอาทิตย์เพียงหนึ่งวันและอีกสิบวันกลับหลบให้มันอยู่ในที่มืดเย็นใต้แสงจันทร์ เช่นนี้ สิ่งมีชีวิตชนิดใดก็ไม่อาจทนได้

ก็เหมือนกับที่ขณะนี้ข้าพระองค์อยู่กับท่าน ท่านก็เชื่อฟังคำสั่งสอนของข้าพระองค์ แต่พอข้าพระองค์กลับไปแล้ว ท่านก็เลิกที่จะเชื่อฟัง หันไปเชื่อคำพูดยุยงของเหล่าขุนนางกังฉินแทน

อุปมาดั่งการเล่นหมากรุก หากไม่ตั้งใจย่อมเล่นได้ไม่ดีและแพ้ในที่สุด เหมือนกับอี้ชิว เซียนหมากรุกที่ยากหาผู้ใดต่อกร มีลูกศิษย์สองคน คนหนึ่งตั้งใจต่อคำสั่งสอนของอาจารย์และหมั่นฝึกฝนจนชำนาญ ส่วนอีกคนไม่สนใจ วันๆเอาแต่ยิงนก ใครเล่าจะกลายเป็นเซียนหมากรุกคนต่อไป

ศิษย์ทั้งสองคน ใช่ว่ามีสติปัญญาไม่เท่ากัน หากแต่ต่างกันที่ความวิริยะอุตสาหะในการเรียน หากเรียนๆเล่นๆ ไหนเลยจะประสบความสำเร็จได้

หนึ่งวันตากสิบวันเก็บ อุปมาได้กับ การไม่เสมอต้นเสมอปลาย ทำการใดๆหรือเรียนรู้สิ่งใดย่อมไม่ได้ผล


You must be logged in to post a comment Login