วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

สานต่อผลงานพระองค์ท่าน / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On October 17, 2016

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงของพสกนิกรชาวไทย ประชาชนชาวไทยต่างก็แสดงความเสียใจกันมากมาย ในส่วนของคอลัมน์นี้ อาตมาก็อยากให้พวกเราตั้งสติให้ดีว่า จะเศร้าโศกเสียใจอย่างไรก็ตาม ก็อย่าให้ความเศร้าโศกเสียใจปิดบังครอบงำสติปัญญาที่เราจะสืบสานโครงการดีๆที่พระองค์ได้ริเริ่มไว้ ขับเคลื่อนมา

พวกเราต้องไม่หยุดนิ่งดูดายให้โครงการต่างๆของพระองค์ต้องหยุดไปกับการจากไปของพระองค์ท่าน เราต้องให้มีการขับเคลื่อนต่อไปด้วยสติปัญญา เราต้องแหวกม่านความเศร้าโศกเสียใจให้เห็นยอดธงโครงการของพระองค์ท่านต่อไป มีเรื่องอะไรบ้างที่เราควรจะขับเคลื่อนเพื่อความผาสุกของประชาชน ความเจริญของประเทศชาติ สมกับที่พระองค์ได้มุ่งหวังกระทำมาตลอดเวลาถึง 70 กว่าปี

เราจะมานั่งเศร้าโศกเสียใจในตอนนี้จนเกินไปก็อาจจะไปบดบังสติปัญญาที่เราจะไปเสริมไปต่อยอดโครงการต่างๆที่พระองค์ได้ทำเอาไว้ เช่น อาตมาอยากจะเริ่มต้นคำว่า “แก้มลิง” ถ้าเรามัวเสียใจแล้วไม่คิดทำแก้มลิงต่อ สมกับน้ำพระทัยที่พระองค์ต้องการทำเพื่อประชาชน พระองค์ท่านจะคิดอย่างไร หากพวกเราเอาเวลามาอยู่กับความเสียอกเสียใจแล้วไม่ต่อยอดงานที่ค้างไว้ หรือบางอย่างที่พระองค์อยากให้พวกเราต่อยอดขับเคลื่อนให้ดีมากขึ้นอย่างโครงการแก้มลิงที่พระองค์ท่านดำริ ซึ่งทุกวันนี้พวกเราก็เห็นชัดเจนแล้วว่า ถ้าไม่มีแก้มลิง ประชาชนจะเดือดร้อนอย่างไร ไม่ว่าจะฝนแล้ง หรือน้ำท่วม

แล้งไม่มีน้ำเก็บก็ขาดแคลนน้ำ น้ำมามากไม่มีแก้มลิงก็จะท่วม น้ำในแก้มลิงทั้งใช้ทั้งเก็บ ถ้าไม่มีแก้มลิง เราก็เดือดร้อน แม้พระองค์จะยังอยู่ แต่เราไม่ทำ เราก็เดือดร้อนอยู่ดี ดังนั้น เมื่อพระองค์จากไปแล้ว เราก็ต้องทำกันต่อเหมือนกับว่าพระองค์ยังอยู่กับพวกเรา เพราะถือเป็นผลงานสำคัญของพระองค์ที่มีต่อประชาชน

พระพุทธเจ้าตรัสว่า ถ้าพระองค์จะอยู่อีกสักร้อยปี แต่ไม่มีผลงาน เหมือนอย่างที่เราพูดกันว่า ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดที่เหน็ดเหนื่อยหรือมีผลงานมากเท่ากับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เพราะฉะนั้นแม้พระองค์ท่านจะจากไป แต่ผลงานของพระองค์ท่านก็จะคงอยู่ต่อไป

ปรกติคนเราเวลาตายและเผานั้น มือจะไหม้ก่อน เพราะมือมัดตราสังจะเหยียดขึ้นสูงแล้วไฟก็จะลามไหม้ที่ปลายเล็บก่อนมือ ลงมาที่แขน หน้าอกและสะโพก จนถึงศีรษะก็จะไหม้หลังสุด

เมื่อเรายังมีมือ เราก็ต้องทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราก็จะได้ชื่อว่าใช้ชีวิตสืบสานผลงานของพระองค์ท่าน ให้ผลงานของพระองค์ไม่สวรรคตจากเรา ผลงานยังอยู่ตลอดไป

เรื่องของสังขารมันเป็นอนิจจังอยู่แล้วทุกคน พระองค์ท่านก็เป็นอนิจจัง ของพวกเราก็เป็นอนิจจัง ยังไงสังขารก็ต้องละโลกนี้ไป แต่ผลงานยังอยู่ เหมือนพระพุทธเจ้าบอกว่า ร่างกายเรา สังขารเราไม่สำคัญเท่ากับธรรมวินัยที่เราถ่ายทอดสั่งสอนไว้

เพราะฉะนั้น พวกเราต้องคิดกัน ต่อยอดกัน อย่าให้ความเศร้าโศกมาห่อหุ้มสติปัญญาที่เราจะขับเคลื่อนผลงานของพระองค์ท่านให้ก้าวหน้าต่อไป เหมือนกับว่าพระองค์ท่านยังอยู่กับเราตลอดไป

ถ้าแก้มลิงมีเพิ่มขึ้น ฝายน้ำเพิ่มขึ้น ทั้งฝายน้ำและแก้มลิงก็เหมือนกับชีวิตที่ทำให้พระองค์ท่านมีความชื่นฉ่ำ เหมือนที่พระองค์ท่านยังอยู่ก็ให้ความชุ่มฉ่ำ ให้คำแนะนำไม่ให้ขาดแคลนน้ำ ไม่ให้น้ำท่วม พระองค์ทรงห่วงและหาวิธีแก้ไขทั้งสองเรื่องมาเป็นเวลายาวนาน

เพราะฉะนั้นเราอย่าให้ความเศร้าโศกเสียใจมาหุ้มห่อเราจนกระทั่งปิดบังสติปัญญาของเราจนไม่มีกำลังที่จะขับเคลื่อนโครงการและผลงานต่างๆของพระองค์ท่านที่ทรงคิด เพื่อช่วยประชาชน ช่วยประเทศชาติมาตลอดอย่างเต็มที่ เราจึงต้องเดินต่อไป เหมือนเรายังมีพระองค์ท่านอยู่ ให้เกิดความชุ่มฉ่ำ เกิดความเยือกเย็น และเกิดความเจริญต่อบ้านเมืองต่อไป

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login