วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

กสอ. ดัน SMEs ไทยสู่ซัพพลายเชนโลก

On September 15, 2016

ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า เพื่อเป็นการขานรับนโยบาย 4.0 ของประเทศไทย ที่มีการส่งเสริมให้ธุรกิจ SMEs ขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยี ที่ทันสมัย เพื่อสร้างความได้เปรี ยบในการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมใ ห้กับธุรกิจ SMEs ดังนั้น กสอ. จึงมีการผลักดันให้นำ 5 ช่องทางออนไลน์มาใช้ในการเสริมส ร้างและพัฒนาธุรกิจ SMEs ได้แก่

· การพัฒนาเว็บไซต์ โดย กสอ. มีการพัฒนาเว็บไซต์ http://bsc.dip.go.th เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ กรณีศึกษา SMEs ที่ประสบความสำเร็จ ตลอดจนคลังความรู้ในการ  ประกอบธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูล ไปพัฒนาและต่อยอดได้

· การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่น ทาง กสอ. ได้พัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นเพื่อเ ป็นช่องทางให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ ประกอบการ SMEs ผ่านช่องทางออนไลน์ บน http://e-consult.dip.go.th ในรูปแบบ Web Conference ซึ่งเป็นการให้คำปรึกษาโดยผู้ เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น การเริ่มต้นธุรกิจ ปัญหาการดำเนินธุรกิจ เป็นต้น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ม าขอรับบริการ ผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต โดยเปิดให้คำปรึกษาแนะนำทุกวั นจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.00 – 16.00 น. ผ่านระบบออนไลน์

· การพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น (Mobile Application) กสอ. ได้มีการพัฒนา 2 โมบายแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ผู้ปร ะกอบการได้เข้าถึงแหล่งข้อมู ลได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการพัฒนาธุรกิจ SMEs อย่างต่อเนื่อง อาทิ แอพพลิเคชั่น DIP Thailand เป็นแอพพลิเคชั่นหลักของ กสอ. โดยพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้บริการข้ อมูลข่าวสารด้านการส่งเสริมอุตส าหกรรม การประชาสัมพันธ์โครงการของ กสอ.  รวมไปถึงการสมัครเข้าร่วมโครงก ารต่าง ๆ ที่ทาง กสอ.ได้จัดขึ้น โดยทางผู้ประกอบการ SMEs สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการผ่าน ช่องทางโมบายแอพพลิเคชั่น (Mobile Application) ได้ นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชั่น iP Industrial Partner ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ทาง กสอ.ได้รวบรวมข้อมูล ของที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญเฉพ าะด้านมาให้บริการแก่ผู้ขอรับคำ ปรึกษาแนะนำ โดยผู้ที่มาขอรับบริการสามารถที่ จะฝากข้อความได้ตลอด 24 ชั่วโมงทั้งในด้านข้อมูลอุตสาหก รรม โอกาสการลงทุน และโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งทั้ง 2 แอพพลิเคชั่น สามารถดาวน์โหลด ได้ที่ app store และ play store

· การเชื่อมโยงเครือข่ายอีคอม เมิร์ซ กสอ.ได้ร่วมกับ Alibaba และ Ready Planet ในการขยายช่องทางการส่งออก บนเว็บไซต์ http://alibaba-dip.readyplanet .com ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางการค้าส่ง ออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด ในโลก และยังเป็นตัวกลางในการให้ ความรู้แก่ SMEs อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดโครงการอบรมให้ความ รู้ ด้านการส่งออก การขนส่งสินค้า ด้านภาษี และเพิ่มช่องทางในการขายสินค้าอ อกไปต่างประเทศได้อย่างมีประสิท ธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กสอ.ยังได้จับมือกับ HKTDC เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้า นการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเท ศไทยและฮ่องกง  รวมไปถึงทางฮ่องกงยังได้ เผยแพร่รายชื่อผู้ ประกอบการและสินค้าไทยในเครือข่ ายของ กสอ.ไปเผยแพร่ ใน “Thailand Featured Suppliers Zone” บนเว็บไซต์ www.hktdc.com เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและอุต สาหกรรมไทยสู่กลุ่มผู้ประกอบการ ฮ่องกงและจีน ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ประ กอบการไทยในการสร้างเครือข่ายระ หว่างผู้ประกอบการฮ่องกงและจีน

· การส่งเสริมการตลาดสื่อสังค มออนไลน์เฟสบุ๊ค (Facebook) กสอ. ได้มีการจัดฝึกอบรมโครงการเสริม สร้างผู้ประกอบการใหม่ โดยมีการส่งเสริมการทำการตลาดผ่ านเฟสบุ๊ค (Face book)  ด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ อาทิ การสร้าง Facebook Page ให้เปรียบเสมือนหน้าร้านธุรกิจ โปรโมทร่วมกับเว็บไซต์ การสร้างสรรค์เนื้อหาที่ดึงดูดก ลุ่มเป้าหมาย และการนำข้อมูลเผยแพร่ตามช่องทา งต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางในการโปรโมทธุร กิจ อีกทั้งยังสามารถสร้างเครือข่าย กลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ตลอดจนการสร้างเนื้อหาให้ความรู้ ผ่าน infographic เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สื่อออนไลน์มีส่วนช่วยในการเชื่ อมโยงข้อมูล การสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงสามารถยกระดับ การบริหารจัดการ การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร จัดการ การลดต้นทุนในขั้นตอนการผลิต และการเรียนรู้  ให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างมีป ระสิทธิภาพ อีกทั้งในอนาคตคาดว่าจะมีบทบาทอ ย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจ  ในด้านต่าง ๆ อย่างมาก ซึ่ง กสอ. ตั้งเป้าหมายในการส่งเสริมให้ผู้ ประกอบการมีความสามารถในการใช้ สื่อออนไลน์มาส่งเสริมธุรกิจอุ ตสาหกรรมของตนเอง โดยปัจจุบันพบว่าไทยมีผู้ประกอบ การ SMEs เพียง 1 ล้านราย ที่ใช้สื่อออนไลน์ในการดำเนินธุ รกิจ SMEs ดร.พสุ กล่าวทิ้งท้าย


You must be logged in to post a comment Login