วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

“จุรินทร์”จัดทัพอเวนเจอร์สแล้วยันไม่มีความขัดแย้ง

On May 20, 2019

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ประชาธิปัตย์ชุดใหม่นัดแรก ที่ห้องประชุมชั้น 3 ตึก 100 ปี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ภายในที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีวาระการพิจารณามอบหมายงานให้กับรองหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาคต่างๆ 5 คน และรองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย 8 คน รวมถึงการมอบหมายงานด้านอื่นๆในหลายส่วน ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมายงานให้กับรองเลขาธิการพรรค 15 คน โดย กก.บห. เข้าร่วมการประชุมอย่างคึกคักและพร้อมเพรียง ทั้งนี้ มี กก.บห. บางส่วนพูดคุยกันถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวอ้างว่ามีผู้ใหญ่ในพรรคบางคนใช้บารมีแทรกแซงในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 15.45 น. นายจุรินทร์แถลงภายหลังการประชุม กก.บห. ว่า ที่ประชุมมีการแบ่งงานให้กับรองหัวหน้าและรองเลขาธิการ หรือจะเรียกว่าเป็นการจัดทัพ “อเวนเจอร์สประชาธิปัตย์” ก็ได้ ซึ่งการแบ่งงานครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา โดยจะไม่เน้นรายภาค แต่จะมุ่งเน้นให้สอดคล้องกับทิศทางทางการเมือง โดยใช้ 2 กลไกหลักในการขับเคลื่อนคือ 1.กลไกการจัดการทางการบริหารพรรค ซึ่งประกอบด้วย 10 กลไกย่อย ได้แก่ คณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการสภาที่ปรึกษา คณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง คณะกรรมการการต่างประเทศ คณะกรรมการประสานงานเครือข่ายองค์กรภายนอก คณะกรรมการกระจายอำนาจ คณะกรรมการประสานงานกิจการสาขา ตัวแทนจังหวัด และสมาชิกพรรค คณะกรรมการพัฒนาและประสานงานสตรี และคณะกรรมการประสานงานเยาวชนประชาธิปัตย์

2.กลไกบริหารจัดการด้านการเมือง ได้แก่ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ โดยมีหัวหน้าพรรคเป็นประธาน และรองหัวหน้าพรรคทั้ง 5 ภาคร่วมเป็นกรรมการ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคทำงานทางการเมืองทั้ง 5 ภาค คณะกรรมการด้านเทคโนโลยีของพรรคหรือสมาร์ทเดโมแครต ที่จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาปรับปรุงให้พรรคมีความทันสมัย และใช้ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ ตัดสินใจทางการเมืองในอนาคต รวมถึงคณะกรรมการประสานงานภายในพรรคหรือวิป เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนการทำงานทางการเมืองของพรรค

นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนได้มอบหมายงานให้รองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ 8 คนดังนี้ 1.นายนิพนธ์ บุญญามณี ดูแลงานด้านกิจการสาขาพรรค ตัวแทนจังหวัด และสมาชิกพรรค 2.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รับผิดชอบการประสานงานเครือข่ายองค์กรภายนอก 3.นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รับผิดชอบคณะกรรรมการสมาร์ท เดโมแครต 4.นายอลงกรณ์ พลบุตร รับผิดชอบการขับเคลื่อนงานยุทธศาสตร์ในพื้นที่ต่างๆ 5.นายกนก วงศ์ตระหง่าน ดูแลงานวิจัยพัฒนาและงานด้านวิชาการ 6.นายอัศวิน วิภูศิริ ดูแลงานระดมทุมพรรค 7.นายสรรเสริญ สมะลาภา ดูแลงานกิจการเยาวชนประชาธิปัตย์ 8.นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจยุคใหม่ ส่วนคณะกรรมการด้านการกฎหมายของพรรค มีนายถวิล ไพรสณฑ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธาน สำหรับที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคนั้น ตอนนี้มีนายจุติ ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการพรรค มาที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคด้านยุทธศาสตร์ และนายกษิต ภิรมย์ ที่ปรึกษาด้านต่างประเทศ รวมถึงตนกำลังทาบทามบุคคลอื่นมาร่วมทีมนี้อีกด้วย ส่วนคณะโฆษกที่มีนายราเมศ รัตนะเชวง เป็นโฆษก ได้แต่งตั้งรองโฆษกพรรค 4 คน ได้แก่ นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ น.ส.ศิริภา อินทรวิเชียร นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. อีกทั้งได้มีบุคคลภายนอกมาร่วมงานกับพรรคด้วย อาทิ นายวรเดช วีระเวคิน อดีตเอกอัครราชทูตไทย มาร่วมเป็นกรรมการการต่างประเทศ

เมื่อถามว่ามีการเชิญนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และนายกรณ์ จาติกวณิช ร่วมทำงานด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนได้เชิญนายพีระพันธุ์ ซึ่งได้แจ้งให้ทราบว่าไม่ขอรับตำแหน่งอะไรแต่ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ ส่วนนายกรณ์เชิญแล้วแต่ขอเวลาตัดสินใจและจะแจ้งให้ทราบภายหลัง ยืนยันว่าไม่มีเรื่องความขัดแย้ง ความจริงก่อนเลือกหัวหน้าพรรคได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว อย่างนายกรณ์ได้คุยกับตนก่อนเลือกหัวหน้าพรรคแล้วว่าไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็พร้อมที่จะมาช่วยงานพรรค ดังนั้น ต้องให้เวลาในการพิจารณา

เมื่อถามถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์โพสต์ว่ามีผู้ใหญ่ในพรรคแทรกแซงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรค หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่มองว่าเป็นเรื่องความขัดแย้ง แต่มองว่านายพีระพันธุ์เป็นผู้หนึ่งที่มีความปรารถนาดีพรรค และได้แจ้งให้ตนทราบว่าไม่ประสงค์ที่จะมีตำแหน่ง แต่พร้อมที่จะช่วยงานพรรค หากตนมีอะไรที่จะมอบหมายท่านก็ยินดี

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ในวันที่ 21 พฤษภาคม เวลา 13.00 น. จะมีการประชุม ส.ส. ของพรรคทั้ง 52 คน ครั้งแรกเป็นการประชุมกึ่งปฐมนิเทศ เพราะมี ส.ส. ใหม่ประมาณ 10 คน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจงานในสภา สำหรับ ส.ส. คนอื่นเนื่องจากสถานการณ์การเมืองแตกต่างไปจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทำความเข้าใจสถานภาพของพรรคประชาธิปัตย์ในสภาว่าอยู่ตรงไหน อย่างไร และเราอยู่ในฐานะไหน ตามสถานภาพความเป็นจริง ซึ่งในที่ประชุมจะได้มีการเลือกประธาน ส.ส. เพื่อทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ส.ส. รวมทั้งพิจารณาเรื่องการเลือกประธานสภา ซึ่งที่ประชุมจะต้องมีการพิจารณาในเบื้องต้นว่าเรื่องนี้จะให้พิจารณาในที่ประชุม ส.ส. หรือประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. ส่วนที่พรรคจะเป็นรัฐบาลหรือไม่อยู่ที่การประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. ซึ่งยังไม่มีการนัดประชุม เพราะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม

เมื่อถามว่าแนวโน้มจะประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารและ ส.ส. ในช่วงบ่ายวันที่ 25 พฤษภาคมหรือวันที่ 26 พฤษภาคมได้หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า วันที่ 25 พฤษภาคมสภาได้มีหนังสือเชิญประชุม ส.ส. เพื่อเลือกประธานสภา ดังนั้น การพิจารณาการเลือกประธานสภาและรองประธานสภาพรรคคงจะมีการประชุมก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นเมื่อไรจะแจ้งให้ทราบ ตนไม่มีความลับอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันจะเสนอใครเป็นประธานสภา เพราะมีชื่อนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษาพรรค ออกมา นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่การที่มีชื่อนายบัญญัติออกมา ตนมองว่าท่านมีศักยภาพเป็นประธานสภาได้อยู่แล้ว และมีศักยภาพเกินด้วย ส่วนเรื่องการเสนอผู้ที่จะแข่งขันเป็นประธานสภาในการเลือกประธานสภานั้นต้องมีการคุยกันในที่ประชุมก่อน

“สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ทุกอย่างต้องเป็นมติพรรค ซึ่งพรรคมีกฎเกณฑ์อยู่แล้วก็เป็นไปตามนั้น ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล เราคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของบ้านเมืองอยู่แล้ว ผมไม่คิดว่าใครจะกล้าแหกมติพรรค” นายจุรินทร์กล่าว


You must be logged in to post a comment Login