- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 8 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 8 months ago
- โลกธรรมPosted 8 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 8 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 8 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 8 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 9 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 9 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 9 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 9 months ago
ม.เกริก จัดประชุมวิชาการระดับชาติ และนานาชาติ มุ่งผลักดัน ส่งเสริม แลกเปลี่ยนทางวิชาการและพัฒนาศักยภาพนักวิชาการไทยให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ

มหาวิทยาลัยเกริก จัดการประชุมเกริกวิชาการระดับชาติ และนานาชาติ ครั้งที่ 21 ประจำปี พ.ศ. 2568 หัวข้อ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ภาษา และวัฒนธรรมในยุคดิจิทัลเพื่อความยั่งยืน” มุ่งผลักดันการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการทั้งระดับชาติและนานาชาติ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการและพัฒนาศักยภาพของนักวิชาการไทยให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์ประชุมวิชาการนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกริก กรุงเทพฯ โดย ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมดังกล่าว พร้อมทั้งกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ“การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ภาษา และวัฒนธรรม ในยุคดิจิทัล เพื่อความยั่งยืน” โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมภายในงาน และร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ จากทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศอินเดีย รวมกว่า 1,000 คน

ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดี กล่าวว่า จากการที่มหาวิทยาลัยเกริกได้จัดการประชุมวิชาการเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเวทีในการส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของนักวิจัย คณาจารย์ และนักศึกษา ตลอดจนเป็นเวทีเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสร้างเครือข่ายทางวิชาการ และการบริการวิชาการแก่สังคมนั้น โดยการประชุมเกริกวิชาการระดับชาติ และนานาชาติ ครั้งที่ 21 ประจำปี พ.ศ. 2568 หัวข้อ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ภาษา และวัฒนธรรมในยุคดิจิทัลเพื่อความยั่งยืน” ครั้งนี้นับเป็นคุณูปการด้านการศึกษาที่สามารถบูรณาการสู่การพัฒนาประเทศในหลายมิติได้เป็นอย่างดี
มหาวิทยาลัยเกริกมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการทั้งระดับชาติและนานาชาติ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการและพัฒนาศักยภาพของนักวิชาการไทยให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ โดยหัวข้อการประชุม “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ภาษา และวัฒนธรรมในยุคดิจิทัลเพื่อความยั่งยืน” นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการบูรณาการองค์ความรู้จากหลากหลายสาขาวิชาเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความยั่งยืนในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง ทั้งในมิติของเศรษฐกิจที่ต้องปรับตัวเข้าสู่ระบบดิจิทัล มิติสังคมที่ต้องสร้างโอกาส ความเท่าเทียม และการเข้าถึงเทคโนโลยี รวมถึง มิติด้านภาษาและวัฒนธรรม ที่ควรได้รับการอนุรักษ์และสืบสานอย่างสร้างสรรค์ภายใต้บริบทแห่งความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่
การประชุมวิชาการก็เหมือนการทบทวนประเมินว่าเรามาถึงไหนแล้ว การเรียนการสอนและ ผลการวิจัยซึ่งเป็นทั้งผลงานจากความร่วมมือททั้งของนักศึกษา อาจารย์ และชาวบ้านในชุมชนตลอดจนความร่วมมือกับหน่วยงานหรือสถาบันอื่นๆนั้น เกิดนวัตกรรมใหม่ๆและสร้างประโยชน์อะไรบ้าง
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประชุมวิชาการครั้งนี้ จะเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้และเป็นแรงบันดาลใจให้นักวิจัย คณาจารย์ ตลอดจนผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการ อันจะนำไปสู่การบูรณาการองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศและสังคมโดยรวมได้เป็นอย่างดี

รองศาสตราจารย์ สุพัฒน์ ธีรเวชเจริญชัย รองอธิการบดีฝ่าวิชาการ มหาวิทยาลัยเกริก ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดจัดงาน กล่าวว่า การประชุมเกริกวิชาการระดับชาติและนานาชาติ โดยทาง มหาวิทยาลัยเกริก จัดขึ้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ จัดในหัวข้อ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ภาษา และวัฒนธรรม ในยุคดิจิทัลเพื่อความยั่งยืน” นับเป็นครั้งที่ 21 และนับว่าเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญ ในการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการ โดยมุ่งเน้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และประสบการณ์ทางวิชาการ สนับสนุนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมภายใต้บริบทของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล และเร็วๆนี้ทางมหาวิทยาลัยเกริก ยังมีแนวทางการต่อยอดพัฒนาความร่วมมือกับ กระทรวงสาธารณสุขในเรื่องศาสตร์แพทย์แผนจีนอีกด้วย

การประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติในครั้งนี้ นับเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ทางวิชาการ ตลอดจนได้มีการนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปสู่การปฏิบัติไปและต่อยอดการพัฒนาเป็นการทำวิจัยเพื่อพัฒนา ฉะนั้นทั้งมหาวิทยาลัย ชุมชน และสังคมก็จะได้ประโยชน์จากตรงนี้ด้วยกันทุกฝ่าย ซึ่งจะเป็นผลให้งานวิจัยเกิดการพัฒนามีความยั่งยืน การจัดเวทีวิชาการจึงเป็นเวทีที่ทำให้เห็นถึงกระบวนการความร่วมทางสังคม ในการร่วมแบ่งปันการเรียนรู้ซึ่งมีทุกกลุ่มเข้ามามีส่วนร่วมในการคิดในการร่วมคิด ร่วมวิเคราะห์ ร่วมสรุปและแก้ปัญหา ตลอดจนการร่วมมือต่อยอดพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาชุมชนและภาคส่วนต่างๆ เพื่อการพัฒนาสังคมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงสมดุลและยั่งยืนในระยะยาวต่อไป รองศาสตราจารย์ สุพัฒน์ กล่าว

โดยภายในงานจัดให้มีพื้นที่แสดงนิทรรศการผลงานการวิจัย และ เวทีวิชาการที่มีการบรรยายพิเศษของนักวิชาการ และผลงานวิจัยอื่นๆ ผ่านระบบออนไลน์ หัวข้อ “Sustainable Development Goals in India” โดย Assoc.Prof.Dr.Mallika Kumar จาก Shri Ram College of Commerce (SRCC) และการบรรยายพิเศษ หัวข้อ “Association Between Confucian Culture and Corporate Environmental Governance” โดย Assoc.Prof.Dr.Su Wunhong จาก Hangzhou Dianzi University และการนำเสนอความก้าวหน้างานวิจัยเพื่อท้องถิ่นหรือ CBR โดย ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยเกริกและสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช.อย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี โดย ผศ.ดร.ชเนตตี พิพัฒนางกูร และคณะ ซึ่งได้มีการนำผลิตภัณฑ์งานวิจัยจากชุมชนท้องถิ่นในโครงการวิจัยดังกล่าวมาจัดแสดงพร้อมทั้งจำหน่าย และได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดตาม ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัยและกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจทางเว็บไซต์ ของมหาวิทยาลัยเกริก ได้ที่ www.krirk.ac.th


นอกจากนี้ภาคบ่ายเป็นการนำเสนอผลงานทางวิชาการของคณาจารย์ และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ตลอดจนนักวิจัยจากภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศที่มีความน่าสนใจไม่น้อย การประชุมเกริกวิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งนี้เป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์อันทรงคุณค่าที่จะช่วยบูรณาการสู่การพัฒนาด้านการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม ภาษา และวัฒนธรรม ในยุคดิจิทัล เพื่อความยั่งยืนต่อไป




You must be logged in to post a comment Login