วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568

โลกหลังความตายเป็นความจริง

On November 7, 2025

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  7 พ.ย.  68 )

คำสอนเกี่ยวกับเรื่องโลกหลังความตาย นรกและสวรรค์เป็นคำสอนในศาสนาที่มีมาแต่ดึกดำบรรพ์  หากถามมนุษย์ว่าตายแล้วอยากไปนรกหรือสวรรค์  แทบทุกคนตอบว่าอยากไปสวรรค์  ความต้องการเช่นนี้เองที่ทำให้มนุษย์บางคนถูกชักชวนให้ซื้อสวรรค์ด้วยเงิน  ยิ่งจ่ายมากก็ยิ่งได้สวรรค์ชั้นสูงกว่าคนอื่น

แต่ก่อนจะไปสวรรค์หรือนรก  มนุษย์ต้องผ่านความตายและการจะเข้าสวรรค์หรือลงนรก  มนุษย์ต้องฟื้นคืนชีพก่อน   แต่เพราะการฟื้นคืนชีพหลังความตายเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น มนุษย์จึงไม่เชื่อหรือไม่เข้าใจว่าการฟื้นคืนชีพหลังความตายเป็นไปได้อย่างไร

อย่าว่าแต่ปุถุชนทั่วไปเลย  แม้แต่อับราฮัมศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าช่วยให้รอดชีวิตจากการถูกเผาไฟทั้งเป็นก็ยังไม่เข้าใจ   ด้วยเหตุนี้  อับราฮัมจึงขอพระเจ้าว่า “โอ้ “พระผู้อภิบาลของฉัน โปรดแสดงให้ฉันเห็นว่าพระองค์ทรงทำให้สิ่งที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตได้อย่างไร” พระองค์ทรงถามว่า “เจ้าไม่เชื่อหรือ?” อับราฮัมตอบว่า “ฉันเชื่อ แต่ฉันถามเพื่อให้หัวใจของฉันเกิดความแน่ใจ”

พระเจ้าจึงสั่งอับราฮัมว่า “จงเอานกต่างชนิดสี่ตัวมาเลี้ยงให้เชื่องและสับนกทั้งสี่เป็นชิ้นๆ หลังจากนั้น จงวางชิ้นส่วนของนกแต่ละตัวไว้บนภูเขาแต่ละลูกโดยแยกจากกันแล้วเรียกพวกมัน มันก็จะรีบมายังเจ้า จงรู้ ไว้เถิดว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (กุรอาน 2:260)

เมื่ออิบรอฮีมทำตาม  เขาก็ประจักษ์ถึงอำนาจของพระเจ้าด้วยตาของเขาเอง

ความเชื่อในการฟื้นคืนชีพหลังความตายเป็นความเชื่อที่ผูกกับความเชื่อในพระเจ้าซึ่งทุกศาสดานำมาสอน   คัมภีร์กุรอานยังเล่าอีกว่าหลังสมัยพระเยซู  เด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่งซึ่งเลื่อมใสศรัทธาในพระเยซูได้นำคำสอนของท่านไปเผยแผ่ในอาณาจักรไบแซนตินซึ่งผู้คนยังกราบไหว้บูชาดวงดาวและไม่เชื่อในเรื่องการฟื้นคืนชีพหลังความตาย กษัตรย์แห่งไบแซนตินจึงขู่ฆ่าเด็กหนุ่มกลุ่มนั้นหากพวกเขาไม่เลิกเผยแผ่ความเชื่อในเรื่องนี้เพราะเป็นการสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชน

เด็กหนุ่มกลุ่มนั้นจึงหนีไปแอบอยู่ในถ้ำและหลับไปโดยไม่รู้ตัว  เมื่อตื่นขึ้นมาและได้พบกับผู้คน จึงรู้ว่าพวกตนหลับไปเป็นเวลานานประมาณสองร้อยปี เพราะเหรียญทองคำที่เด็กหนุ่มนำไปซื้อของเป็นเหรียญที่ใช้เมื่อสองร้อยปีที่แล้ว  แต่ในตอนนั้น  กษัตริย์ได้รับศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำอาณาจักรแล้วและศาสนาคริสต์มีความเชื่อว่าโลกหลังความตายมีจริง  หลังจากนั้น เด็กหนุ่มทั้งหมดก็เสียชีวิต

คัมภีร์กุรอานกล่าวว่า “โดยวิธีนี้เองที่เราได้เปิดเผยความลับของพวกเขา(กลุ่มเด็กหนุ่ม)ให้แก่ชาวเมืองเพื่อที่พวกเขาจะได้รู้ว่าสัญญาณของพระเจ้า(การฟื้นคืนชีพ)นั้นเป็นความจริงและจะได้ไม่มีข้อสงสัยในเรื่องยามอวสาน” (กุรอาน 18:21)

เรื่องราวดังกล่าวเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยืนยันความจริงในเรื่องการฟื้นคืนชีพหลังความตายซึ่งเรารับรู้จากคัมภีร์ทางศาสนา  อย่างไรก็ตาม  ปัจจุบัน  มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหลายอย่างที่ทำให้เราต้องยอมจำนนต่อความเชื่อในเรื่องนี้ เช่น

“พระเจ้าคือผู้ส่งลมทั้งหลายให้พัดไปเพื่อที่มันจะหอบเอาก้อนเมฆขึ้นมา แล้วเราได้ให้เมฆลอยไปยังดินแดนที่แห้งแล้ง แล้วเมฆนั้นได้ทำให้แผ่นดินมีชีวิตขึ้นมาหลังจากที่มันได้ตายไป การฟื้นคืนชีพก็เช่นเดียวกันนี้แหละ” (กุรอาน 35:9)

ปัจจุบัน  แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตคนที่กำลังจะตายและทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาอีกแม้วิทยาการด้านการแพทย์จะเจริญก้าวหน้าเพียงใดก็ตาม เพราะแพทย์ไม่ใช่เจ้าของชีวิต  พระเจ้าต่างหากที่จะให้ใครมีชีวิตและตาย

ดังนั้น  จึงไม่มีอะไรยากสำหรับพระเจ้า เพียงแค่พระองค์ประสงค์สิ่งใด  พระองค์แค่เพียงบัญชาว่า “จงบังเกิดขึ้น”  สิ่งนั้นก็จะเกิดขึ้นมา


You must be logged in to post a comment Login