วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568

คัมภีร์กุรอาน ปาฏิหาริย์ที่ยังคงอยู่

On October 17, 2025

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 17 ต.ค.  68 )

ปาฏิหาริย์หมายถึงความอัศจรรย์ที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างหรือควบคุมได้   ไสยศาสตร์จึงไม่ใช่ปาฏิหาริย์เพราะไสยศาสตร์เป็นวิชาลึกลับที่มนุษย์ผู้มีความรู้ในวิชานี้ทำขึ้นมา

ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ก็เพราะพระเจ้าผู้มีอำนาจเหนือธรรมชาติเท่านั้นที่ประสงค์ให้มันเกิดขึ้นตามพระประสงค์ของพระองค์  หรืออาจเกิดขึ้นผ่านนบีบางคนเพื่อเป็นหลักฐานว่านบีคนนั้นมาจากพระเจ้าจริง

ในสมัยอียิปต์โบราณ  ฟาโรห์ตั้งตนเป็นพระเจ้า  นักไสยศาสตร์ผู้มีอิทธิพลทางจิตใจต่อชาวอียิปต์เป็นส่วนหนึ่งที่ค้ำจุนอำนาจของเขา  เมื่อพระเจ้าสั่งโมเสสให้ไปบอกฟาโรห์ว่าเขาไม่ใช่พระเจ้า  แต่เขาต้องสักการะพระเจ้าเหมือนกับคนทั่วไปและโมเสสได้แสดงหลักฐานด้วยปาฏิหาริย์จากพระเจ้า นั่นคือไม้เท้าของเขาที่โยนลงไปบนพื้นแล้วกลายเป็นงูใหญ่ต่อหน้าฟาโรห์

แทนที่จะยอมจำนนต่อหลักฐานที่โมเสสนำมาแลดง  ฟาโรห์กลับคิดว่าสิ่งที่โมเสสทำคือไสยศาสตร์ที่นักไสยศาสตร์ชาวอียิปต์เวลานั้นสามารถทำได้  เขาจึงเรียกนักไสยศาสตร์มาเพื่อทำสิ่งที่เหมือนโมเสสทำ

เมื่อนักไสยศาสตร์โยนเชือกหรือกิ่งไม้ลงไปบนพื้น  มันได้กลายเป็นงูเล็กๆในสายตาของผู้คน  แต่เมื่อโมเสสโยนไม้เท้าของเขาลงไปตามคำบัญชาของพระเจ้า  ไม้เท้าของเขาได้กลายเป็นงูใหญ่ทำลายงูเล็กทั้งหมด   นักไสยศาสตร์จึงยืนยันว่าสิ่งที่ฟาโรห์แสดงนั้นมิใช่ไสยศาสตร์ แต่เป็นปาฏิหาริย์ของพระเจ้าและพวกเขาได้หันมายอมรับพระเจ้าของโมเสส  แม้กระนั้นฟาโรห์ก็ยังไม่เชื่อ

หลังจากนั้น  พระเจ้าได้แสดงอำนาจของพระองค์ให้ฟาโรห์เห็นในรูปของภัยพิบัติธรรมชาติที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน เช่น น้ำในแม่น้ำไนล์กลายเป็นสีเลือด  การแพร่ระบาดของกบและตั๊กแตนที่สร้างความเสียหายให้แก่พืชผลของชาวอียิปต์  ถึงกระนั้น ฟาโรห์ก็ยังไม่เชื่ออีกว่านั่นคือปาฏิหาริย์ที่มาจากพระเจ้า

การเกิดของเยซัสหรือพระเยซูจากนางมารีย์หญิงบริสุทธิ์ก็เป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งที่พระเจ้าประสงค์ให้เกิดขึ้นท่ามกลางชุมชนอิสราเอลที่ผิดสัญญากับพระเจ้าและโอหังจนถึงกับฆ่านบีบางคนของพระเจ้า   พระเจ้าประสงค์ให้เยซัสถือกำเนิดโดยไม่มีพ่อเพื่อแสดงให้พวกลูกหลานอิสราเอลเห็นถึงอำนาจเหนือกฎธรรมชาติของพระองค์  แต่พวกลูกหลานอิสราเอลก็ยังไม่เชื่อ

ดังนั้น  พระเจ้าจึงได้ประทานปาฏิหาริย์ให้เยซัสทำสิ่งที่ผู้คนในยุคโรมันไม่สามารถทำได้แม้จะมีความเจริญก้าวหน้าก็ตาม เช่น เยซัสสามารถรักษาคนตาบอดและคนเป็นโรคเรื้อน สามารถทำให้คนตายฟื้นขึ้นมา  สามารถปั้นดินให้เป็นนกที่มีชีวิต  ปาฏิหาริย์เหล่านี้มิได้เกิดขึ้นตามความประสงค์ของเยซัสเอง แต่เกิดขึ้นตามพระประสงค์ของพระเจ้า  ถึงกระนั้น  พวกผู้นำชุมชนชาวอิสราเอลก็ไม่ศรัทธาในพระเจ้าและยังวางแผนกำจัดเยซัสด้วยซ้ำ

นบีมุฮัมมัดเกิดในแผ่นดินอาหรับที่ชาวอาหรับทะนงในภาษาของตัวเองจนถึงกับถือว่าใครที่พูดอาหรับไม่ได้ก็เหมือนเป็นคนไม่มีลิ้น  ดังนั้น ใครที่เป็นกวีและสามารถแต่งกลอนได้ไพเราะจะได้รับการเคารพยกย่อง  นอกจากนี้แล้ว พวกพ่อมดหมอผียังมีเวทมนต์คาถาภาษาอาหรับที่สะกดผู้คนอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้  พระเจ้าจึงประทานกุรอานลงมาแก่นบีมุฮัมมัด  เมื่อกวีชาวอาหรับและพวกพ่อมดหมอผีได้ยินภาษาของกุรอาน  ทุกคนต่างยอมรับว่าสิ่งที่นบีมุฮัมมัดอ่านเป็นภาษาที่สูงล้ำเกินกว่าบทกวีและไม่ใช่เวทมนตร์ไสยศาสตร์  กุรอานจึงเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งเพราะทุกคนรู้ดีว่านบีมุฮัมมัดไม่รู้หนังสือ  ไม่เพียงเท่านั้น  พระเจ้ายังท้ามนุษย์ทั้งหมดให้แต่งข้อความขึ้นมาสักบทหนึ่งที่เหมือนกับคัมภีร์กุรอาน แต่จนทุกวันนี้ยังไม่มีมนุษย์คนใดทำตามคำท้าของพระเจ้าได้

ไม่เพียงความอัศจรรย์ทางวรรณกรรมเท่านั้น  คัมภีร์กุรอานยังมีความรู้ที่เป็นแรงบันดาลใจคนอาหรับที่เคยถูกชาวโรมันและชาวเปอร์เซียดูถูกว่าเป็นคนป่าเถื่อนให้กลายเป็นผู้เริ่มต้นอารยธรรมของโลกเป็นระยะยาวนานนับพันปีด้วย

ความจริงแล้ว  นบีมุฮัมมัดได้รับปาฏิหาริย์จากพระเจ้ามากกว่านบีคนอื่นๆ  แต่เพราะปาฏิหาริย์ต่างๆเกิดขึ้นแล้วหมดไป   เหลือแต่คัมภีร์กุรอานอย่างเดียวที่เป็นปาฏิหาริย์และความมหัศจรรย์จากพระเจ้าที่ยังคงอยู่ตลอดไปจนถึงวันสิ้นโลก


You must be logged in to post a comment Login