วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568

แม่..หลักฐานแห่งความเมตตาของพระเจ้า

On August 15, 2025

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 15 ส.ค. 68)

“ผู้ทรงเมตตา” เป็นพระนามหนึ่งของพระเจ้าที่พระองค์ใช้แนะนำพระองค์เอง  ความเมตตาเป็นนามธรรมที่ไม่สามารถวาดหรือปั้นออกมาเป็นรูปได้  แต่ถ้าใช้ตาเนื้อมอง ใช้สมองคิด หัวใจจะยอมรับได้ทันทีถึงความเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่มีอยู่มากมายสุดคณานับ

หนึ่งในนั้นคือ แม่

นบีมุฮัมมัดกล่าวไว้ว่าพระเจ้าได้ประทานความเมตตาแก่สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้เพียงหนึ่งในร้อยของความเมตตาที่พระองค์มีอยู่  แค่เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้แม่ของสัตว์ไม่เหยียบลูกน้อยของมัน

ส่วนความเมตตาอีก 99 ส่วน พระองค์จัดเตรียมไว้ในโลกหน้าสำหรับบ่าวผู้ศรัทธาในพระองค์และกระทำความดี

ความเมตตาของพระเจ้าที่ประทานแก่สัตว์คือสัญชาติญาณที่ทำให้แม่สัตว์รักและหวงแหนลูกของมันถึงขั้นยอมเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกเพื่อรักษาชีวิตลูกน้อยของมัน

สำหรับมนุษย์  ความรักของแม่ที่มีต่อลูกเป็นความเมตตาที่พระองค์ประทานแก่มนุษย์อย่างต่อเนื่องรุ่นแล้วรุ่นเล่า  ความรักของแม่ที่มีต่อลูกเริ่มตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์จนกระทั่งคลอดและเติบโตเป็นผู้ใหญ่  หากยังมีชีวิต  ความรักของแม่ที่มาจากความเมตตาของพระเจ้าก็ไม่ลดน้อยลงเพราะมันเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข

เมื่อลูกอยู่ในวัยกำลังคลานหรือเดินเตาะแตะ  หากแม่เห็นลูกน้อยของตัวเองคลานหรือเดินไปที่กองไฟหรือไปยังระเบียงที่ไม่มีรั้วกั้น  แม่จะรีบไปดึงลูกน้อยของตัวเองออกมาทันที เพราะเด็กน้อยไม่ประสีประสา  นั่นคือสัญชาตญาณแห่งความรักของแม่ที่มาจากความเมตตาของพระเจ้า

เมื่อลูกโตขึ้นและรู้ว่าไฟเป็นอันตราย  ลูกก็จะไม่เข้าใกล้  แม่ก็ไม่ต้องเตือน

แต่ไฟไม่ใช่สิ่งเดียวที่เป็นอันตรายต่อชีวิต โลกที่เราอาศัยอยู่ยังมีอบายมุขที่นำชีวิตไปสู่ความหายนะในโลกนี้และสูไฟนรกในโลกหน้า  ถ้าแม่มีชีวิตอยู่ แม่ก็จะเตือนลูกด้วยความรัก  แต่วันหนึ่ง  แม่ต้องจากไป ไม่มีใครคอยควบคุมหรือตักเตือนอีกแล้ว  ใครเล่าจะคอยควบคุมและตักเตือนลูกที่แม่รัก

แม่จากไป  แต่พระเจ้ายังอยู่ ดังนั้น ด้วยความเมตตาอันไม่สิ้นสุดของพระเจ้า พระองค์จึงวางมาตรการควบคุมและปกป้องมนุษย์มิให้เพลี่ยงพล้ำถลำตัวเข้าไปสู่ไฟนรกด้วยการกำหนดให้มุสลิมละหมาดวันละห้าเวลา เพราะวัตถุประสงค์ของการละหมาดถูกกล่าวไว้ชัดเจนในคัมภีร์กุรอานว่า “แท้จริง การละหมาดจะยับยั้งการผิดศีลธรรมและการทำความชั่ว” (กุรอาน 29:45)  ดังนั้น คนที่ละหมาดโดยรู้วัตถุประสงค์จึงมักไม่กล้าทำความชั่ว เพราะตัวเองรู้ว่าพระเจ้าเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา

นี่คือเหตุผลที่นบีมุฮัมมัดผู้ถูกส่งมาเป็นความเมตตาสำหรับโลกทั้งผองได้กำหนดให้ผู้ปกครองมุสลิมต้องส่งลูกของตัวเองไปเรียนรู้ศาสนาตั้งแต่อายุ 7 ขวบเพื่อจะได้รู้คำสอนของศาสนาและสามารถปฏิบัติละหมาดได้  ทั้งนี้เพื่อให้เด็กมีภูมิคุ้มกันทางด้านศีลธรรมและจิตวิญญาณตั้งแต่เยาว์วัย

การละหมาดจึงเป็นหนึ่งในความเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์อย่างต่อเนื่อง


You must be logged in to post a comment Login