วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

ลูกหลานอิสราเอลหลังโมเสส

On June 11, 2021

คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 11-18 มิ.ย. 64)

หลังจากโมเสสได้ทิ้งพวกลูกหลานอิสราเอลไปแล้ว  คัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอานเล่าตรงกันว่า พวกลูกหลานอิสราเอลยังคงเร่ร่อนอยู่ในทะเลทรายไม่มีถิ่นฐานที่อยู่เป็นของตัวเองโดยมีผู้นำที่ชื่อว่าชามูเอล

ในช่วงเวลานี้ พวกลูกหลานอิสราเอลยังจำบัญญัติสิบประการที่โมเสสนำมาเป็นกฎหมายในการดำเนินชีวิตและคำสอนอื่นๆจากโมเสสได้ แต่เมื่อนานวันเข้า ความเคร่งครัดในการปฏิบัติได้ค่อยๆจางหายไป แต่ที่สำคัญคือ  บรรดาผู้อาวุโสที่พวกลูกลานอิสราเอลให้ความเคารพได้สร้างคำสอนใหม่และเรื่องราวต่างๆเพิ่มเติมเข้าไปอีกมากมายจนในที่สุดก็มีคัมภีร์ตัลมูดเกิดขึ้น

ในระหว่างเร่ร่อนอยู่ในทะเลทรายอย่างสิ้นหวัง  พวกลูกหลานอิสราเอลถูกชนเผ่าต่างๆรุกรานและโจมตีจนหาความปลอดภัยไม่ได้ และที่สำคัญคือ ในระหว่างที่ถูกโจมตี หีบแห่งพันธสัญญาที่พวกลูกหลานอิสราเอลถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และยึดเป็นสรณะทางจิตใจได้ถูกพวกชนเผ่าฟิลัสตีนยึดไป  พวกลูกหลานอิสราเอลจึงรู้สึกเสียขวัญ  แต่ขณะเดียวกัน พวกฟิลัสตินก็มีแต่ปัญหาวุ่นวายไม่จบเมื่อหีบใบนี้อยู่กับพวกตน ในที่สุด พวกฟิลัสตินจึงตัดสินใจนำหีบใบนี้ใส่เกวียนให้วัวสองตัวลากออกไปให้พ้นจากพวกตน

เมื่อชามูเอลถึงวัยชรา  บรรดาผู้อาวุโสได้ขอให้เขาแต่งตั้งผู้นำของพวกตนเหมือนกับที่กลุ่มชนชาติอื่นๆมีกษัตริย์ปกครอง ชามูเอลจึงบอกว่าพระเจ้าได้แต่ตั้งให้ซาอูล(คัมภีร์กุรอานเรียกว่า “ฏอลูต”)เป็นผู้นำแล้ว  แต่พวกผู้มีอิทธิพลบอกว่าซาอูลไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำเพราะซาอูลไม่รวยพอ ชามูเอลจึงบอกว่าพระเจ้าเลือกเขาเป็นผู้นำเพราะเขามีร่างกายแข็งแรงและมีสติปัญญา และสัญญาณที่จะแสดงว่าเขาเป็นกษัตริย์ที่พระเจ้าทรงเลือกก็คือระหว่างที่เขาเป็นผู้นำ หีบแห่งพันธสัญญาจะกลับคืนมายังพวกเขา  หลังจากนั้นไม่นาน  สิ่งที่ชามูเอลบอกไว้ก็เป็นจริงเมื่อหีบแห่งพันธสัญญาถูกวัวลากมายังพวกลูกหลานอิสราเอล

แม้จะได้รับหีบแห่งพันธสัญญากลับคืนมาเป็นขวัญกำลังใจในการต่อสู้ แต่พอถึงเวลาจริง คนพวกนี้กลับใจฝ่อ  เมื่อพวกฟิลัสตินยกกองทัพมารุกราน  ซาอูลได้นำพวกลูกหลานอิสราเอลออกไปป้องกัน  ระหว่างทางที่ต้องข้ามแม่น้ำตื้นๆสายหนึ่ง ซาอูลต้องการทดสอบคนที่จะร่วมรบกับเขาโดยห้ามทุกคนกินน้ำจากแม่น้ำ แต่ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ จะวักน้ำสักอุ้งมือหนึ่งขึ้นมาดื่มแก้คอแห้งก็ไม่เป็นไร  ปรากฏว่ามีไม่กี่คนเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบ ฏอลูตจึงพอประเมินกำลังใจของคนที่จะร่วมรบกับเขาได้

ยิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับกองทัพของชาวฟิลัสตินที่นำโดยนักรบร่างยักษ์ชื่อโกไลแอธ(คัมภีร์กุรอานเรียกว่าญาลูต)  พวกลูกหลานอิสราเอลส่วนใหญ่ก็ใจฝ่อรอหนีกันท่าเดียว

เวลานั้น ในหมู่ลูกหลานอิสราเอลมีเด็กหนุ่มชื่อดาวิด(หรือดาวูด)ร่วมทางมาด้วย เมื่อโกไลแอธร้องท้าซาอูลให้ส่งแม่ทัพที่มีฝีมือออกมาต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว พวกลูกหลานอิสราเอลต่างนิ่งเงียบด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นเช่นนั้น เด็กหนุ่มดาวิดจึงรับอาสาออกไปต่อสู้กับโกไลแอธ แม้ไม่มีใครเห็นด้วย แต่เขาขันอาสาออกไปและสามารถฆ่าโกไลแอธลงได้และทำให้ไพร่พลชาวฟิลัสตินล่าถอยกลับไป

ชัยชนะครั้งนั้นทำให้ไม่มีชนเผ่าใดกล้ามารุกรานหรือรังควาญพวกลูกหลานอิสราเอลอีกเลย พวกลูกหลานอิสราเอลจึงอยู่กันอย่างสงบ ซาอูลได้ยกลูกสาวของเขาให้แต่งงานกับดาวิด และเมื่อซาอูลจบชีวิตไปเพราะความชรา  ดาวิดก็ได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทนเขาและสร้างอาณาจักรอิสราเอลขึ้นมา

อาณาจักรอิสราเอลภายใต้การปกครองของกษัตริย์ดาวิดมีความเข้มแข็งมากจนไม่มีชนชาติใดกล้ามารุกราน  แต่เนื่องจากอาณาจักรต้องการกฎหมายปกครองและกฎหมายโตราห์ที่โมเสสนำมาได้ถูกพวกผู้อาวุโสตัดเสริมเติมแต่งจนคำสอนผิดเพี้ยนไป  ด้วยเหตุนี้ พระเจ้าจึงได้ส่งคัมภีร์ที่เป็นกฎหมายมาให้ดาวิดใช้ปกครองพวกลูกหลานอิสราเอล

คัมภีร์ที่พระเจ้าประทานแก่ดาวิดนี้ในคัมภีร์กุรอานเรียกว่า “ษะบูรฺ” และบางส่วนมีปรากฏในคัมภีร์ไบเบิลฉบับที่เรียกว่า “บทเพลงสดุดี” (Psalms)

ดังนั้น คัมภีร์กุรอานจึงได้กล่าวว่า นอกจากจะเป็นกษัตริย์แล้ว ดาวิดยังเป็นนบีที่ปกครองอาณาจักรด้วยกฎหมายเดิมของโมเสสที่อยู่บนรากฐานของการศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวอีกด้วย


You must be logged in to post a comment Login