วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

วิกฤตสงกรานต์

On April 13, 2021

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  13 เม.ย. 64)

และแล้วเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ก็เริ่มต้นกันที่ว่า การเดินทางไปต่างจังหวัดปรากฏว่า โหรงเหรง คืนบัตรรถทัวร์ รถไฟกันจำนวนมาก เพราะเกิดความระส่ำระสายว่า ไปแล้วจะถูกกักตัวหรือไม่ เลยทำให้ลังเล และตัดสินใจไม่ไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้มองดูว่า ปีนี้สงกรานต์คงกร่อย แต่ที่น่าอเนจอนาถใจเห็นจะเป็นที่จ.เชียงใหม่ที่คิดว่า ยังไงคงได้น้ำขึ้นรีบตัก สงกรานต์น่าจะตักตวงรายได้จากคนมาท่องเที่ยวเชียงใหม่ 

แต่แล้วนั่นแหละที่ว่า รอรวยกับรอเจ๊ง รอเที่ยวนี้ไม่รวยแน่ ถึงไม่เจ๊งก็ไม่ได้อะไรเพิ่ม มีแต่เสมอตัวกับขาดทุน เพราะเมื่อไม่มีคนมาเที่ยว ข้าวของที่เตรียมไว้ขายก็ขายไม่ได้ แล้วยิ่งมาตอนนี้การท่องเที่ยวของไทยอาการหนักที่สุดน่าจะในรอบ 10 ปี คิดว่า 10 ปีไม่มีปีไหนสงกรานต์ปีไหนจะทำให้เชียงใหม่สะทกสะท้าน เรียกว่า หมดความหวังที่จะรอเงินได้เลี้ยงชีวิตครอบครัวช่วงสงกรานต์ เพราะทุกปีสงกรานต์จะต้องเป็นที่ตักตวงของคนเชียงใหม่พ่อค้า แม่ขาย  

เรียกว่า รายได้จะดีก็สงกรานต์นี่แหละ จะเป็นหอพัก ที่พักก็ได้เก็บ ได้กิน ได้ใช้ แต่คราวนี้สงกรานต์กลายเป็นน่าสงสารไป ไม่สมหวัง สมปรารถนาจากผู้ที่รอที่จะค้า จะขาย ให้คนมาจากต่างจังหวัด จากกรุงเทพฯ ปีนี้น่าจะเข้าล็อคแบบเดิมอีก คือ ที่วัดสวนแก้วคงจะสรงน้ำผ่านรางน้ำไม้ไผ่ ไม่กล้าให้คนเข้ามาใกล้ และก็จะไม่สรงน้ำพระทั้งหมด ทั้งวัด จะให้สรงแค่องค์สององค์ เพราะญาติโยมจะได้มีเวลาอยู่ใกล้ชิดพระระยะสั้น ไม่กินเวลานาน ไม่ต้องคอยกันนาน 

อันนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่เราต้องนิวนอร์มอล สงกรานต์แบบใหม่ ต้องทำอะไรต่อมิอะไรชนิดที่ปลอดภัยกันไว้ก่อน จะมาเอาสนุกสนาน สาดน้ำ ปีนี้ไม่มีเหมือนเดิม เรียกว่า ไม่มีคำว่า รื่นเริงบันเทิงใจ สนุกสนานกัน ก็น่าจะมีอุบัติเหตุในวันสงกรานต์น้อยลง และที่น่าจะน้อยก็คือ คนจะไม่ค่อยมีสตางค์จับจ่ายใช้สอยได้เหมือนปีก่อนๆ ช่วงนี้ต้องเรียกกันว่า วิกฤตสงกรานต์ จากเจ้าโควิดมาทำเอาทุกอย่างฝันสลายกันไปหลายจุด 

ที่แน่นอนก็คือ อย่างที่พูดกันนั่นแหละ ผู้ที่ทำเหตุ คนรวยทำเหตุ คนทำเหตุ คือ คนรวย และคนซวย คือ คนจน อันนี้เป็นคำพูดที่กำลังฮิตและก็เห็นภาพพจน์ คนรวยที่เข้าไปเที่ยวทองหล่ออะไรกันมา ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่เรียกกันว่า มีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถึงกับบอกว่า รัฐมนตรีที่ไปติดโควิดมาจากสถานเริงรมย์อะไรต่างๆนั้น ถ้าเป็นชาติอื่น เมืองอื่นเขามีสปิริตลาออกกันไปแล้ว แต่ของไทยเราไม่ เพราะเราใส่หน้ากากอย่างหนา คงจะเป็นลักษณะสีทนได้ ไม่สะทกสะท้านอะไร 

แต่เอาล่ะ ความเชื่อมั่นในรัฐบาลก็จะน่าตกใจ ขนาดคนในคณะรัฐมนตรีคอยเตือน คอยพูด คอยบอกประชาชนอย่าการ์ดตก แต่แล้วคนในคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลการ์ดตกเสียเอง และพวกผู้หลัก ผู้ใหญ่ เจ้าสัว นายทุน ผู้รับเหมาอะไรต่างๆก็พลอยได้รับหางเลขกันไป เพราะฉะนั้น สงกรานต์ปีนี้ขอให้เอาเนื้อๆกันแล้วกันว่า มันเป็นปีใหม่ของไทย ก็หวังว่า จะรับศีล รับพรจากผู้หลัก ผู้ใหญ่ พระเจ้า พระสงฆ์ก็คงทำได้ในระดับย่อๆ 

เรียกว่า ไม่ทำได้เต็มรูปแบบเหมือนก่อน แต่ว่าเนื้อหาสาระของสงกรานต์มีคนเอาไปล้อเล่นเป็นรูปนางสงกรานต์ใส่แมส มีเจล มีอะไรต่อมิอะไรที่มันผิดจากนางสงกรานต์เดิม เป็นเรื่องของการ์ตูน เขาก็คิดภาพอะไรต่างๆขึ้นมา แต่ว่า ยังไงก็ตามหัวใจสงกรานต์ต้องอยู่ที่เขาบอกว่า อย่าให้หัวพระพรหมตกสู่พื้น คือ มีการทายปัญหากัน ถ้าหัวพระพรหมตกถึงพื้น ไฟบรรลัยกัลป์จะไหม้โลกก็เลยต้องมีอะไรมารับก็เลยไฟยังไม่ไหม้ แต่ว่า คำว่า พระพรหมหรือพรหมวิหาร ถ้าตกจากหัวใจคนเมื่อไร ความอำมหิต โหดร้าย เหี้ยมโหดมันก็จะตามมา 

ดังนั้น ช่วงสงกรานต์นี่มันก็ไม่ใช่มีแต่วันสงกรานต์ เราต้องมีวันข้างเคียงที่เสริมเข้ามา ซึ่งเมื่อไม่นานนี้ เช่น วันผู้สูงอายุ วันครอบครัว นี่ครอบครัวจะเป็นครอบครัวลำเลิศ ครอบครัวประเสริฐสุด ครอบครัวสมบูรณ์แบบ ก็ต้องหาหลักธรรมให้ดี อย่าเป็นครอบครัวล้มเหลว ครอบครัวล้มละลาย และผู้สูงอายุก็อย่าสูงแต่อายุ สติปัญญา คุณธรรมไม่สูง อายุสูงแต่ใจต่ำ ยังหมกมุ่น ดูเถิด ทะเลาะ กินเหล้า ฆ่ากัน เป็นผู้สูงอายุ แต่วุฒิภาวะในการดำรงชีวิตต่ำต้อย เหมือนเด็กด้อยปัญญา ทะเลาะกันเหมือนเด็กๆ แล้วก็มีเรื่อง มีราว เรื่องเนื้อหนัง เรื่องเพศ เรื่องหึงห่วง ชนิดที่ไม่สมวัย ก็ขอให้ผู้สูงอายุทบทวนความเป็นสูงอายุให้ใจสุง คุณธรรมสูงด้วย 

เจริญพร 


You must be logged in to post a comment Login