วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

ไทยไม่แซงพม่า

On March 3, 2021

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 3 มี.ค. 64)

ใครจะแซงใครระหว่างไทยกับพม่า ตอนนี้ทราบข่าวว่า ม็อบพม่าตายเป็นสิบแล้ว แต่ของเราชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียไปไม่ได้เกี่ยวกับการปะทะอะไร แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับโรคหัวใจเสียชีวิตไป แต่ม็อบยังไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย มีแต่ว่า บาดเจ็บไปบ้าง แต่ว่า เราคงไม่นองเลือดเหมือนอย่างที่ประเทศพม่า เพราะเรามีประสบการณ์ เรามีการระบายความคับแค้นข้องใจ มีสิ่งที่เรียกกันว่า บรรเทา เบาบาง ไม่ให้ความรุนแรงมันเกิดขึ้น 

สิ่งที่คาดกันว่า ม็อบจะประท้วงอย่างสงบ ถ้าทำแบบสงบ ไม่มีใครไปห้าม ไปปราม แต่ถ้าเกิดมีการบาดเจ็บล้มตายก็ต้องจัดการ โดยนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเสียใจกรณี ร.ต.อ.วิวัฒน์ สินเสริฐ สังกัด สน.ธรรมศาลา ซึ่งไปปฎิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนในเหตุการณ์การชุมนุม เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 เกิดอาการหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิต  

ซึ่งนายกรัฐมนตรี กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ดูแลสวัสดิการตามระเบียบทางราชการอย่างเต็มที่ และให้กำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่สำคัญจะต้องใส่ใจเรื่องสภาพความพร้อมของร่างกายและจิตใจก่อนปฏิบัติหน้าที่ด้วย ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่หรือผู้ชุมนุมก็ตาม โดยขอให้ผู้ที่จะชุมนุมตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มาก ทุกคนมีสิทธิชุมนุมได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น หรือใช้ความรุนแรง หรือยั่วยุให้เกิดความแตกแยกในสังคม  

ขณะที่ฝ่ายค้านโดยพรรคเพื่อไทยออกมาประณามรัฐที่ใช้กำลังปราบ ม็อบ 28 ก.พ.โดย น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย บอกว่า ไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ทบทวนท่าที และพิจารณาใช้มาตรการจัดการกับการเคลื่อนไหวของประชาชนตามมาตรฐานสากล เคารพและคุ้มครองเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ แทนการใช้มาตรการที่มุ่งเน้นจำกัดหรือสกัดกั้นการชุมนุมของประชาชน  

เพราะที่ผ่านมามีบทเรียนแล้วว่ามาตรการที่ใช้ความรุนแรงอย่างเคยชินนำไปสู่ความล้มเหลวของรัฐบาล จนเกิดสภาวะตึงเครียดระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน และเป็นบ่อเกิดของสถานการณ์ที่ขยายตัวรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีสิทธิทำร้ายประชาชนเกินกว่าเหตุ ราวกับอาชญากรร้ายแรง พร้อมกันนี้ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว ร.ต.อ.วิวัฒน์ ซึ่งเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวขณะปฏิบัติหน้าที่ในคืนวันที่ 28 ก.พ. และขอให้มีการเยียวยาดูแลประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับบาดเจ็บโดยเร็วที่สุด 

อย่างไรก็ตามอาตมามองว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับการเสียชีวิตของร.ต.อ.วิวัฒน์ ครั้งนี้ ไม่ได้เสียชีวิต เพราะถูกม็อบทำร้ายจนเสียชีวิต แต่เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว ดังนั้น อาตมาคิดว่า สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยในเวลานี้ คงจะไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรงจนแซงพม่า และประเทศไทยคงจะห่างไกลจากการล้มตายอย่างพม่าแน่นอน 

เจริญพร 


You must be logged in to post a comment Login