วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

กฎหมายไม่เชื่อมศีลธรรม

On June 16, 2020

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 16 มิ.ย. 63)

พูดถึงการทำงานของตำรวจกับยาเสพติด เกี่ยวกับโรง กับศาล ดูเหมือนจะไปกันไม่ค่อยได้ ตำรวจจับเหนื่อยแทบตาย ศาลก็ปล่อยให้ประกันตัวอะไรไป รวมทั้งเรือนจำก็ให้อีก กลายเป็นเรื่องพายเรือในอ่าง วนไป วนมา จับไปแล้วก็ได้ประกัน กฎหมายรู้สึกจะดีกับชั่วเรื่องยาเสพติด คนขายมากเกินไป ทำให้นึกถึงภาพเก่าๆ ใหม่ๆ ซึ่งบางแห่ง บางที่ไปเจอผู้ใหญ่บ้านใจถึง ใจเด็ด ลุยกับพวกค้ายาเสพติด เรียกว่า กระเจิงกันไปเลย ถ้าอยู่ในเขตของการปกครองของผู้ใหญ่คนนี้ มีหลายแห่ง หลายที่คงไม่ต้องเอ่ยอ้างชื่อนั้น ชื่อนี้ แต่ว่า มีคลิปให้ดูว่า ลุยเอาจริงๆ

ยิ่งไปเห็นคลิปหนึ่งที่ว่า ลูกเมายาแล้วตบตีแม่ ฟันแม่ อบต.ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ถ้ามีอย่างรายที่เป็นคลิปตบดังให้รู้สึกกันซะเลย เรียกว่า เอาไว้ไม่ได้ ลูกทรพี ลูกติดยาแล้วทำร้ายพ่อแม่ มันเป็นเรื่องที่น่าคิดมั้ยว่า ยาเสพติดมันจะเอาไปมองว่า เอาแค่ไปบำบัดแล้วมันจะช่วยได้เท่าไร บำบัดได้สักกี่ราย บำบัดไม่ได้ติดหนักกว่าเดิมอีก เสียเวลาบำบัด มานึกข่าวมีออกมาว่า ประเทศลาวค้าขายนี่ บางทีเขาเอาไปขังไว้ในเกาะ ปล่อยเกาะเลย ก็ต้องถือว่า น่าคิด เอาไว้จริงจังสักอย่าง มันก็น่าจะมีโอกาสเปลี่ยนแปลง

นายกฯคนปัจจุบันก็เรียกว่า ปรามม็อบได้ดี ไม่มีม็อบใดจะมาทำอะไรให้เกิดวุ่นวาย กลายเป็นบ้านเมืองสงบก็ดีไปอย่าง บางคนก็พูดถึงนายกฯยุคนั้น คนนั้น สมัยจอมพลสฤษ ก็มีคนพูดถึงคำว่า ข้าพเจ้ารับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ถ้าใครวางเพลิง ใครค้ายาเสพติด ก็มีอันทำให้เป็นไปต่างๆนาๆ ถึงขั้นเรียกว่า อยู่ในแผ่นดินนี้ไม่ได้ ต้องเรียกว่า ไปกันข้างหนึ่ง บางคนก็มาพูดรำพึง รำพันถึงยุคทักษิณว่า เด็ดขาด แต่ก็ตายกันไปเยอะ

อาตมารู้สึกอยู่เหมือนกันว่า ตอนทักษิณเป็นนายกฯปราบยาเสพติด รายไหนถ้าขายหมื่นเม็ดถือเป็นข่าวใหญ่แล้ว แต่เดี๋ยวนี้เป็นล้านเม็ดไม่ได้อะไรใหญ่โต ตอนนั้นจับได้หมื่นเม็ดยุคทักษิณต้องบอกว่า เรื่องใหญ่แล้ว เอากันไว้ไม่ได้ อยู่ไม่ได้ ต้องมีอันเป็นไปข้างใด ข้างหนึ่ง ก็มีการผัดผ่อน ตายกันไปกว่า 2,000 ศพ ถามว่า ที่ตายไปนั้นโดนตัวจริงหรือโดนผิดตัวไปสักกี่เปอร์เซ็นต์ มันคงพูดกันยาก แต่จำได้ว่า สมัยนั้น 80-90 เปอร์เซ็นต์เป็นตัวจริง อาจจะมีรอดไป 5-10 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็มีสำนวนว่า ปล่อยคนชั่ว 10 คนดีกว่าเอาคนบริสุทธิ์ไปติดคุก 1 คน

เรียกว่า กฎหมายก็ดีกับคนชั่วเกินไปแบบนี้ มันกลายเป็นเรื่องไม่ได้ผล ปราบไม่จบ ปราบไม่หมด ไม่มีคำว่า สิ้นซาก มีแต่จะเพิ่มพูน ทวีคูณไปเรื่อยๆ และเมื่อไม่กี่วันนี้ อาตมารู้สึกสะเทือนใจมากเกี่ยวกับเรื่องมีคนตกงานมาแล้วมาตั้งตัวเป็นคนขายยา ค้ายาเสพติด น่าอนาถใจ มาหลอกให้เด็กๆที่วัดสวนแก้ว ซึ่งเป็นเด็กดี เด็กทำงาน ซื่อสัตย์ ขยัน หลอกไป หลอกมาเอาไป 1,000 กว่าบาท ให้เสพยาไอซ์ไป 4 ครั้ง ครั้งละ 200-300 บาท และแก็งค์พวกนี้มันก็เก่งซะด้วย มาอยู่ที่วัดจะมองดูและเพ็งดูว่า ใครเป็นคนมีสตางค์ มีรายได้ เผอิญเด็กคนนี้ว่างแล้วไปรับจ้างตัดผม อยู่ก็ช่วยงาน ขายของ เก็บโน้น เก็บนี่ เป็นเด็กดีมากๆ ปรากฏว่า ก็ถูกเจ้าคนนี้ ตัวร้ายนี้ เขาชื่อว่า นายฟาง เอายามาให้เด็กติดไป 4-5 คน แต่คนนี้บอกยังไม่ทันติด กำลังจะเลิก เพราะรู้ตัวว่า หลงผิดแล้ว ไอ้นี่โดนนายนี่หลอกแล้ว เลยจะไม่ซื้อ ไม่กินต่อ

ไอ้นี่ก็ตามมาประกบแล้วข่มขู่ว่า เลิกไม่ได้ ในที่สุดเลยไม่รู้ ตำรวจก็จับไป โดยไปค้นเจอโน้น เจอนี่ แต่มันไม่น่าเชื่อ เราก็นึกว่า มันคงจะเข็ญแล้วล่ะ มันคงติดคุกแน่ๆ แต่ที่ไหนได้ 2-3 มันมาถีบจักรยานเย้ยเข้ามาในวัดอีก เด็กๆในนี้บอกมันอยู่บางขวางแล้ว ที่ไหนได้มันถีบจักรยานตาขวางมาใส่พวกเด็กๆหน้ามูลนิธิอีก ทางตำรวจบอกว่า ทางศาลคงให้ประกัน เราถามว่าประกันมากมั้ยเนี่ย ถ้าประกันเป็นหมื่น เป็นแสน สมมุติ 30,000-40,000 บาท ไอ้นี่ก็ไม่น่าจะเงิน ไอ้นี่มาในลักษณะเหมือนคนตกงาน ญาติพี่น้องก็ไม่เอา

หรือถ้าคิดน่าจะมีขาใหญ่ที่มาคอยประกันใหญ่ หรือเขามีบริษัทประกัน เดี๋ยวนี้ประกันง่าย คดีใหญ่ๆก็ประกันๆง่าย โดยอ้างว่า ถ้าไม่ให้ประกันออกมา เดี๋ยวก็ล้นคุก ถ้าความคิดว่า ล้นคิดก็ปล่อยออกเพ่นพ่านแล้วมาหาลูกค้าใหม่อีก วัดเละแน่ เลยนึกถึงท่านรองผู้การโอ๋ ที่เป็นรองผู้การภาค 1 ท่านเคยบอกวัดน่าจะเป็นเซ็ฟตี้โซน หรือโซนที่ปลอดภัย ปราศจากสิ่งผิดกฎหมาย ไร้ศีลธรมอะไรแบบนี้ แต่มาคราวนี้หนักใจเลย อาตมาตั้งแต่บริหารวัดมาพอเจอเคสนี้เข้ารู้สึกหนักใจมาก เพราะเราได้ไล่คนดี เด็กดีที่มันไปเอามา 4 ครั้ง มันหลอกเขา 4 ครั้ง เสียเงินไป 1,000 กว่าบาท

เราถือว่า เหล้ายา ขี้เกียจ ขี้คุก ขี้ตะราง ขี้ลัก ขี้ขโมย เลี้ยงกันไม่ได้ ถ้าเลี้ยงไปยุ่งตาย ก็เลยต้องไล่เด็กคนนี้อย่างเสียดายเหลือเกิน แต่ไอ้คนอัปรีย์กลับมาขี่จักรยานเยาะเย้ยเข้ามาอีก ถ้าไม่จัดการให้ออกไปได้ อาตมาคิดว่า มันก็ออกมาหาอีก เพราะมันเริ่มทำไปได้ 4-5 รายแล้ว และก็ยังจะชวนคนมาเป็นเพื่อนขายอีก พูดง่าย ตั้งทีมขาย และมาตั้งบริษัทขายยาบ้า ยาไอซกันในวัด แต่กฎหมายนี่บอกว่า กฎหมายเราไม่มีเชื่อมโยงกับศีลธรรม มาก่อกรรมในวัด ในศาล โทษเท่ากับก่อข้างนอก

มันเลยกลายเป็นว่า ไม่ได้เชื่อมโยงกับศาสนากับศีลธรรม เลยกลายเป็นเรื่องกฎหมายไทยก็ดีกับชั่วต่อไป ก็สงสารตำรวจตามไล่ ตามจับ แต่แล้วเรือนจำปล่อย ศาลปล่อย ศาลให้กัน โดยอ้างว่า จะล้นคุก ถ้าอ้างอย่างนี้ เดี๋ยวมันทำชั่วกันเต็มบ้าน เต็มเมือง แล้วก็บอก ปล่อยเหอะ เดี๋ยวล้นคุก อายประเทศอื่นๆเขาน่ะ ถ้าความเด็ดขาด เด็ดเดี่ยวไม่มี เราก็จะเป็นพวกเมตตาอวิชชา เจ็บปวดกับความเป็นชาวนาอุ้มงูเห่า เรื่องนี้มันก็ลำบาก

ถ้าผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ข้าราชการ ตำรวจไม่เอาจริง เชื่อว่า อีกไม่นานคนไทยก็จะมีสายเลือดขี้เหล้า ขี้ยาเต็มบ้าน เต็มเมือง สังคมไทยต้องเละเทะ ฟอนเฟะอย่างหนักต่อไปอีก ไม่รู้เมื่อไรจะมีความหวังว่า ศีลธรรมจะกลับมา กฎหมายจะศักดิ์สิทธิ์จัดการกับคนเลว คนหากิน หากรรม หาเวรเนี่ยให้หมดไปกับสังคมไทยได้บ้าง

 

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login