วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

นายกฯพบชาวนราธิวาสชี้ปัญหาเก่า-ใหม่อื้อ แจงจัดงบใต้แบ่ง 2 ส่วน

On January 20, 2020

วันนี้ (20 ม.ค. 2563) เวลา 10.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางถึงอาคารรื่นอรุณ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาจังหวัดนราธิวาส และพบปะประชาชน 2,000 คน โดยนายกฯกล่าวสวัสดีพี่น้องประชาชนเป็นภาษาไทย และภาษามลายู “อัสสลามุอะลัยกุม” ก่อนกล่าวว่า เราอยู่ด้วยกันในสังคมแบบพหุวัฒนธรรม การลงพื้นที่ครั้งนี้มาเยี่ยมเยือน ที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหามีทั้งเหนื่อยและหนักใจพอสมควร แต่ก็เป็นความเดือดร้อนของคนทั้งประเทศ การจัดทำงบประมาณในพื้นที่ภาคใต้ได้แบ่งเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกเรื่องความมั่นคงเป็นเบี้ยเลี้ยง เงินเดือน และค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งใช้งบประมาณมากพอสมควร จะต้องกระจายลงไปในพื้นที่ หลายคนอาจมองว่าทำไมไม่ให้เป็นก้อนใหญ่ๆ ตนเห็นว่าต้องให้แบบนั้น เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถบริหารได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พวกท่านเหมือนครอบครัวของตนที่ใหญ่มากมี 70 ล้านคน วันนี้ถือว่าทุกคนเป็นครอบครัวของตน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด เชื้อชาติใด ล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น จำไว้ ที่นี่คือแผ่นดินไทย จะแบ่งแยกไม่ได้ เราต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาของพวกเราเอง อย่าให้ใครมาแก้ให้พวกเรา ไปเอาต่างประเทศมาช่วยแก้ เพราะที่นี่คือบ้านเมืองของเรา แล้วยิ่งปัญหาที่มีความกระทบกระทั่ง คนขัดแย้งทางความคิด ก็ต้องพยายามทำให้เขาเข้าใจมากขึ้น เรามียุทธศาสตร์เยอะแยะ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า จากนี้ไปจะต้องมีการกวดขันกระบวนการกดราคายาง ปาล์ม หากพบโดนหมด วันนี้รัฐบาลได้จัดทำบัตรสวัสดิการต่างๆ เติมเงินให้คนสูงวัย อสม. โดยแต่ละปัญหามีคนรับผิดชอบ ทั้งที่ปัญหาเกิดจากพวกเรา แต่ตนไม่ได้โทษใคร แม้แต่ปัญหาการเผาหญ้าที่ทำให้เกิดมลพิษตนก็ไปลงโทษอะไรไม่ได้ ประเทศนี้ถือว่าตกอยู่ในความประมาท ความขัดแย้งหลายพื้นที่ในโลกก็มี อย่างโรคระบาดก็มีมาใหม่ตลอด เพราะคนพัฒนาเชื้อโรคก็พัฒนา จึงไม่อยากให้การทำงานแบ่งแยกกระทรวง จะต้องทำงานให้เสริมกันได้

จากนั้นนายกฯได้ถามประชาชนว่า “ใครรักผมให้ยกมือขึ้น” ซึ่งประชาชนที่มาส่วนใหญ่ก็ยกมือขึ้น นายกฯจึงกล่าวว่า ตกลงเข้าใจตรงกัน แต่เดี๋ยวก็จะหาว่าสร้างอีก ตนเป็นทหาร บางทีพูดเพราะบ้าง ไม่เพราะบ้าง แต่ตนมีความจริงใจ ตอนนี้หลายคนสนใจเรื่องความสวยงามเยอะ แต่สวยงามแล้วต้องมีสติปัญญา มีสมองด้วย ถามอะไรต้องตอบได้ ขอให้เข้าใจว่าที่ตนพูดไปนั้นไม่ได้ว่าใคร เดี๋ยวจะหาว่าไปละเมิดสิทธิคนอื่นเขาอีก ที่พูดเพราะอยากกระตุ้นตัวเอง

“ส่วนสถานการณ์ภาคใต้ตอนนี้ลดลง แต่การจะสร้างพื้นที่ให้ปลอดภัยนั้น อุปสรรคคือเรื่องของการก่อเหตุ ถ้าไม่เกิดเลยผมจะพอใจ แต่ก็ยังมีเกิดอยู่เรื่อยๆ ก็ไม่พอใจ เพราะไม่อยากให้ใครเจ็บใครตายทั้งนั้น”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม อำนวยความสะดวกเรื่องการใช้โทรศัพท์ให้ดีขึ้น แต่ขอให้ประชาชนเปิดโทรศัพท์ในเรื่องที่เป็นสาระ ตนไม่ได้ต่อว่าใคร เดี๋ยวจะหาว่าตนไปว่าใครอีก ตนไม่เคยดูถูกใคร บางทีก็พูดเพื่อให้เข้าใจบ้าง แต่กลับโดนหาว่าไปดูถูกคน ตนจะไปดูถูกประชาชนได้อย่างไร เพราะประชาชนเป็นเจ้านายตนทั้งนั้น

“รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง ส.ส.ในพื้นที่ที่ประชาชนเลือกมา แต่ต้องทำงานให้คุ้มกับที่ประชาชนเลือก และประชาชนก็อย่าทอดทิ้งเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคอื่นก็เป็นเรื่องของเขา แต่ผมก็พร้อมที่จะดูแล หากเขามาร่วมมือในช่องทางที่เป็นไปได้ผมก็จะทำให้หมด ผมรังเกียจเขาไม่ได้ เพราะประชาชนอยู่กับเขา ประชาชนเป็นคนเลือกมา ไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม แต่ผมก็ต้องดูแลพรรคร่วมรัฐบาลให้ทำงานไปกับเราในตอนนี้ ซึ่งพรรคอื่นเองก็ต้องเคารพเสียงประชาชน เพราะประชาธิปไตยเป็นอย่างนี้”

จากนั้นนายกฯได้เดินลงมาทักทายนักเรียน นักศึกษา ประชาชน อย่างเป็นกันเอง พร้อมถ่ายรูปเซลฟี่และทำสัญลักษณ์มินิฮาร์ท ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน โดยได้เยี่ยมชมคลินิกกัญชาทางการแพทย์จังหวัดนราธิวาส ดูการค้าขายออนไลน์ ผลิตภัณฑ์จากวิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลก และผลิตภัณฑ์โอท็อปจังหวัดนราธิวาส พร้อมชิมน้ำผึ้งชันโรง ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเรื่องเบาหวาน ความดัน โรคเกาต์ และเพิ่มสมรรถภาพ นอกจากนี้นายกฯยังได้อุดหนุนกระเป๋ากระจูดผสมหนัง ราคา 2,500 บาท และผ้าทอลายพิกุลพลอย จังหวัดนราธิวาส ราคา 1,280 บาท ก่อนแวะทักทายถ่ายรูปกับประชาชน โดยชาวบ้านให้กำลังใจขอให้นายกฯสุขภาพแข็งแรง


You must be logged in to post a comment Login