วันพฤหัสที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567

นายกฯเผยโรงงานปิดอย่าเหมารวมโทษพิษเศรษฐกิจ ยันตัวเลขจ้างงานสูงกว่าคนตกงาน

On December 24, 2019

วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีถึงเป้าหมายปี 2563 ของรัฐบาล และความคาดหวังไตรมาสแรกปีหน้าของรัฐบาลว่า เราคาดหวังว่าไตรมาสแรกของปีหน้าน่าจะดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลดำเนินการมาตลอดต่อเนื่อง ทั้งมาตรการสั้น กลาง ยาว ต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลง ทุกประเทศกำลังลำบาก ทุกคนทราบสาเหตุอยู่แล้ว ทั้งนี้ เรื่องของเศรษฐกิจเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนประเทศ ถ้าเราทำให้เกิดความรู้สึกโดยตลอดว่ามันไม่ดีมากๆ บางครั้งก็เกินเลยไปหน่อย หากเราร่วมกันสร้างความมั่นใจว่าเศรษฐกิจยังไปได้อยู่ อาจน้อยบ้าง ชะลอตัวบ้าง แต่ถ้าทุกคนร่วมมือกันก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และเชื่อมั่นว่าโครงการถนนคนเดินทั่วประเทศจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยทุกพื้นที่

ทำให้เศรษฐกิจฐากรากมีการหมุนเวียน ทุกอย่างก็จะดีขึ้น และเมื่อภาครัฐมีเงินงบประมาณเติมเข้าสู่ระบบหลัง พ.ร.บ.งบประมาณผ่านตามขั้นตอนก็จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น น่ายินดีว่างานโอท็อปซิตี้ 2019 ที่ผ่านมา มียอดขายรวมมากกว่า 1,372 ล้านบาท ทำลายสถิติรอบ 5 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าชุมชนและสินค้าต่างๆมีการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของตลาด

“ผมต้องการให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ไตรมาส 4 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งผลไปยังไตรมาสแรกของปี 2563 รวมทั้งการเน้นการลงทุนในรัฐวิสาหกิจต่างๆเกือบแสนล้านบาท ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็ว โดยต้องใช้เงินอย่างเหมาะสม ทุกคนต้องช่วยกันด้วยความเข้าใจ จะไปบังคับเขาไม่ได้”

นายกฯกล่าวว่า สำหรับมาตรการทางการเงินวันนี้ ทุกคนทราบดีว่าเรามีปัญหาเรื่องค่าเงินบาทแข็งตัว ซึ่งมีมาจากหลายสาเหตุ โดยเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานต่างๆ เพื่อหามาตรการการผ่อนคลายว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้มีมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการออกมาตรการที่จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้ จึงไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนกกันมากเกินไป

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต เพราะไม่เช่นนั้นจะกระเทือนไปถึงปัญหาเศรษฐกิจ การปลดพนักงาน ธุรกิจปิดตัว รัฐบาลมีมาตรการรองรับไว้หลายด้าน ไม่อยากให้เหมารวมว่าเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจ ถ้าตรวจสอบดูจะพบว่าหลายโรงงานสมัครใจที่จะปิดตัวเอง เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว หรือไม่สามารถพัฒนาสินค้าได้ จึงจำเป็นต้องปิดตัวลง ซึ่งมีโรงงานที่ปิดตัวลงจำนวน 1,480 แห่ง แต่ขณะเดียวกันก็มีการเปิดโรงงานใหม่ๆมากขึ้นเพิ่มเป็น 3 เท่า มีการจ้างงานใหม่จำนวน 178,733 คน มีมูลค่าการลงทุนแสนล้านบาท มีการหมุนเวียนแรงงาน ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ซึ่งภาวการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทุกปี วันนี้ตัวเลขการจ้างงานมีมากกว่าคนตกงาน ถือเป็นเรื่องธรรมดาของโลกปัจจุบัน

 


You must be logged in to post a comment Login