วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

“ไวพจน์-สำเริง-วรชัย”เปลี่ยนคำสารภาพลุ้นโทษเบาคดีนปช.ล้มประชุมอาเซียน ศาลนัดใหม่ 3 ธ.ค.นี้

On November 1, 2019

เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) ที่ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำพากลุ่มคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียนที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 ที่พนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายนพพร นามเชียงใต้, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, นายสมญศฆ์ พรมภา, นายนิสิต สินธุไพร, นายสำเริง ประจำเรือ, นายศักดา นพสิทธิ์, นายสิงห์ทอง บัวชุม, นายธนกฤต หรือวันชนะ ชะเอมน้อย หรือเกิดดี, นายวรชัย เหมะ, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายวัลลภ ยังตรง และนายพิเชฐ สุขจินดาทอง

สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำคุกจำเลยทั้ง 12 คน เป็นเวลา 4 ปีโดยไม่รอลงอาญา และยกฟ้อง 1 คน จนเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว แต่ปรากฏว่าจำเลยมาเพียงคนเดียว จึงได้อ่านคำพิพากษาของนายศักดา นพสิทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 10 และนัดใหม่เป็นวันที่ 31 ตุลาคม 2562

โดยเมื่อวานนี้มีจำเลยเดินทางมารับฟังคำพิพากษา 3 คนคือ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ, นายสำเริง ประจำเรือ และนายวรชัย เหมะ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้รับหมายเรียกศาล โดยศาลได้มีการอ่านคำพิพากษาไปแล้วคือ จำคุก 4 ปีไม่รอลงอาญา และทุกคนก็ได้เตรียมใจในการรับโทษตามกระบวนการยุติธรรม และได้เขียนจดหมายแจ้งข่าวร่ำลาเพื่อนพ้องน้องพี่ไว้แล้ว

ก่อนเวลาที่ศาลจะอ่านคำพิพากษา จำเลยทั้ง 3 ที่มารายงานตัวได้ทำหนังสือยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมจากปฏิเสธเป็นขอรับสารภาพ และยื่นคำร้องประกอบขอให้ศาลลงโทษสถานเบา เนื่องจากไม่ได้รับหมายศาลครั้งแรก เพื่อให้ศาลวินิจฉัยบทลงโทษใหม่ ศาลจังหวัดพัทยาจึงส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย

โดยนายณัฐพล ปัญญาสูง ทนายความ ได้เปิดเผยเมื่อเย็นวานว่า ศาลจังหวัดพัทยาได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปก่อนเพื่อรอฟังคำสั่งจากศาลฎีกาเรื่องเกี่ยวกับคำร้องของฝั่งจำเลยที่ได้ทำหนังสือยื่นร้องขอถอนคำให้การเดิมจากปฏิเสธเป็นขอรับสารภาพ และยื่นคำร้องประกอบขอให้ศาลลงโทษสถานเบา รวมทั้งจำเลยไม่ได้รับหมายศาลครั้งแรก โดยเลื่อนไปเป็นวันที่ 3 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00 น. ส่วนที่ว่าจะรับคำร้องของจำเลยหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันและเวลาดังกล่าว

ดังนั้น จากข่าวที่รายงานว่าจำเลยได้เข้าไปรับโทษและถูกจำคุกแล้ว ข้อเท็จจริงขณะนี้คือ จำเลยทั้ง 3 คน ยังไม่ได้ถูกจำคุก จนกว่าจะถึงวันที่มาฟังคำพิพากษาใหม่อีกครั้งในวันที่ 3 ธันวาคมที่จะถึงนี้


You must be logged in to post a comment Login