วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

หันหน้าเข้าหากัน

On September 5, 2019

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 5 ก.ย. 62)

คำว่าเห็นต่างหรือต่างความเห็นกัน ภาษาโบราณเรียกว่านานาจิตตัง จะเห็นต่างกันอย่างไรก็ตาม แต่ต้องเป็นความเห็นต่างที่ไม่ทำลายฝ่ายตรงข้าม ความเห็นต่างที่สร้างสรรค์ เป็นบุญ เป็นกุศล เป็นประโยชน์ต่อโลก ต่อบุคคล อย่างเจ้าชายสิทธัตถะเห็นต่างกับพ่อแม่ที่นับถือศาสนาพราหมณ์จึงได้เปลี่ยนมาเป็นศาสนาพุทธ คือสร้างศาสนาพุทธขึ้นในใจ เพราะความเห็นต่างในเรื่องศาสนามีเยอะมาก

มีเรื่องเล่ากันว่า ป่าอิสิปตนมฤคทายวันที่เป็นที่อยู่ของพระอรหันต์จำนวนมาก ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าถามว่าทำอย่างไรจะทำให้ป่าอิสิปตนมฤคทายวันงดงาม อยู่กันอย่างไรจึงจะทำให้ป่านี้แลดูดี งดงาม พระอรหันต์แต่ละรูปมีความเห็นต่างกัน แต่ท่านก็อยู่ร่วมกันได้ พระอานนท์บอกว่าในป่าต้องมีพระที่เป็นผู้อาวุโสเยอะๆ เป็นพระที่คงแก่เรียน ได้ยินได้ฟังมามาก พระมหากัสสปะก็บอกว่า จะให้ป่านี้งามก็ต้องมีพระถือธุดงค์จำนวนมาก จะทำให้น่าอยู่

ส่วนพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร ก็เห็นต่าง พระสารีบุตรบอกว่า ต้องมีพระที่มีปัญญาเฉียบแหลม ฉลาด รอบรู้ แต่พระโมคคัลลานะบอกว่า ต้องมีพระที่มีฤทธิ์ แม้ว่าจะเป็นพระอรหันต์ก็มีความเห็นต่าง แต่การเห็นต่างของพระอรหันต์ไม่ฟาดฟัน ห้ำหั่น ล้างผลาญกัน ปุถุชนเห็นต่างแล้วล้างผลาญ ชิงชัง เคียดแค้น ในที่สุดก็เดือดร้อนเพราะความเห็นต่าง

อีกไม่นานเราคงจะได้เห็นความเห็นต่างในยุคที่มีเรื่องเหลืองแดง ความเห็นต่างคนละมุม คนละโลก ก็ห้ำหั่นกันพอสมควร ในที่สุดก็เดือดร้อน เพราะเป็นความเห็นต่างที่เป็นฝ่ายปราบอกุศล ไม่เป็นฝ่ายสร้างสรรค์บุญกุศล ในที่สุดเรื่องความเห็นต่างนี่ก็มีคนออกมาเสนอความเห็นเยอะแยะว่า เราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร อาตมาเคยอ่านคอลัมน์ของคุณกษิต ภิรมย์ เขาบอกว่า เราจะต้องทำให้ความเห็นต่างและความขัดแย้งยุติลง

ในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เขาบอกว่าต่างกันเยอะ ฝ่ายหนึ่งน้ำท่วม อีกฝ่ายหนึ่งแห้งแล้ง ใครแย่กว่ากัน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์มาน้ำแห้งแล้งหนัก ส่วนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์มาน้ำท่วมหนักหนาสาหัสสากรรจ์ เรียกว่า 2 ทางนี้ต่างในทางเสียหายแทบทั้งนั้น แล้งมากก็ลำบาก น้ำท่วมมากก็ยิ่งยาก เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรให้เห็นต่างแล้วอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก

คุณกษิตพูดว่า ในเมื่อตอนนี้ความเห็นต่างขัดแย้งรุนแรง จึงได้บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรหันหน้าคุยกันกับคู่อริ เช่น ท่านทักษิณ โดยหาคนที่เป็นปราชญ์ชาวบ้าน เช่น หมอประเวศ วะสี หรือ ส.ศิวรักษ์ ช่วยคุย ออกความคิดเห็น จนกระทั่งได้ความปรองดองลงตัว ก็จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศอย่างมหาศาล ดีกว่ามัวเป็นศัตรูคู่ขัดแย้งกันอยู่อย่างนี้ ซึ่งไม่เกิดความสร้างสรรค์เลย

ถ้าเอาท่านทักษิณกลับมา พวกที่เห็นต่างก็คงจะเกลียดชัง แต่ถ้าเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ ในฐานะที่เขาเป็นคนมีประสบการณ์ในต่างประเทศ อาจจะมาเป็นที่ปรึกษา ไม่ให้เป็นใหญ่เป็นโตอะไร ขอสมองส่วนหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมาพัฒนาประเทศชาติร่วมกัน

ดังนั้น ถ้าหยุดความขัดแย้ง ความเกลียดชัง หันหน้ามาคุยกัน พูดคุยเจรจาเพื่อให้เกิดความสงบ ประเทศชาติก็จะเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมก็จะหายนะลดลงไป กลายเป็นความเจริญ เพลิดเพลินน่าอยู่กันต่อไป

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login