วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

พอเถอะอุ๊ กุเบื่อ..

On July 11, 2019

คอลัมน์ : เรื่องจากปก
ผู้เขียน : ทีมข่าวการเมือง

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่  12-19 ก.ค. 2562 )

#ดักตบ #รุมตี #2475 #แต่งกายเข้าสภา #เคาะกะลาแย่งชามข้าว #ไม่มีจะแดกแล้วโว้ย

สารพัดประเด็นเป็นข่าวหลายสัปดาห์ แม้จะเป็นที่สนุกปาก ทำให้เกิดการโต้เถียงไปมาในสื่อโซเชียลและลุกลามไปยังสื่อหลัก ยิ่งมีดารานักร้องนักแสดงเข้ามาร่วมวงแสดงความคิดเห็นก็ยิ่งทำให้เป็นที่น่าสนใจ และเป็นเรื่องที่พูดกันไปทั้งบ้านทั้งเมือง

จากเหตุการณ์ที่ “จ่านิว” ถูกชายฉกรรจ์ 4 คนทำร้ายรุมตีด้วยไม้เบสบอล จนป่านนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี จนถึงการโพสต์เชิงข่มขู่ สนับสนุนการใช้ความรุนแรง เช่น การเชียร์ให้มีการดักตบ หรือนิยมชมชอบให้เกิดการรุมตีฝ่ายที่มีรสนิยมทางการเมืองตรงข้ามกัน

แน่นอนว่าสำหรับคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันนั้นย่อมเป็นความสะใจ แม้ว่าจะไม่ได้ลงมือกระทำได้ง่าย หรือยังมิได้กระทำได้จริง แต่ก็ส่อให้เห็นเค้าลางของความรุนแรงที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

คำถามก็คือ ข่าวที่เกิดขึ้นใครได้ประโยชน์? ข่าวเหล่านี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือมีความตั้งใจที่จะให้เป็นข่าว?

มีศิลปินบางคนเข้ามาโพสต์ว่า “อย่าเบี่ยงประเด็น” ในกรณีที่ทีมงานของบางพรรคไปกินข้าวสังสรรค์กันมื้อหนึ่งในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในขณะที่สมาชิกพรรคการเมืองบางพรรคก็โพสต์ถามในเรื่องเดียวกันว่าไม่ได้ติดใจเรื่องกินข้าว แต่ติดใจเรื่องนาฬิกา พ.ศ. 2475 ที่ตกแต่งอยู่บนฝาผนังห้องแถวในร้านอาหารนั้น

อะไรคือสาระที่แท้จริงของประเด็นที่ทำให้เป็นเรื่องทอล์คออฟเดอะทาวน์ หรือความจริงต้องการเพียงแค่ปั่นกระแสให้เป็นประเด็นสังคม เกิดการทะเลาะวิวาทเสียดสี เพื่อทำให้ลืมไปว่าเรายังมีปัญหาที่แท้จริงที่เร่งด่วนและสำคัญกว่าการถกเถียงเรื่องการแต่งกายว่าไม่ผูกเนกไทคือไม่ให้เกียรติ แต่เรากลับทำให้ปัญหาสำคัญถูกลืมหรือถูกเบี่ยงประเด็นไป หรือเป็นศาสตร์วิชาที่ว่าด้วยแบ่งแยกแล้วปกครอง?

ปัญหาการแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรี ปัญหาเรื่องการจัดสรรงบประมาณซึ่งกำลังเข้าสภา ตลอดจนปัญหาการที่ผลการเลือกตั้งจบไปตั้งนาน แต่เราเพิ่งได้คณะรัฐบาล และมีรัฐมนตรีที่ยังไม่แน่ว่าจะไว้วางใจได้ในการเข้ามาทำงานแก้ปัญหาให้กับประเทศจริงหรือไม่ เพราะเสนาบดีหลายคนถูกตั้งข้อสงสัยว่ายังมีปัญหา ตั้งแต่คุณสมบัติทางกฎหมาย และคุณสมบัติทางศีลธรรม

แม้การมีพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลพรรคเล็กพรรคน้อยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเกือบ 20 พรรค จากการที่ กกต. ใช้สูตรคำนวณทุลักทุเลผลักดันกันจนได้เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ย่อมไม่ใช่รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ แต่ในเมื่อ “ผีถึงป่าช้า” แล้วก็ต้องเลือกฝังหรือเผาให้จบ

รัฐบาลจะได้รีบโชว์ฝีมือ จะได้รู้ว่ามีฝีมือจริงหรือไม่ ประชาชนทั้งประเทศเขารอดูอยู่ ถ้าทำดีก็อยู่ยาว แต่ถ้าไร้ฝีมือ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

เลิกเบี่ยงประเด็นกันได้แล้ว พอเสียทีเถิด พอได้แล้ว คนทำมาหากินฝืดเคืองจนแทบไม่มีอะไรจะกินกันแล้ว

ท่านที่มีฐานะมีกินมีใช้ หรือมีมรดกมีบุญเก่ากินกัน ท่านคงกำลังสนุก แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่อีกจำนวนมากที่ไม่ได้เกิดมามีความสุขสบายแบบท่านเขาเบื่อจะแย่แล้ว!

มีปัญหาแก้ในสภา ดีกว่าแก้ปัญหาบนท้องถนน อาสาเป็นนายกฯต้องกล้าที่จะเข้าสภา กล้าที่จะให้ประชาชนตรวจสอบ

ถ้าดีจริงอยู่ครบ 4 ปีได้ก็อยู่ไป แต่ถ้าอยู่ไม่ได้ก็คืนอำนาจให้ประชาชน

ถ้าฝ่ายมีอำนาจมัวแต่พยายามต้อนให้อีกฝ่ายเข้าสู่มุมดับอับจน บางทีการแก้ปัญหาบนท้องถนนอาจเป็นทางออกที่ถูกบีบให้เลือกก็ได้

โปรดหยุดตอแหล เลิกแถ อย่ามาตู่ “พอเถอะอุ๊ กุเบื่อ”..

(หมายเหตุ : “อุ๊” เป็นคำเรียก “คนชอบแถ ชอบใช้สีข้างเข้าถู” แถวๆบ้าน ไม่เกี่ยวข้องกับชื่อบุคคลใด)


You must be logged in to post a comment Login