วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

ไม่มีปัญหา

On June 26, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 26 มิ.ย.62)

ปัญหาการตั้งกรรมการสรรหา ส.ว. ที่เรียกเสียงยี้ทั้งบ้านทั้งเมืองถูกศาลปกครองตีตกไม่รับพิจารณา เพราะเห็นว่า คสช. และนายกฯทำตามรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าข่ายความขัดแย้งทางปกครอง จึงไม่อยู่ในอำนาจที่จะรับไว้ตัดสินได้ ส่วนเรื่อง ส.ส. ถือหุ้นสื่อซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่และมีข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญมีนัดถกว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องไว้พิจารณาวันนี้ (26 มิ.ย.) ถ้าจับสัญญาณจากผู้มีอำนาจทั้งหลายที่ยังไม่ได้แสดงท่าทีวิตกกังวลใดๆกับเรื่องนี้ย่อมเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าภัยคงไม่มาถึงตัว เพราะเนติบริกรหลายคนออกมาชี้โพรงไว้แล้ว

การเมืองมีความคืบหน้าหลายเรื่อง

เรื่องแรกการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ชัดเจนแล้วว่ากว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามารับไม้ต่อจากชุดปัจจุบันน่าจะเป็นช่วงกลางเดือนหน้า (กรกฎาคม) ส่วนการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯอาจจะเป็นก่อนหรือหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปประชุมผู้นำ G20 ที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้

เรื่องต่อมาเป็นเรื่องที่คอการเมืองรอลุ้นกันอยู่คือ กรณีที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นเรื่องผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความคุณสมบัติ ส.ส. 41 คน กรณีถือหุ้นสื่อ

มีรายงานว่าการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ (26 มิ.ย.) มีวาระที่จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องไว้ชี้ขาด พร้อมกันนี้จะพิจารณากรณีที่ฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชารัฐยื่นขอให้จำหน่ายคดีที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นฟ้องเนื่องจากเห็นว่ายื่นเรื่องต่อประธานสภาผิดขั้นตอน เพราะทำเป็นหนังสือ ไม่ได้ทำเป็นคำร้อง ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561

สรุปมีเรื่องต้องลุ้น 2 ขยักคือ คำร้องของพรรคอนาคตใหม่กับคำร้องของพรรคพลังประชารัฐ ถ้าเห็นด้วยกับคำร้องของพรรคพลังประชารัฐก็จำหน่ายคดีทิ้ง ถ้าไม่จำหน่ายคดีทิ้งก็ต้องลุ้นว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องของพรรคอนาคตใหม่ ถ้ารับจะสั่งให้ ส.ส. ที่ถูกฟ้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนเหมือนกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หรือไม่

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้แม้มีความสำคัญและจะส่งผลกระทบทางการเมืองค่อนข้างมาก แต่บรรดาคอการเมืองหลายคนไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะพอจะรู้แนวโน้มแล้วว่าหวยจะออกอะไร

ยิ่งหากดูจากปฏิกิริยาจากผู้มีอำนาจทั้งหลายที่ยังไม่ได้แสดงท่าทีวิตกกังวลใดๆกับเรื่องนี้ ย่อมเป็นสัญญาณบ่งบอกได้ว่าภัยคงไม่มาถึงตัว

เช่นเดียวกับกรณีการแต่งตั้ง ส.ว. ที่ใครก็มองว่าไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย เพราะคณะกรรมการสรรหาล้วนเป็นพวกเดียวกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถมยังเลือกกันเองเป็น ส.ว. อีกด้วย

ล่าสุดเรื่องนี้ได้รับการรับรองความถูกต้องจากศาลปกครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลางไม่รับคำฟ้องของคณะราษฎรไทยแห่งชาติกับพวกรวม 34 คน ที่ยื่นฟ้อง คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์กรณีตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากแต่งตั้งบุคคลที่ไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง

ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ คสช. และนายกฯเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 โดยมีบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญปี 2560 ให้การรองรับ ซึ่งผู้ถูกร้องทั้งสองถือเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และการตั้งกรรมการสรรหา ส.ว. เป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญโดยตรงเพื่อสรรหาบุคคลไปทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ กรณีนี้จึงไม่ใช่ข้อพิพาทจากการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลปกครอง

สรุปคือทำตามรัฐธรรมนูญและไม่อยู่ในอำนาจศาลปกครองที่จะพิจารณาเพราะไม่ใช่ข้อพิพาททางปกครอง ส่วนจะอยู่ในขอบเขตอำนาจศาลใดนั้น ผู้เห็นว่าการแต่งตั้ง ส.ว. ไม่ถูกต้อง ต้องไปแสวงหาช่องทางเอาเอง

เรื่องตั้งคณะรัฐมนตรีดึงเวลาได้อย่างที่ต้องการ

เรื่องสรรหา ส.ว. ที่ดูว่าน่าจะอาการหนักก็ผ่านได้

เหลือเรื่อง ส.ส. ถือหุ้นสื่อ ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อกก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะเนติบริกรหลายคนออกมาชี้โพรงแล้วว่าไม่จำเป็นต้องเอาคำตัดสินศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมาเป็นบรรทัดฐานตัดสินเรื่องนี้ และการไต่สวนควรจะดูที่ข้อเท็จจริงเป็นหลักว่าธุรกิจที่ถือหุ้นนั้นทำสื่อจริงหรือไม่

ปูทางกันมาขนาดนี้พอจะเห็นตอนจบหรือยัง


You must be logged in to post a comment Login