วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2567

ยอมหักหรือยอมงอ

On May 30, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 30 พ.ค. 62)

สถานการณ์ทางการเมืองเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลจะจบแบบไหนดูเหมือนว่าขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคพลังประชารัฐ หากยอมโอนอ่อนผ่อนตามความต้องการของพรรคที่ไปชวนมาร่วมรัฐบาลก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำบริหารประเทศ แต่หากยอมหักไม่ยอมงอ ยึดความต้องการของตัวเองเป็นหลักเพราะคิดว่าถือไพ่เหนือกว่าอยู่ในมือ อาจได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยสมใจ และคงตามมาด้วยการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในเวลาอันสั้นแน่นอน

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลโดยที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำที่ตอนแรกดูเหมือนจะมีความราบรื่นดี แต่เกิดเครื่องรวนเอาเสียดื้อๆ

เท่าที่จับประเด็นที่ทำให้เครื่องรวนได้ก็เพราะพรรคพลังประชารัฐเกิดปัญหาภายใน

ปัญหาที่ว่าคือเรื่องการจัดสรรโควตารัฐมนตรีให้กับกลุ่มก๊วนต่างๆภายในพรรคที่มีอยู่มากมายหลายมุ้ง

ความต้องการเก้าอี้รัฐมนตรีของหัวหน้ากลุ่มก๊วนต่างๆในพรรคไปทับซ้อนกับความต้องการของพรรคที่ไปดึงมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนา

เมื่อมีความต้องการทับซ้อนกันจึงทำให้การจัดตั้งรัฐบาลมีปัญหาไปด้วย

เท่าที่ติดตามความเคลื่อนไหวเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐต้องการแก้เกมต่อรองนี้ด้วยวิธีหนามหยอกเอาหนามบ่ง

กล่าวคือพักเจรจาแบ่งโควตารัฐมนตรีกับพรรคร่วมรัฐบาลเอาไว้ก่อน โดยขอให้มีการโหวตเลือก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน เมื่อมีนายกฯแล้วค่อยมาคุยกันเรื่องโควตารัฐมนตรีใหม่

ทั้งนี้เพราะที่ผ่านมาในการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้เงื่อนไขนี้ต่อรองกับพรรคพลังประชารัฐ คือให้โหวตเลือกประธานสภาก่อนแล้วค่อยมาคุยรายละเอียดเรื่องร่วมรัฐบาล ทำให้เราได้เห็นภาพการยกขันหมากไปสู่ขอหลังรู้ผลเลือกประธานสภาแล้ว

แต่ดูเหมือนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ จึงเป็นที่มาขอการเลื่อนประชุมร่วมระหว่าง ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคเพื่อลงมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐอย่างเป็นทางการออกไปอย่างไม่มีกำหนด

แถมยังถามผ่านสื่อสาธารณะด้วยว่าพรรคพลังประชารัฐใครมีอำนาจในการเจรจาเรื่องแบ่งโควตารัฐมนตรีกันแน่ เพราะดูเหมือนว่าคนที่ยกขันหมากมาสู่ขอก็ต้องกลับไปรายงานผู้มีอำนาจตัวจริงในพรรคอีกทอดหนึ่ง

พรรคประชาธิปัตย์ต้องการข้อตกลงที่ชัดเจนก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่พรรคพลังประชารัฐต้องการดึงเกมไปหลังได้นายกรัฐมนตรีแล้ว เพราะคิดว่าเมื่อถึงตอนนั้นเสียงของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆที่จะดึงมาร่วมรัฐบาลจะเบาลง

จึงเป็นที่มาขอคำขู่ที่ว่าแม้ไม่มีพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคอื่นอีก 2 พรรคที่ออกอาการงอแง แต่ไม่กระทบกับการโหวตเลือกนายกฯเพราะมี ส.ว. 250 เสียงพร้อมหนุน “ลุงตู่” อยู่แล้ว

หากได้นายกฯแล้วพรรคที่งอแงไม่เข้าร่วมก็พร้อมเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และหากมีปัญหาก็พร้อมยุบสภาเลือกตั้งใหม่

เรื่องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ถือเป็นไพ่เด็ด เพราะไม่มีนักการเมืองคนไหนหรือพรรคการเมืองไหนอยากลงสนามเลือกตั้งติดๆกันในช่วงเวลาไม่ทันข้ามปี เพราะการหาเสียงนั้นเหนื่อยและต้องใช้ปัจจัยเยอะ ยังพักไม่ทันหายเหนื่อย แถมที่ควักออกจากกระเป๋าไปใช้ในการเลือกตั้งที่ผ่านมายังไม่ได้คืนใครจะอยากลงสนามเลือกตั้งอีก

เชื่อว่าแม้แต่พรรคที่ออกมาขู่เรื่องยุบสภาก็เชื่อว่าขู่ไปขาสั่นไป เพราะกระสุนดินดำในคลังตัวเองก็เหลือน้อยไม่ต่างจากพรรคอื่น แถมกระแสพรรคก็ไม่ดี ขืนเลือกตั้งเร็วมีหวังแพ้ราบคาบเหมือนที่เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่

ความน่าจะเป็นมากที่สุดตอนนี้คือ ถ้าไม่ยอมลดราวาศอกแบ่งเค้กให้เสร็จสรรพก่อนโหวตเลือกนายกฯคงได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยสมใจ และคงตามมาด้วยการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในเวลาอันสั้นแน่นอน


You must be logged in to post a comment Login