วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

รอมฎอนสอนบทเรียน

On May 8, 2019

คอลัมน์ สันติธรรม
รอมฎอนสอนบทเรียน
โดย บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้วันสุข วันที่ 10-17 พฤษภาคม 2562)

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ใครที่อาศัยอยู่ในชุมชนหรืออยู่ใกล้บ้านชาวไทยมุสลิมและตื่นนอนก่อนแสงแรกของดวงอาทิตย์ปรากฏบนท้องฟ้าอาจสงสัยว่าเหตุใดบ้านของชาวไทยมุสลิมจึงเปิดไฟสว่างตั้งแต่ก่อนตีสี่ ถ้าเข้าไปใกล้กว่านั้นอีก หลายคนอาจแปลกใจที่ได้ยินเสียงทำกับข้าวหรือไม่ก็เสียงของบรรยากาศการกินอาหารมื้อสำคัญ

ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะบรรยากาศแบบนี้จะดำเนินต่อไปอีก 29 หรือ 30 วัน เพราะวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคมของปีนี้ (พ.ศ. 2562) ตรงกับวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอนตามปฏิทินจันทรคติของอิสลาม ซึ่งเป็นเดือนที่มุสลิมทั้งชายและหญิงที่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่มีหน้าที่ต้องถือศีลอด การไม่ถือศีลอดโดยไม่มีเหตุได้รับการยกเว้นถือเป็นบาป

ทำไมต้องถือศีลอด? และทำไมต้องเป็นเดือนรอมฎอน?คำตอบคือเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่พระเจ้าประทานคัมภีร์กุรอานแก่มนุษยชาติเพื่อเป็นทางนำในการดำเนินชีวิต ไม่เฉพาะคัมภีร์กุรอานเท่านั้น นบีมุฮัมมัดกล่าวว่า แม้แต่คัมภีร์ไบเบิลก็ถูกประทานลงมาในเดือนรอมฎอนเช่นกัน

ตามคัมภีร์กุรอาน “เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่คัมภีร์กุรอานถูกประทานลงมาเพื่อเป็นทางนำในการดำเนินชีวิตของมนุษย์” แต่คนที่จะได้ประโยชน์จากคัมภีร์กุรอานก็คือ “ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า”
ramadan-kareem
สาเหตุแห่งการประทานคัมภีร์เป็นทางนำแก่มนุษย์ก็เพื่อที่มนุษย์จะได้มีคู่มือหรือมีแนวทางในการดำเนินชีวิต เพราะมนุษย์เกิดมาในสภาพอ่อนแอและไม่รู้ ถ้าไม่มีคู่มือการใช้ชีวิตมนุษย์ก็จะใช้ชีวิตไม่เป็น และมนุษย์เองจะได้รับความหายนะ ไม่ต่างอะไรไปจากบ้านเมืองที่ไม่มีกฎหมายคอยควบคุม

ศาสนาจึงเป็นกฎหมายจัดระเบียบสังคมมนุษย์ก่อนที่สังคมมนุษย์จะมีรัฐบาลหรือรัฐสภามาทำหน้าที่ออกกฎหมาย และถึงแม้จะมีกฎหมาย หากประชาชนไม่กลัวหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม กฎหมายจะไร้ประโยชน์

ศาสนาก็เช่นกัน ถ้าหากคนนับถือศาสนาไม่เกรงกลัวผู้ออกกฎศาสนาและไม่ปฏิบัติตามศาสนา ศาสนาจะไม่เกิดประโยชน์อะไรแก่ผู้อ้างตัวว่านับถือศาสนานั้น

ด้วยเหตุผลดังกล่าวการถือศีลอดจึงถูกกำหนดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ประการเดียวคือเพื่อให้ผู้ถือศีลอดเกิดความรู้สึกยำเกรงพระเจ้าผู้ประทานศาสนา และที่ให้ถือศีลอดในเดือนรอมฎอนก็เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่คัมภีร์กุรอานถูกประทานลงมานั่นเอง

คัมภีร์กุรอานกล่าวว่า การถือศีลอดได้ถูกกำหนดแก่ผู้คนที่นับถือศาสนาก่อนหน้าสมัยนบีมุฮัมมัดนับเป็นพันปี เช่น โมเสสและพระเยซูเคยถือศีลอดเป็นเวลา 40 วัน แต่ปัจจุบันมีสาวกของโมเสสและพระเยซูจำนวนน้อยที่ดำเนินรอยตามแบบฉบับของ 2 นบีผู้ยิ่งใหญ่ สาเหตุเพราะนบีทั้งสองถือศีลอดตลอดทั้งวัน เมื่อละศีลอดกินอาหารตอนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วจะถือศีลอดต่อเลย การถือศีลอดในลักษณะนี้ทำให้ชาวยิวไม่สามารถปฏิบัติได้ การถือศีลอดของชาวยิวส่วนใหญ่จึงเหลือเพียงวันเดียว คือวันที่ตรงกับวันที่โมเสสขึ้นไปรับคัมภีร์จากพระเจ้าบนภูเขาซีนาย

เมื่อนบีมุฮัมมัดอพยพไปยังเมืองมะดีนะฮฺ ท่านเห็นชุมชนของลูกหลานอิสราเอลที่นั่นถือศีลอด ด้วยความเคารพในโมเสส ท่านได้สั่งให้มุสลิมสาวกของท่านถือศีลอดเช่นนั้นในปีถัดไป แต่เมื่อพวกลูกหลานอิสราเอลไม่ยอมรับคำสอนอิสลามของพระเจ้าที่ท่านนำมา พระเจ้าจึงบัญชานบีมุฮัมมัดและสาวกของท่านให้ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และเพื่อให้ชายหญิงมุสลิมถือปฏิบัติได้ พระเจ้าจึงให้มุสลิมถือศีลอดโดยงดเว้นจากการกิน การดื่ม การเสพ การมีความสัมพันธ์ทางเพศ และความชั่วทุกอย่าง ตั้งแต่ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว

การถือศีลอดโดยงดสิ่งจำเป็นในชีวิตตลอดช่วงเวลากลางวัน ทำให้ผู้ถือศีลอดได้รับบทเรียนว่าของจำเป็นยังงดเว้นได้ด้วยความศรัทธาในพระเจ้า แล้วทำไมสิ่งที่ไม่จำเป็นเช่นอบายมุขจะงดเว้นไม่ได้


You must be logged in to post a comment Login