วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

ได้เวลางูเห่าโชว์ตัว

On May 3, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 3 พ.ค. 62)

เพื่อไม่ให้ปัญหาเศรษฐกิจ ความขัดแย้งในสังคมรุนแรงบานปลายไปกว่านี้ จึงมีความชัดเจนของกรอบเวลาที่จะได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศหลังการเลือกตั้ง ภายในสัปดาห์ที่สามของเดือนนี้จะได้เห็นโฉมหน้านายกรัฐมนตรีว่าจะเป็นคนหน้าเดิมหรือเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เท่ากับว่าได้เวลาที่บรรดา ส.ส.งูเห่าต้องแสดงตน ประชาชนจะได้รู้ว่าใครจากพรรคไหนแหกมติพรรคไปสนับสนุนขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามบ้าง เมื่อรู้ว่ารัฐบาลใหม่มีเสียงสนับสนุนกี่เสียงก็จะทำให้ประเมินได้ต่อไปว่าจะอยู่บริหารประเทศได้กี่น้ำ

ไทม์ไลน์ของการมีรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งมีความชัดเจนแล้ว

แม้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอให้วินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มาตรา 128 ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 หรือไม่ ก็ไม่กระทบกำหนดประกาศรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นัดไว้ว่าจะประกาศวันที่ 8 พฤษภาคมนี้

กรณีนี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 รวมถึงสำเนาบันทึกการประชุมของคณะกรรมาธิการวิสามัญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 และเอกสารหรือหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องมาให้ศาลภายในวันที่ 7 พฤษภาคม พร้อมนัดแถลงด้วยวาจา และลงมติในเวลา 09.30 น. วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ กกต. จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ

หลักใหญ่ใจความของเรื่องนี้อยู่ที่ว่าเส้นแบ่งจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจะยึดเกณฑ์ ส.ส.พึงมี หรือจะสามารถเกลี่ยที่นั่งในสภาให้กับพรรคการเมืองที่ได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ ส.ส.พึงมีได้

ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไรถือว่าเป็นการช่วยดึง กกต. ให้พ้นจากปากเหว เพราะมีคนจองกฐินฟ้องร้อง กกต. เอาไว้จำนวนมาก ไม่ว่าจะใช้สูตรไหนแบ่งโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญเข้ามาชี้ขาด กกต. ก็สามารถแบ่งโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อได้อย่างสบายใจเพราะมีคำสั่งศาลรองรับ

เท่ากับว่าเป็นการนับถอยหลังสู่การมีรัฐบาลใหม่ เมื่อ กกต. รับรอง ส.ส. ทั้ง 2 ระบบได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของจำนวน ส.ส. ในสภาแล้ว จะต้องมีพระราชพิธีเปิดประชุมสภาภายใน 15 วัน และต้องนำรายชื่อ ส.ว.ลากตั้งขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 3 วัน

ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมา เมื่อมีพระราชพิธีเปิดประชุมสภาแล้วก็จะมีการประชุมกันทันทีเพื่อลงมติเลือกประธานสภา เมื่อได้ประธานสภาแล้ว ประธานก็จะนัดประชุมเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤษภาคม

ส่วนโฉมหน้ารัฐบาลชุดใหม่น่าจะได้เห็นกันช่วงต้นเดือนมิถุนายน

แม้จะมีเรื่องร้องเรียนคัดค้านผลการเลือกตั้งมากกว่า 500 เรื่องที่ กกต. จะต้องพิจารณา แต่ดูแล้วทุกอย่างมุ่งหน้าไปสู่การมีรัฐบาลใหม่ เพื่อให้การเมืองเกิดความชัดเจน ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม มากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เรื่องร้องเรียนที่ไม่ชัดเจน คลุมเครือ กกต. คงตีตกหมด ส่วนเรื่องไหนที่มีพยานหลักฐานชัดเจนเห็นว่ามีมูลก็เก็บเอาไว้ตามสอยภายหลัง

ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ได้รู้กันว่าประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่หน้าเก่าหรือนายกฯหน้าใหม่

ที่สำคัญจะได้รู้ด้วยว่ารัฐบาลใหม่จะมีเสียงสนับสนุนกี่เสียง จะมีงูเห่าเลื้อยออกมาจากรูไหนบ้าง และจะมีกี่ตัว


You must be logged in to post a comment Login