วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

ดนตรีฮาร์ดร็อก

On April 19, 2019

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่  19-26 เมษายน 2562)

นักฟังเพลงสายโหดชื่นชอบดนตรีที่มีจังหวะเร่าร้อน เสียงกลองกระแทกกระทั้น เสียงกีตาร์ดุดัน และเสียงร้องที่คนทั่วไปฟังแล้วเหมือนเป็นการแหกปากมากกว่าการร้องเพลง ดนตรีประเภทนี้รู้จักกันในชื่อ “ฮาร์ดร็อก” แต่คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าดนตรีฮาร์ดร็อกมีมาตั้งแต่ยุควิกตอเรียน

ผู้ที่สนอกสนใจด้านดนตรีต่างทราบกันดีว่าดนตรีฮาร์ดร็อกก่อกำเนิดขึ้นเมื่อสมัยทศวรรษ 1960 แต่ยุควิกตอเรียนนั้นอยู่ระหว่างช่วงปี 1837-1901 หรือช่วงรัชสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียนั่นเอง ดังนั้น จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีดนตรีฮาร์ดร็อกในยุควิกตอเรียน

อ้างถึงโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์ของอังกฤษเมื่อปี 1846 ระบุว่า “The Original Monstre Rock Band” บรรทัดถัดมาเขียนว่า “ร็อกขนานแท้” แต่ยุคสมัยนั้นยังไม่มีแอมปลิไฟเออร์ที่แผดเสียงกีตาร์ไฟฟ้าให้เข้าไปกระแทกตับไตไส้พุงของผู้ฟังเหมือนดนตรีฮาร์ดร็อกในยุคทศวรรษ 1960

ร็อกคลาสสิก

วงดนตรี The Original Monstre Rock Band ก่อตั้งขึ้นเมื่อทศวรรษ 1840 โดยโจเซฟ ริชาร์ดสัน ช่างหินแห่งเมืองเคสวิก ประเทศอังกฤษ โจเซฟประดิษฐ์คิดค้นเครื่องดนตรีชนิดใหม่เรียกว่า “หีบเพลงหิน” จัดเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งในหมวด Lithophones หรือเครื่องดนตรีที่ทำจากหิน

โจเซฟเริ่มโครงการสร้างเครื่องดนตรีชนิดใหม่ในปี 1827 เขาใช้เวลาถึง 13 ปีในการเก็บรวบรวมหินแปรที่หินแต่ละก้อนสร้างเสียงสะท้อนแตกต่างกัน โจเซฟสามารถรวบรวมหินแปรที่ต้องการได้ 61 ก้อน สร้างเสียงดนตรีได้ 5 อ็อกเทฟ หินที่สร้างเสียงสะท้อนต่ำกว่าเสียงโดกลางมีขนาดประมาณ 3 ฟุต ส่วนหินที่สร้างเสียงสูงกว่าเสียงโดกลางจะมีขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆ จนถึงเสียงสูงที่สุดมีขนาดเล็กเพียง 6 นิ้ว

โจเซฟเลือกใช้หินฮอร์นเฟลส์ ซึ่งเป็นหินแปรชนิดหนึ่ง สามารถสร้างเสียงสะท้อนที่นุ่มนวล บทความในนิตยสารฉบับหนึ่งถึงกับเปรียบเทียบว่าดุจดังเสียงเปียโน แต่เทรเวอร์ คอกซ์ วิศวกรด้านเสียงในยุคปัจจุบัน ไม่เห็นด้วยกับข้อความดังกล่าว เสียงสะท้อนจากก้อนหินไม่มีทางสร้างเสียงที่นุ่มนวลแบบนั้นได้ เพราะเสียงมันไม่ต่างกับการใช้ไม้เคาะขวดเบียร์สักเท่าไร

ลูกชาย 3 คนของโจเซฟทำหน้าที่ใช้ค้อนยางเคาะลงบนแผ่นหินเล่นบทเพลงคลาสสิกของโมสาร์ทและบีโทเฟน นิตยสาร The Athenaeum เขียนบทความเปรียบเทียบว่าเหมือนกับโจเซฟทำเรื่องโกหกให้กลายเป็นจริงด้วยการสร้างเสียงเพลงอันไพเราะจากวัสดุหยาบๆและสิ่งของที่ไม่น่าจะนำมาใช้เป็นเครื่องดนตรีได้

ร็อกเดินสาย

The Original Monstre Rock Band แสดงประจำที่ Egyptian Hall ในกรุงลอนดอน และแสดงร่วมกับโชว์อื่นๆ เช่น การแสดงดนตรีพื้นบ้าน การแสดงเหตุการณ์สงครามยิบรอลตาร์ และการแสดงให้อาหารสัตว์ในสวนสัตว์เซอร์เรย์ รวมถึงการเดินสายเปิดการแสดงตามเมืองต่างๆทั่วเกาะอังกฤษ

สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียทรงพอพระทัยดนตรีร็อกของโจเซฟถึงกับเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรเป็นครั้งที่ 2  ครั้งหลังนี้โจเซฟได้เพิ่มเครื่องดนตรีทำจากโลหะเข้ามาด้วย ทำให้สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ฟังดนตรีร็อกแท้ๆ

วงดนตรีร็อกสมัยวิกตอเรียนคือวงดนตรีที่ใช้เครื่องดนตรีทำจากก้อนหินจริงๆ ไม่ใช่ดนตรีร็อกเหมือนในยุคปัจจุบัน แต่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมพอสมควรเลยทีเดียว เพราะหลังจากนั้นก็มีวงดนตรีร็อกถือกำเนิดขึ้นมาอีกหลายวง ทำให้ลูกหลานของโจเซฟต้องตั้งชื่อวงดนตรีโดยมีคำว่า Original (ดั้งเดิม) และ Richardsons (ตระกูลริชาร์ดสัน) อยู่ในชื่อวง เพื่อแสดงตนว่าเป็นวงดนตรีร็อกของแท้ดั้งเดิม

อย่างไรก็ตาม วงร็อกเลียนแบบไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไร ทั้งนี้ เป็นเพราะการหาก้อนหินที่ให้เสียงสะท้อนถูกต้องตามตัวโน้ตไม่ได้หาได้ง่ายๆ อย่าลืมว่าโจเซฟใช้เวลาเสาะหานานถึง 13 ปี อีกทั้งอุปกรณ์ที่ใช้เคาะลงบนก้อนหินเพื่อให้เกิดเสียงสะท้อนดังพอที่จะให้ผู้ฟังได้ยินก็มีน้ำหนักมาก ยากต่อการควบคุม

ยุคทองดนตรีร็อก

หนึ่งในวงดนตรีร็อกที่ประสบความสำเร็จคือวงดนตรี The Till Family ก่อตั้งโดยเดเนียล ทิล ประกอบด้วยลูกสาว 2 คน และลูกชาย 2 คนคือ แอนนี่ อลิซาเบธ วิลเลี่ยม และเดเนียล จูเนียร์ เนื่องจากเขาอาศัยอยู่ละแวกเดียวกันกับโจเซฟ ดังนั้น หินที่นำมาทำเป็นเครื่องดนตรีจึงมีคุณสมบัติเหมือนกับเครื่องดนตรีของโจเซฟ

ปี 1881 The Till Family เปิดการแสดงคอนเสิร์ตในพระราชวังกระจก CrystalPalace มากถึง 136 ครั้ง แต่วงร็อกของ The Till Family ไม่ได้มีแต่เครื่องดนตรีทำจากหิน เดเนียลใช้เครื่องดนตรีชนิดอื่นมาผสมผสานเช่นเดียวกับวงดนตรีทั่วไป

ปี 1895 The Till Family เดินทางไปเปิดการแสดงที่อเมริกาและแคนาดาเป็นเวลา 5 ปี เปิดการแสดงไปมากกว่า 8,000 ครั้ง โดยขายบัตรหมดทุกรอบการแสดง หลังจากนั้นเดเนียลก็ยุบวงและเดินทางกลับอังกฤษ ขณะที่วิลเลี่ยมกับพี่สาวและน้องสาวยังคงเปิดการแสดงต่อ

โทมัส ดัฟฟี นักประพันธ์เพลงและผู้อำนวยการวงดนตรีมหาวิทยาลัยเยล กล่าวว่า การนำหินมาประดิษฐ์เป็นเครื่องดนตรีไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ มนุษย์ประดิษฐ์เครื่องดนตรีจากวัสดุนานาชนิด ใช้กระดูก ไม้ เหล็ก ทองเหลือง ตลอดจนถึงหินมานานนับศตวรรษ แต่หินไม่ค่อยเป็นที่นิยมเนื่องจากมีน้ำหนักมาก และไม่สามารถปรับแต่งโทนเสียงได้เหมือนเครื่องดนตรีที่ทำจากวัสดุชนิดอื่น

หินกังวาน

นับตั้งทศวรรษ 1920 นักโบราณคดีค้นพบว่าก้อนหินขนาดมหึมาที่นำมาเรียงร้อยเป็นสโตนเฮนจ์นั้นถูกนำมาจากสถานที่อื่นที่อยู่ห่างไกลออกไปถึง 200 ไมล์ แต่ที่ยังหาคำตอบไม่ได้คือ อะไรเป็นเหตุผลให้คนโบราณต้องลำบากลำบนขนย้ายก้อนหินเหล่านั้นมาเรียงเป็นสโตนเฮนจ์

นักวิจัยมหาวิทยาลัยศิลปะโรยัลคอลเลจออฟอาร์ตเสนอแนวความคิดที่น่าสนใจทีเดียว พวกเขากล่าวว่า สโตนเฮนจ์ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าระฆังใบใหญ่ ห่างจากจุดที่ตั้งสโตนเฮนจ์ไม่ไกลนักมีหมู่บ้านชื่อ Maenclochog ซึ่งแปลว่า “หินกังวาน” ทำให้ทฤษฎีนี้ฟังดูมีเหตุผลขึ้นมา

รัฐบาลอังกฤษอนุญาตให้นักวิจัยทำการทดลองทฤษฎี แม้ว่าหินบางก้อนจะไม่สร้างเสียงสะท้อน แต่ก็มีหินอีกหลายก้อนที่สร้างเสียงดังกังวาน นักวิจัยได้จดบันทึกว่าหินก้อนใดบ้างที่สร้างเสียงสะท้อนเพื่อทำการค้นคว้าต่อไป

ปัจจุบันยังคงมีหลายชนชาติที่ใช้หินมาประดิษฐ์เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้าน เช่น ไซโลนโฟนของชาวเวียดนามทำมาจากหิน หรือถ้าจะเรียกว่าวงดนตรีร็อกก็คงไม่ผิด เพียงแต่ว่าคำว่าร็อกในวงดนตรีพื้นบ้านหรือในยุควิกตอเรียนนั้นหมายถึงหินจริงๆ ไม่ใช่ดนตรีร็อกที่มีรากเหง้ามาจากเพลงบลูส์

1

1. The Original Monstre Rock Band

2

2. Egyptian Hall

3

3.The Till Family

4

4. The Till Family เปิดการแสดงที่ CrystalPalace

5

5.วิลเลี่ยม ทิล กับเครื่องดนตรีทำจากหิน

6

6.วิลเลี่ยมสาธิตการเล่นเครื่องดนตรีทำจากหิน

7

7.วิลเลี่ยมสานต่ออาชีพนักดนตรีร็อกจากบิดา

8

8.นักวิจัยศึกษาเสียงสะท้อนจากก้อนหินสโตนเฮนจ์

 


You must be logged in to post a comment Login