วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

อุ้มกลุ่มทุนใหญ่?

On April 15, 2019

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

(ประจำวันที่ 15 เม.ย. 62)

“สุภิญญา กลางณรงค์” อดีต กสทช. ให้ความเห็นกรณีคำสั่งหัวหน้า คสช. “มาตรา 44” ยืดระยะเวลาจ่ายเงินค่าประมูลคลื่นของกลุ่มโทรคมนาคม อนุญาตให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลคืนใบประกอบกิจการได้ ยกเว้นค่าธรรมเนียมประมูล 3 งวด และอุดหนุนค่าเช่าโครงข่ายกระจายสัญญาณ ซึ่งมีกระแสข่าวมานานแล้วแต่มีเสียงค้านจึงชะลอมาระยะหนึ่ง แต่ในที่สุดก็มีคำสั่งดังกล่าวออกมา

“สุภิญญา กลางณรงค์” ชี้ว่า การออกคำสั่งหลังเลือกตั้งและช่วงสงกรานต์ทำให้คนกังขาความสัมพันธ์ คสช. กับ “ทุนใหญ่สื่อ” ได้ประโยชน์และอาจมีเจตนาไม่ต้องการให้มีการตรวจสอบ เพราะการใช้ “มาตรา 44” เท่ากับใช้อำนาจที่ตรวจสอบไม่ได้ในเรื่องที่เอื้อเอกชนและกระทบประโยชน์ของชาติ ครั้งสมัยรัฐบาลไทยรักไทยที่แปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิตก็ถูกวิจารณ์อย่างมากว่าเอื้อกลุ่มทุนเอกชน แต่ยังมีรัฐสภาตรวจสอบได้

“สุภิญญา กลางณรงค์” ยังมองว่า การใช้ “มาตรา 44” ทำให้ กสทช. ลอยตัว ทั้งที่ กสทช. สามารถใช้อำนาจออกประกาศได้ ทำไมต้องใช้คำสั่ง คสช. ซึ่งตรวจสอบย้อนหลังก็ไม่ได้

ใครจะรับผิดชอบ คสช. มีเหตุผลอะไรพิเศษและเหตุใดต้องช่วยขนาดนี้? ซึ่งการให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลคืนใบอนุญาตควรมีเงื่อนไขว่าถ้าจะยกเลิกต้องเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน เพราะจะมีผลกระทบกับลูกจ้าง

ขณะที่ทีวีดิจิตอลและสื่อในเครือข่ายที่อยู่คนละแพลตฟอร์มก็จะไม่นำเสนอข่าวนี้ในเชิงตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เนื่องจากเกิดภาวะน้ำท่วมปาก ประชาชนก็ไม่สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารเรื่องนี้

“สุภิญญา กลางณรงค์” รู้สึกเสียใจที่ในอดีต กสทช. ออกแบบทีวีดิจิตอลให้มีหลายช่องหลายเฉด เพื่อให้มีอิสระในการตรวจสอบผู้มีอำนาจ

เมื่อเรื่องนี้กลายเป็น “ระบบอุปถัมภ์” เพื่อความอยู่รอดของทีวีก็ต้องเซ็นเซอร์ตัวเอง เพราะผลประโยชน์ที่ทับซ้อน!!??


You must be logged in to post a comment Login