วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

“ธนาธร”หลีกทาง”หญิงหน่อย”นั่งนายกฯจับมือต้านสืบทอดอำนาจ

On March 25, 2019

ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ คณะกรรมการบริหารพรรค นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ร่วมกันแถลงถึงผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา โดยนายธนาธรกล่าวว่า ขอแถลงจุดยืน 4 ข้อต่อการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมาคือ

1.หลักการจัดตั้งรัฐบาล นายธนาธรพร้อมเป็นนายกฯ แต่พรรคอนาคตใหม่จะไม่เสนอชื่อนายธนาธรเป็นนายกฯ เพราะต้องการยืนยันวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ถูกต้อง พรรคอนาคตใหม่ไม่เสนอชื่อนายธนาธรเป็นนายกฯเพราะสังคมไทยต้องยึดหลักการที่ถูกต้อง พรรคที่ชนะเป็นอันดับหนึ่งต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายกฯต้องมาจากพรรคที่มี ส.ส. อันดับหนึ่ง

2.ปิดสวิตช์ ส.ว. ยืนยันว่าการปิดสวิตช์ยังเป็นไปได้ พรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สืบทอดอำนาจมี 3 พรรคคือ พรรคพลังประชารัฐ 116 ที่นั่ง พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 ที่นั่ง พรรคปฏิรูปประชาชน มี 0 หรือ 1 ที่นั่ง หากรวมพรรคสืบทอดอำนาจคือ 122 ที่นั่ง เงื่อนไขการปิดสวิตช์ ส.ว. คือ ส.ส. สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์น้อยกว่า 124 ที่นั่ง จึงขอชวนพรรคการเมืองที่เชื่อว่า ส.ส. คือตัวแทนประชาชน ต้องฟังเสียงประชาชน โดยเฉพาะที่ไม่ได้อยู่กับค่ายสืบทอดอำนาจ มาร่วมกันรับรองนายกฯจากพรรคที่รวมเสียงข้างมากได้ และขอวิงวอนภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป ร่วมกันเรียกร้องให้ ส.ส. ทุกพรรคปิดสวิตช์ ส.ว. ที่สภาล่าง ซึ่งยังมีความเป็นไปได้ ยืนยันว่านี่เป็นวิธีที่สันติที่สุดให้การเมืองหลังการเลือกตั้งไม่วุ่นวาย หากปล่อยให้ ส.ว. เลือกนายกฯ ประเทศไทยจะเดินหน้าสู่ความขัดแย้งวุ่นวายได้

3.เงื่อนไข MOU ในการตกลงเข้าร่วมรัฐบาล จะต้องมีข้อตกลงร่วมกันจากเงื่อนไขของแต่ละพรรค ไม่ใช่ต่อรองแลกตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่เท่านั้น แต่ต้องมีหลักการพื้นฐานร่วมกันด้วย ซึ่งพรรคอนาคตใหม่มี 3 ข้อคือ 1.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อเพิ่มเติมหมวดการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับให้มี ส.ส.ร. ที่มาจากประชาชน แล้วจบที่การทำประชามติ ตัวอย่างคือการเปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญฉบับ 2534 สู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน 2540 จะรื้อฟื้นจิตวิญญาณ 40 กลับมาใหม่ 2. ต้องจัดการมรดกบาปของ คสช. ทั้งยุทธศาสตร์และแผนปฏิรูป ในขั้นต้นขอเสนอวิธีที่ง่ายและเป็นไปได้มากสุดคือ ปลดมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ให้ความคุ้มกันรับรองบรรดาประกาศ คำสั่ง และการใช้อำนาจ คสช. ตลอด 5 ปีและในอนาคต ชอบด้วยกฎหมายตลอดกาล จึงต้องปลดล็อกให้ได้ และ 3.วงจรรัฐประหาร ต้องปฏิรูปกองทัพให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน โดยให้กองทัพอยู่ถูกที่ เพื่อจะได้ไม่ต้องรัฐประหารอีกต่อไป

4.ข้อเรียกร้องต่อ กกต. พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ตลอดคืนที่ผ่านมาและเช้านี้ที่ทุกคนตั้งคำถามเรียกร้องไปยัง กกต. ถึงการนับคะแนน ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่ขอเรียกร้องให้ กกต. เปิดข้อมูลทั้งหมด ทั้งจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ผลการลงคะแนน จำนวนบัตรที่พิมพ์ และจำนวนบัตรที่ใช้ลงคะแนน โดยขอให้เปิดเผยเรียงหน่วยเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่ภาพรวม เพื่อให้ภาคเอกชน ภาคประชาชน พรรคการเมือง ที่พร้อมดูข้อมูลส่วนนี้ ยืนยันว่าข้อมูลข่าวสารที่ยกเว้นไม่ให้เปิดเผยนั้นต้องเป็นด้านความมั่นคง แต่ส่วนนี้ไม่ใช่ กกต. ต้องทำเพื่อความโปร่งใส หาก กกต. มั่นใจว่าจัดการเลือกตั้งได้อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมก็ไม่มีเหตุผลอะไรต้องปิดข้อมูลเชิงสถิตินี้ไว้ เรื่องนี้พรรคอนาคตใหม่จะส่งตัวแทนไปยื่นหนังสืออย่างชัดเจนต่อ กกต. ต่อไป

นายปิยบุตรกล่าวว่า ส่วนข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับผลคะแนนเลือกตั้งจากผู้สมัคร ส.ส. แต่ละเขตของเรา ได้รับการร้องเรียนมาว่ามีหลายเขตเลือกตั้งที่มีปัญหา โดยเฉพาะ กทม. ที่มี 11 เขตเอาชนะพรรคอนาคตใหม่เพียงหลัก 700-2,000 คะแนน ซึ่งถือว่าไม่มาก จนมีข้อสงสัยว่าผิดพลาดบกพร่องหรือไม่ พรรคอนาคตใหม่จะยื่นถาม กกต. ว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องนับคะแนนใหม่ ด้านต่างจังหวัดมีอีก 10 เขต ขอเรียกร้องว่าถ้า กกต. โปร่งใสจริงก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น การเปิดเผยอยู่กับแสงสว่างจะพิสูจน์ว่า กกต. ทำงานได้อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแท้จริง โดยจะไปยื่นหนังสือถึง กกต. ในวันที่ 26 มีนาคม

เมื่อถามถึงคำอธิบายของการไม่เสนอชื่อนายธนาธรเป็นนายกฯ นายปิยบุตรกล่าวว่า นี่คือหลักธรรมเนียมปฏิบัติให้พรรคการเมืองอันดับหนึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกฯ เพราะตั้งแต่ปี 2535 ก็เป็นแบบนี้มาตลอด การเลือกตั้งเฉือนกันหลายครั้ง พรรคของนายบรรหารเฉือนประชาธิปัตย์ พรรคความหวังใหม่เฉือนประชาธิปัตย์ 1-2 ที่นั่ง ก็ต้องให้พรรคที่ชนะตั้งรัฐบาล แต่ครั้งนี้เฉือนกันเป็นหลักสิบ ไม่มีเหตุผลอะไรที่พรรคอันดับสองจะตั้งรัฐบาล ก่อนการเลือกตั้งพรรคเราเสนอนายธนาธรก็ยังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่านายธนาธรจะเป็นนายกฯ แต่ต้องมาอย่างสง่างามผ่าเผย ต้องชนะอันดับ 1 ถ้าได้อันดับ 3 ถือว่าเป็นนายกฯไม่สง่างาม

นายธนาธรกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่ออยากได้ตำแหน่งนายกฯหรือรัฐมนตรี แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลง ผลักดันวาระก้าวหน้าให้สังคม จึงยืนยันที่จะทำการเมืองระยะยาว

เมื่อถามว่าจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยอันดับ 1 ที่ไม่ได้เป็น ส.ส. หรือไม่ มีการติดต่อหารือกับพรรคเพื่อไทยแล้วหรือยัง นายธนาธรกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ให้น้ำหนักกับการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจกับ คสช. เป็นเงื่อนไขสำคัญ และแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็แสดงตัวชัดเจนว่าเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้ง เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 2 แม้ไม่ได้ตำแหน่ง ส.ส. แต่ได้แสดงความตั้งใจชัดเจนว่าอยู่กับกติกา

นายธนาธรกล่าวอีกว่า ขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่อยากให้ประเทศไทยเกิดทางตัน คุณหญิงสุดารัตน์แสดงความตั้งใจจริงที่จะอยู่ในระบบในกติกา แต่เงื่อนไขการเลือกตั้งเป็นแบบนี้ไม่ได้ ส.ส. เราอนาคตใหม่ ยอมรับอนาคตใหม่ คุณหญิง เพื่อไทย

“เมื่อคืนที่ผ่านมามีการคุยคร่าวๆ แต่ยังไม่มีรายละเอียดมาก มีจุดที่เห็นตรงกันคือ ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. เท่านั้นที่หารือกับพรรรคเพื่อไทยไป ย้ำอีกครั้งว่าไม่มีการพูดถึงนายกฯ รัฐมนตรีกระทรวงใดๆ ในรายละเอียดมีเพียงเรื่องเดียวว่า นี่คือช่วงเวลาการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. อย่างน้อยที่สุดนี่คือสิ่งที่สังคมต้องการ ขอให้ใจเย็นๆ นี่เพิ่ง 1 วันหลังการเลือกตั้งเท่านั้น” นายธนาธรกล่าว

เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อ้างว่าได้คะแนนดิบมากที่สุด จะตั้งรัฐบาลโดยไม่รอพรรคเพื่อไทยที่ได้ ส.ส. อันดับ 1 โดยอาจมีพรรคภูมิใจไทยร่วมด้วย นายปิยบุตรกล่าวว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยนั้น พรรคอันดับ 1 อย่างพรรคเพื่อไทยต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เป็นหน้าที่พรรคเพื่อไทยที่จะไปร่วมฝ่ายต้าน คสช. ให้ได้ เงื่อนไขพรรคอนาคตใหม่ถ้าจะร่วมภูมิใจไทยก็ยึดตาม 3 ข้อที่แถลงไว้ ขอยืนยันว่าตามประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา เฉือนกัน 1-2 ที่นั่งยังตั้งกันได้ แต่รอบนี้ชนะห่างกันเป็น 10 แล้วจะอ้างว่าไม่มีกฎหมายข้อไหนกำหนดไม่ได้ สุดท้ายก็อ้างกันหลักลอย ถ้ามีกฎหมายอ้างกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายก็อ้างธรรมเนียม สลับไปสลับมา

“หลักการนี้ต้องยึดให้มั่น นี่จึงทำให้เราไม่เสนอนายธนาธรเป็นนายกฯ เพราะหมายถึงล้มหลักการ เปิดทางให้ พปชร. ตั้งรัฐบาล ที่จะมาอ้างชนะผลคะแนนดิบ 7 ล้านกว่าเสียงไม่ได้ เพราะปัญหาคือประเทศไทยอยู่ในระบบรัฐสภา ต้องยึดเสียง ส.ส. ข้างมากสภาผู้แทนราษฎร ส่วนคะแนนดิบหรือป๊อบปูล่าโหวตนั้นไว้ใช้กับประเทศที่เลือกนายกฯโดยตรง แต่ประเทศไทยไม่ใช่ จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ พปชร. จะใช้อ้างจัดตั้งรัฐบาล” นายปิยบุตรกล่าว

นายธนาธรกล่าวว่า ตัวเลขที่อยู่ในมือของตน ฝ่ายสนับสนุน คสช. เสียง ส.ส. รวมกันต่ำกว่า 124 จึงขอชวนทั้งนักการเมือง ส.ส. ในฐานะผู้แทนฯทุกคน ร่วมกันดำรงตนให้เหมาะสม ยกมือโหวตให้พรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากให้ได้ 376 เสียงก็ยังเป็นไปได้ ตอนนี้คงต้องรอดูท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าทุกคนคงรู้ว่าพรรคใดเป็นตัวแปรบ้าง ขอเรียกร้อง ส.ส. ที่ยังเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ เคารพเสียงประชาชน มาร่วมกันทำตามนี้ เพื่อที่จะไม่พาประเทศสู่ความวุ่นวาย ทางนั้นยังเปิดอยู่


You must be logged in to post a comment Login