วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

“ไพบูลย์”ชี้รัฐบาลหน้ามีเสียงหนุนเกิน270เสียง

On March 18, 2019

นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวประเมินสถานการณ์การเมืองหลังเลือกตั้งว่า รัฐบาลหน้าจะเป็นรัฐบาลที่มีเสียงเกิน 270 เสียง ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรจะสามารถเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีตั้งรัฐบาลมาบริหารได้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะได้รับการโหวตจาก 2 สภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ประกอบด้วยพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำหลัก และพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรครวมพลังประชาชาติไทย รวมถึงพรรคอื่นที่มีแนวทางปฏิรูปประเทศต่อเนื่องจากรัฐบาลปัจจุบัน มาเข้าร่วมกันสนับสนุนตั้งรัฐบาล คาดว่าจะได้รัฐบาลใหม่เดือนมิถุนายน ข้อดีของรัฐบาลที่มีเสียงสนับสนุน 200 กว่าเสียง ทำให้การทำงานผลักดันโครงการต่างๆทำได้เร็ว หมดปัญหาแบ่งมุ้งแบ่งโควตาแต่ละพรรคที่เคยจ้องต่อรองเอาเก้าอี้กระทรวงเกรดเอ แต่อย่างไรหากเกิดเหตุการณ์อ่อนไหวส่งผลต่อบ้านเมือง การตั้งรัฐบาลใหม่ต้องเลื่อนออกไป พล.อ.ประยุทธ์และคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันยังคงมีอำนาจเต็มในการบริหารบ้านเมืองต่อได้

“หลังเลือกตั้งจะไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากแบบถล่มทลายหรือแลนด์สไลด์ แต่ละพรรคใหญ่ๆได้คะแนนเสียงราวๆ 100 เสียงต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ จึงต้องใช้การรวบรวมเสียงในสภามาจัดตั้งรัฐบาลผสม หากพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย โดยมีพรรคภูมิใจไทยไปอยู่ด้วย และพรรคเครือข่ายขั้วเดิมที่มีแนวคิดต่อต้านรัฐบาลนี้ เสนอนโยบายล้มเลิกทุกอย่าง รวมเสียงกันได้ 376 เสียงก็จัดตั้งรัฐบาลได้ แต่จะส่งใครนั่งนายกรัฐมนตรีที่มีความเหมาะสม มีความสามารถพัฒนาบ้านเมือง เดินหน้าไปอย่างมีความสงบและมั่นคง หรือส่งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานยุทธศาสสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผลัดกันเป็นนายกฯคนละ 3 เดือน ก็ต้องชี้แจงจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจนต่อสาธารณชนล่วงหน้าด้วย” นายไพบูลย์กล่าว


You must be logged in to post a comment Login